โว๊ะ บัดบ๊อบ อารมณ์เสียทำไมนะ ดารา-นักร้องที่ปลื้มที่ชอบไม่รู้จักเซิร์ทกูเกิ้ล หรือหาข่าวข้อมูลที่ถูกต้องก่อนโพสอะไร

โว๊ะ บัดบ๊อบ อารมณ์เสียทำไมนะ ดารา-นักร้องที่ปลื้มที่ชอบไม่รู้จักเซิร์ทกูเกิ้ล หรือหาข่าวข้อมูลที่ถูกต้องก่อนโพสต์อะไร
ไอซ์ ศรันยู ไม่น่าเล๊ยยยยยย ทำไมไปเชื่อข้อมูลผิดๆโดยไม่เช็คให้แน่ใจก่อนโพสต์





คณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ ม.รังสิต ออกแถลงการณ์ยืนยัน "ภาษีคนโสด" ไม่ใช่ข้อเสนอของคณะเศรษฐศาสตร์และไม่เกี่ยวกับรัฐบาล

ณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต  ออกแถลงการณ์ยืนยัน"ภาษีคนโสด"ไม่ใช่ข้อเสนอของคณะเศรษฐศาสตร์และไม่เกี่ยวข้องกับรัฐบาล ชี้เป็นเพียงข้อเสนอของนักวิชาการในงานสัมนาเท่านั้น
 
จากกรณี นายเทอดศักดิ์ ชมโต๊ะสุวรรณ เลขานุการคณะเศรษฐศาสตร์ และอาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต นำเสนอให้เก็บภาษีคนโสดระหว่างการอภิปรายหัวข้อการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างเศรษฐกิจและนโยบายการรองรับในสองทศวรรษหน้า เพื่อกระตุ้นให้คนมีลูกเพิ่ม รับมือประเทศไทยเข้าสู่ยุคสังคมคนชรา จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวาง ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น
 
ล่าสุดวันนี้ (8ก.ย.56) นายอนุสรณ์ ธรรมใจ รองอธิการบดีฝ่ายวิจัยและวิชาการ และคณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต  ได้ออกแถลงการณ์ชี้แจงว่า "ภาษีคนโสด"ไม่ใช่ข้อเสนอของคณะเศรษฐศาสตร์แต่อย่างใด และไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับรัฐบาล เพราะเป็นเพียงข้อเสนอของนักวิชาการท่านหนึ่งที่ห่วงใยประเทศชาติและนำเสนอด้วยความบริสุทธิ์ใจเพื่อให้มีการอภิปรายอย่างสร้างสรรค์ แต่เป็นที่น่าเสียใจที่สังคมไทยมีความแตกแยกสูงมากและได้นำประเด็นดังกล่าวไปบิดเบือนว่ารัฐบาลจะเก็บภาษีคนโสด ซึ่งไม่ใช่ข้อเท็จจริงแต่ประการใด
 
นอกจากนี้ยังใช้ถ้อยคำรุนแรงต่อนักวิชาการท่านดังกล่าวใน Social Media ซึ่งเป็นการทำลายขวัญกำลังใจในการทำหน้าที่บริการวิชาการเพื่อประโยชน์สาธารณะ  
 
นายอนุสรณ์  ระบุว่า โดยส่วนตัวไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งต่อการเก็บภาษีคนโสด เนื่องจากการเก็บภาษีต้องยึดหลักความเป็นธรรมและเสมอภาค ไม่ควรนำเอาสถานภาพโสดหรือแต่งงานของบุคคลมาเป็นเกณฑ์กำหนด  แต่ คณะเศรษฐศาสตร์ ม. รังสิต ยึดถือนโยบายการให้เสรีภาพทางวิชาการ นักวิชาการทุกท่านสามารถนำเสนอความเห็นได้อย่างเป็นอิสระภายใต้ความรับผิดชอบต่อสังคมและองค์กร 
 
 
นอกจากนี้ ภาษีคนโสดยังมีความยุ่งยากในทางปฏิบัติ และไม่มีหลักประกันอะไรว่าอัตราเพิ่มของประชากรจะสูงขึ้น การตัดสินใจเรื่องแต่งงานและการมีครอบครัวเป็นสิทธิส่วนบุคคลและเป็นเรื่องของสิทธิมนุษยชน เป็นเรื่องความหลากหลายทางเพศ รัฐจึงไม่ควรมีนโยบายหรือมาตรการไปบริหารจัดการหรือแทรกแซงชีวิตส่วนตัวของประชาชน แต่ในทางวิชาการควรจะมีการศึกษาเอาไว้เพื่อเป็นข้อมูลและเป็นประโยชน์ต่อการตัดสินใจทางนโยบาย เนื่องจากโครงสร้างประชากรและการก้าวสู่สังคมผู้สูงอายุจะเป็นปัญหาสำคัญของสังคมไทยในอนาคตที่ต้องเริ่มต้นวางแผนแก้ไขตั้งแต่วันนี้ การปรับเปลี่ยนโครงสร้างประชากรหรือการทำให้อัตราการเพิ่มประชากรสูงขึ้นจึงต้องใช้มาตรการที่อยู่บนแนวคิดแบบสมัครใจหรือสร้างแรงจูงใจในทางบวกมากกว่าแรงจูงใจในทางลบ 
 
 
ทั้งนี้ มองว่าหากเราไม่แก้ปัญหาเรื่องโครงสร้างประชากร นอกจากจะเกิดสภาพประชากรหดตัวแล้ว รายได้ต่อหัวจะลดลง  เราจะเจอกับปัญหาภาระทางการคลังที่เพิ่มขึ้น ความยั่งยืนทางการเงินของระบบสวัสดิการชราภาพสั่นคลอน ระบบประกันสังคมล้มละลายได้ ประเทศพัฒนาแล้วต่างเจอปัญหานี้ในขณะนี้ 
 
by Wasinee

8 กันยายน 2556 เวลา 15:19 น.
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่