อาการผิดปกติที่สามารถเกิดขึ้นได้กับลูกน้อยขณะอยู่ในครรภ์ ประโยชน์ของการตรวจความผิดปกติในครรภ์เป็นอย่างไร คุณแม่มือใหม่หลายๆคนมีความกังวัลไม่น้อยว่าต้องทำเมื่อไหร่ อย่างไร ?
รองศาสตราจารย์ ดอกเตอร์ นายแพทย์บุญศรี จันทร์รัชชกูล สูติ-นรีแพทย์ คลินิกสูติ-นรีเวช โรงพยาบาลปิยะเวท ได้ให้คำแนะนำและความรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ ไว้ว่า :
ความผิดปกติของทารกในครรภ์นั้นมีหลายอย่าง เช่น ความพิการแต่กำเนิด ปากแหว่ง เพดานโหว่ ลิ้นหัวใจพิการ ทารกหัวบาตร (ศีรษะบวมน้ำ) ภาวะไม่มีสมอง และไม่มีกระโหลกศีรษะ รวมทั้งโครโมโซมผิดปกติ พบได้ร้อยละ 2 - 3 ของหญิงตั้งครรภ์ ซึ่งภาวะผิดปกติเหล่านี้มักก่อให้เกิดความพิการแต่กำเนิด รวมทั้งการสูญเสียชีวิตของทารก การตรวจจึงมีความสำคัญและมีประโยชน์มาก หนึ่งคือ ทำให้รู้ว่าทารกในครรภ์มีความผิดปกติหรือไม่ สอง ถ้ารู้ว่าทารกในครรภ์ผิดปกติ จะมีแนวทางในการแก้ไขอย่างไร และสาม ถ้าทารกมีความผิดปกติ จะวางแผนการตั้งครรภ์อย่างไร การตรวจความผิดปกติของทารกในครรภ์จึง ควรตรวจตั้งแต่แรกเลยที่รู้ว่าตั้งครรภ์ อย่างแรกเลยเพื่อดูก่อนว่าการตั้งครรภ์อยู่ในมดลูกหรือไม่ ถ้าการตั้งครรภ์อยู่ในมดลูก ก็ดูเรื่องความผิดปกติอื่นๆ ที่อาจเกิดขึ้นต่อไป
ไม่ว่าจะครรภ์แรกหรือครรภ์ที่ 2, 3 , 4 สำหรับแม่ ทุกครั้งที่ตั้งครรภ์ นอกจากความตื่นเต้นยินดี มักจะมีความกังวลอยู่ด้วย และสิ่งที่ทำให้แม่เป็นกังวลมากที่สุด คือ กลัวลูกจะมีความผิดปกตินั่นเอง การตรวจความผิดปกติของทารกในครรภ์จึงเป็นสิ่งจำเป็นที่แม่ทุกคนควรใส่ใจ ซึ่งปัจจุบันมีเครื่องมือที่ทันสมัยและสามารถทำได้ในหลายโรงพยาบาล
ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก
https://www.facebook.com/VoiceOfHealthy
อาการผิดปกติที่สามารถเกิดขึ้นได้กับลูกน้อยขณะอยู่ในครรภ์ การตรวจความผิดปกติของทารกในครรภ์
อาการผิดปกติที่สามารถเกิดขึ้นได้กับลูกน้อยขณะอยู่ในครรภ์ ประโยชน์ของการตรวจความผิดปกติในครรภ์เป็นอย่างไร คุณแม่มือใหม่หลายๆคนมีความกังวัลไม่น้อยว่าต้องทำเมื่อไหร่ อย่างไร ?
รองศาสตราจารย์ ดอกเตอร์ นายแพทย์บุญศรี จันทร์รัชชกูล สูติ-นรีแพทย์ คลินิกสูติ-นรีเวช โรงพยาบาลปิยะเวท ได้ให้คำแนะนำและความรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ ไว้ว่า :
ความผิดปกติของทารกในครรภ์นั้นมีหลายอย่าง เช่น ความพิการแต่กำเนิด ปากแหว่ง เพดานโหว่ ลิ้นหัวใจพิการ ทารกหัวบาตร (ศีรษะบวมน้ำ) ภาวะไม่มีสมอง และไม่มีกระโหลกศีรษะ รวมทั้งโครโมโซมผิดปกติ พบได้ร้อยละ 2 - 3 ของหญิงตั้งครรภ์ ซึ่งภาวะผิดปกติเหล่านี้มักก่อให้เกิดความพิการแต่กำเนิด รวมทั้งการสูญเสียชีวิตของทารก การตรวจจึงมีความสำคัญและมีประโยชน์มาก หนึ่งคือ ทำให้รู้ว่าทารกในครรภ์มีความผิดปกติหรือไม่ สอง ถ้ารู้ว่าทารกในครรภ์ผิดปกติ จะมีแนวทางในการแก้ไขอย่างไร และสาม ถ้าทารกมีความผิดปกติ จะวางแผนการตั้งครรภ์อย่างไร การตรวจความผิดปกติของทารกในครรภ์จึง ควรตรวจตั้งแต่แรกเลยที่รู้ว่าตั้งครรภ์ อย่างแรกเลยเพื่อดูก่อนว่าการตั้งครรภ์อยู่ในมดลูกหรือไม่ ถ้าการตั้งครรภ์อยู่ในมดลูก ก็ดูเรื่องความผิดปกติอื่นๆ ที่อาจเกิดขึ้นต่อไป
ไม่ว่าจะครรภ์แรกหรือครรภ์ที่ 2, 3 , 4 สำหรับแม่ ทุกครั้งที่ตั้งครรภ์ นอกจากความตื่นเต้นยินดี มักจะมีความกังวลอยู่ด้วย และสิ่งที่ทำให้แม่เป็นกังวลมากที่สุด คือ กลัวลูกจะมีความผิดปกตินั่นเอง การตรวจความผิดปกติของทารกในครรภ์จึงเป็นสิ่งจำเป็นที่แม่ทุกคนควรใส่ใจ ซึ่งปัจจุบันมีเครื่องมือที่ทันสมัยและสามารถทำได้ในหลายโรงพยาบาล
ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก https://www.facebook.com/VoiceOfHealthy