คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 9
ประเด็น ของ เรื่องคือ
" การเปรียบเทียบ "
อย๋าเอาเราไปเปรียบกับเขา ครับ เพราะ ไม่ว่า อย่างไร ก็ ไม่ดี ครับ
เพราะ เมื่อ เปรียบเทียบแล้ว ย่อม
ดีกว่า ด้อยกว่า เต่นกว่า สวยกว่า ทุเรศกว่า ฯลฯ กว่า ทั้งนั้นครับ
หยุดเปรียบเทียบ ครับ แล้วจะค่อยๆดีขึ้น คนอื่นรอบข้างคุณ ที่เขา บอกว่า
อย่างนั้น อย่างนี้ เพราะ เขา เปรียบเทียบ คุณ กับ คนอื่น ครับ
ซ้ำร้าย คุณ ก็เป็นไปกับเขาด้วย ต่อให้คุณดีกว่าเขา แล้วไงครับ
คุณ ก็จะเกิดความรู้สึก ดูถูก ดูหมิ่นเขา ขึ้นมาอีกอยู่ดีครับ
ผม มี เพื่อน รวยๆ หลายคน ครับ ทั้งที่ รวยมาจากพ่อแม่ ก็มี
รวยมาจาก ที่เขาเองทำงานแล้วเจริญรุ่งเรื่องก็มีครับ ส่วนผม
ก็แค่ พออยู่พอกิน พอใช้ ครับ
คุณ หรือ คนรวบข้างคุณ มอง ไปทีคนที่รวยกว่า เท่านั้นเองครับ
ไม่ได้มองลงมาที่ คนที่แย่กว่าคุณบ้างเลยครับ
มันแตกต่างกัน นะครับ ระหว่าง
ตั้งเป้าหมายไว้ให้สูง
กับ
ต้อง สูงกว่า คนนั้น คนนี้ ให้ได้
แบบแรก เราจะไม่ต้องเปรียบเทียบ กับใคร เมื่อทำได้ เราก็ภูมิใจ เมื่อทำไม่ได้ เราก็ ไม่กดดัน
แต่แบบหลัง ถ้าเราทำได้ เราก็จะดูหมิ่มคนอื่น ถ้าทำไม่ได้ ก็ อิจฉาริษยา เขา
--------------------------------------
ผมไม่รู้คุณมีพื้นฐาน ครอบครัวมาแบบไหน นะครับ
แต่ สำหรับ ผม
เพื่อน รวย จน เราเพื่อนกัน เพราะ เพือนกัน ไม่ได้ วัดกันว่า รวยหรือจน แค่ จริงใจให้แก่กัน พอ
พี่น้อง ก็ไม่ได้วัดกัน ที่รวยจน แต่ ดูว่า รักสามัคคี กัน หรือเปล่า ฐานะ ไม่เกี่ยว
-----------------------------------
สิ่งที่เขาทำ เขา อาจแค่ คิดว่า เขาทำในสิ่งที่เขาทำได้ ก็เท่านั้นเองครับ
ลองคิดกลับ กัน ถ้า เป็น คุณ คุณ รวยกว่าพี่น้องคุณ(สมมุติว่า ประมาณ เจ้าพ่อไมโครซอฟ ) แล้ว ออกไปกินข้าว
มื้อหนึ่ง ไม่กี่พันบาท คุณ จะ ให้ พี่น้องคุณ หารค่าข้าวมื้อแค่นั้นหรือเปล่าครับ
เขา มีน้ำใจ กลับไปคิด อิจฉาเขา หรือเปล่าครับ เพราะ ไปเข้าใจ เขาผิดไปหรือเปล่าครับ
แล้ว ถ้าคุณออกค่าข้าวให้เขา แล้ว มารู้ว่า เขาไม่พอใจมากที่ทำแบบนี้ เหมือนดูถูกเขา
ว่า ไม่มี ปัญญาจ่ายค่าข้าวหรือไง คุณคิดว่า คุณจะเสียใจไหม ครับ หรือ คืดกับเขา ยังไงครับ
ผม ไม่ค่อยมี ฐานะมากนัก เวลา ออกไปกินอะไรกับ ตามประสาผู้ชาย เพื่อนผม ก็จะมักออกเงินให้
แต่ ผม ก็ ไม่รีรอ ที่เวลาเขา ต้องการความเชื่อเหลืออะไร ที่ ผม ทำได้ ผมก็ทำให้
เพื่อนกัน เรา ทำในสิ่งที่เราทำได้ ครับ
กับน้อง(ญาติเมีย) ผม ก็ แบบนี้ครับ เขารวย ชวนไปกินข้าว ถ้าผมไม่มีเงิน ผมบอกเลย ผมไม่มีนะ
เลี้ยงด้วย แต่ถ้าเขา ต้องการให้ช่วย เขาก็บอกเลย เหมือนกัน ผมก็ช่วยเลย พี่น้อง ครับ
กับ พี่น้อง เพื่อนกัน ยังเล่นแง่ มีเล่ห์เหลี่ยม อีกหรือครับ
บอกกับ ตรงๆ ไปเลยครับ อยากให้เขาทำไง บอกได้ครับ
ก็ พี่น้อง เพื่อนฝูงกัน ถ้า บอกกันแค่นี้ไม่ได้ ก็คงไม่ใช่แล้วมั้งครับ
อย่าไปมัวเปรียบเทียบ เพื่อทำให้เรา ทุกข์ใจอยู่เลยครับ
ดู กับ จริงๆแล้ว ทุกวันนี้ สังคม อยุ่ยากขึ้นทุกวัน ครับ
อย่าทำให้ตัวเอง โดดเดี่ยว เลยครับ
-----------------------------------------------------------------------------------------------------
สุดท้าย หวังว่า คง สบายใจ ได้ บ้างนะครับ
" การเปรียบเทียบ "
อย๋าเอาเราไปเปรียบกับเขา ครับ เพราะ ไม่ว่า อย่างไร ก็ ไม่ดี ครับ
เพราะ เมื่อ เปรียบเทียบแล้ว ย่อม
ดีกว่า ด้อยกว่า เต่นกว่า สวยกว่า ทุเรศกว่า ฯลฯ กว่า ทั้งนั้นครับ
หยุดเปรียบเทียบ ครับ แล้วจะค่อยๆดีขึ้น คนอื่นรอบข้างคุณ ที่เขา บอกว่า
อย่างนั้น อย่างนี้ เพราะ เขา เปรียบเทียบ คุณ กับ คนอื่น ครับ
ซ้ำร้าย คุณ ก็เป็นไปกับเขาด้วย ต่อให้คุณดีกว่าเขา แล้วไงครับ
คุณ ก็จะเกิดความรู้สึก ดูถูก ดูหมิ่นเขา ขึ้นมาอีกอยู่ดีครับ
ผม มี เพื่อน รวยๆ หลายคน ครับ ทั้งที่ รวยมาจากพ่อแม่ ก็มี
รวยมาจาก ที่เขาเองทำงานแล้วเจริญรุ่งเรื่องก็มีครับ ส่วนผม
ก็แค่ พออยู่พอกิน พอใช้ ครับ
คุณ หรือ คนรวบข้างคุณ มอง ไปทีคนที่รวยกว่า เท่านั้นเองครับ
ไม่ได้มองลงมาที่ คนที่แย่กว่าคุณบ้างเลยครับ
มันแตกต่างกัน นะครับ ระหว่าง
ตั้งเป้าหมายไว้ให้สูง
กับ
ต้อง สูงกว่า คนนั้น คนนี้ ให้ได้
แบบแรก เราจะไม่ต้องเปรียบเทียบ กับใคร เมื่อทำได้ เราก็ภูมิใจ เมื่อทำไม่ได้ เราก็ ไม่กดดัน
แต่แบบหลัง ถ้าเราทำได้ เราก็จะดูหมิ่มคนอื่น ถ้าทำไม่ได้ ก็ อิจฉาริษยา เขา
--------------------------------------
ผมไม่รู้คุณมีพื้นฐาน ครอบครัวมาแบบไหน นะครับ
แต่ สำหรับ ผม
เพื่อน รวย จน เราเพื่อนกัน เพราะ เพือนกัน ไม่ได้ วัดกันว่า รวยหรือจน แค่ จริงใจให้แก่กัน พอ
พี่น้อง ก็ไม่ได้วัดกัน ที่รวยจน แต่ ดูว่า รักสามัคคี กัน หรือเปล่า ฐานะ ไม่เกี่ยว
-----------------------------------
สิ่งที่เขาทำ เขา อาจแค่ คิดว่า เขาทำในสิ่งที่เขาทำได้ ก็เท่านั้นเองครับ
ลองคิดกลับ กัน ถ้า เป็น คุณ คุณ รวยกว่าพี่น้องคุณ(สมมุติว่า ประมาณ เจ้าพ่อไมโครซอฟ ) แล้ว ออกไปกินข้าว
มื้อหนึ่ง ไม่กี่พันบาท คุณ จะ ให้ พี่น้องคุณ หารค่าข้าวมื้อแค่นั้นหรือเปล่าครับ
เขา มีน้ำใจ กลับไปคิด อิจฉาเขา หรือเปล่าครับ เพราะ ไปเข้าใจ เขาผิดไปหรือเปล่าครับ
แล้ว ถ้าคุณออกค่าข้าวให้เขา แล้ว มารู้ว่า เขาไม่พอใจมากที่ทำแบบนี้ เหมือนดูถูกเขา
ว่า ไม่มี ปัญญาจ่ายค่าข้าวหรือไง คุณคิดว่า คุณจะเสียใจไหม ครับ หรือ คืดกับเขา ยังไงครับ
ผม ไม่ค่อยมี ฐานะมากนัก เวลา ออกไปกินอะไรกับ ตามประสาผู้ชาย เพื่อนผม ก็จะมักออกเงินให้
แต่ ผม ก็ ไม่รีรอ ที่เวลาเขา ต้องการความเชื่อเหลืออะไร ที่ ผม ทำได้ ผมก็ทำให้
เพื่อนกัน เรา ทำในสิ่งที่เราทำได้ ครับ
กับน้อง(ญาติเมีย) ผม ก็ แบบนี้ครับ เขารวย ชวนไปกินข้าว ถ้าผมไม่มีเงิน ผมบอกเลย ผมไม่มีนะ
เลี้ยงด้วย แต่ถ้าเขา ต้องการให้ช่วย เขาก็บอกเลย เหมือนกัน ผมก็ช่วยเลย พี่น้อง ครับ
กับ พี่น้อง เพื่อนกัน ยังเล่นแง่ มีเล่ห์เหลี่ยม อีกหรือครับ
บอกกับ ตรงๆ ไปเลยครับ อยากให้เขาทำไง บอกได้ครับ
ก็ พี่น้อง เพื่อนฝูงกัน ถ้า บอกกันแค่นี้ไม่ได้ ก็คงไม่ใช่แล้วมั้งครับ
อย่าไปมัวเปรียบเทียบ เพื่อทำให้เรา ทุกข์ใจอยู่เลยครับ
ดู กับ จริงๆแล้ว ทุกวันนี้ สังคม อยุ่ยากขึ้นทุกวัน ครับ
อย่าทำให้ตัวเอง โดดเดี่ยว เลยครับ
-----------------------------------------------------------------------------------------------------
สุดท้าย หวังว่า คง สบายใจ ได้ บ้างนะครับ
สมาชิกหมายเลข 7159329 ถูกใจ, poloyo ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 1260439 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 995407 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 845358 ถูกใจ, สามจันทร์ ถูกใจ, เด็กชายแสนดี ถูกใจ, bonyna ถูกใจ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 15
คนริษยา เขาว่ามีตาปีศาจ ติดตัวคู่หนึ่ง
ตาคู่นี้ มองอะไรแล้ว
จะสอนเราให้คิดไปในทางที่ไม่ดี
เวลาเราเป็นโสด ไปไหนก็มีอิสระ ใช้เงินได้เต็มที่
ทำอะไรไม่ต้องคอยแคร์อีกคนว่าจะเข้าใจเราไหม เรามีเพื่อนฝูงมากมาย
แต่ตาคู่นี้ ก็พาเรามองไปยัง คนที่มีคู่ พูดคำหวานแก่กัน
หาของฝากแปลก ๆ มาให้ เดินกันเป็นคู่ Shopping กันไป หัวเราะ กันไป อยากมีคู่บ้าง
พอเรามีคู่ เราก็น่าจะมีความสุขแบบนี้บ้าง ตาคู่นี้ ก็พาเราไปมองคู่อื่น
ทำไมภรรยาเขาไม่ต้องทำงาน แต่งตัวสวย ๆ ส่งลูกไปเรียน ว่าง ๆ ก็ไปสปา ตกเย็นค่อยไปรับลูก อยากสบายบ้าง
พออายุมากขึ้น สามีทำงาน รายได้มั่นคง ย้ายไปอยู่สิ่งแวดล้อมใหม่ ดีกว่าเดิม
แทนที่จะคิดว่า ที่เคยฝันไว้เมื่อก่อน วันนี้ก็เป็นจริงแล้ว
ตาปีศาจ ก็พาคุณมองไปเห็นว่า ครอบครัวข้างบ้านที่ย้ายมาใหม่ ลูกสาวเพิ่งจะ 20
เป็นลูกคนเดียว จบเมืองนอก พ่อแม่เป็นเจ้าของกิจการใหญ่ มีแต่คนหล่อ ๆ รวย ๆ มาให้เลือก
ทำไมฉันไม่เป็นโสดแบบนี้นะ มีเวลาเป็นของตัวเอง ไม่ต้องห่วงสามี ลูก ๆ
มีเงินไม่ต้องแบ่งใครใช้ จะ Shopping เมืองนอกทุกวันหยุดเลย อยากเป็นสาวไม่มีวันแก่
ไม่ว่าเราจะมีอะไร เราจะดีแค่ไหน
ตาปีศาจจะพาเราให้เห็นว่า คนอื่นดีกว่าเราเสมอ
เราจะเอาตาปีศาจออกได้ เราต้องเอาตาพระมาใส่
ตาที่มองเห็นความเดือดร้อนของผู้อื่น
ตาที่เห็นว่า เด็กนักเรียนหญิงคนนี้ ชายกระโปรงหลุดลุ่ย พ่อแม่ทำงานจนไม่มีเวลา
เราน่าจะพอเย็บชายกระโปรงให้เธอได้ ถุงเท้าของเธอก็เก่า ขาดเป็นรู คู่ละ 20-30 บาท อยากจะซื้อให้เธอบ้าง
ตาที่เห็นว่า คนต่างประเทศกำลังโดนสามล้อโก่งค่าโดยสาร
ฝรั่งที่ยืนงง ไม่รู้ไปไหนดี อยากจะขึ้นรถเมล์ ประหยัดเงิน แต่ก็กลัวลงไม่ถูก อยากจะกล้า ๆ ไปคุยกับเธอ
ตาที่เห็นว่า ฝนตกหนักเช่นนี้ แต่ละคนที่หลบฝนเบียดกันอยู่ใต้กันสาดเล็ก ๆ
น่าจะมีใครสักคน นำร่มสัก 10 คันแจกให้คนละคน เพื่อเดินต่อไปได้ เราน่าจะเป็นคนนั้น
ตาที่เห็นว่า คนบ้านอนข้างถนน ที่ผมจนซี่โครงขึ้น เสื้อผ้าขาดจนตัวเกือบเปลือย
กลิ่นตัวเหม็นสาบเพราะไม่อาบน้ำมานาน หรือเพราะไม่เคยเปลี่ยนเสื้อผ้าเลยนั้น
ฉันน่าจะซื้ออาหารกล่องเผื่อเขาสักกล่อง น้ำเย็นสักขวด ให้เขาไหม
เพราะคนอื่นที่อาจจะอยากให้ คงเลือกให้คนที่สกปรกน้อยกว่านี้ น่ากลัวน้อยกว่านี้
ถ้าคุณปล่อยให้ตาปีศาจ สอนคุณมอง คุณจะมีแต่ความทุกข์
ยิ่งรวย ยิ่งได้อย่างที่ต้องการ คุณก็จะยิ่งทุกข์มากขึ้น
แต่ถ้าตาพระ สอนคุณมองได้
คุณจะเห็นความเดือดร้อนของคนอื่นมากมาย จนคุณไม่อยากได้อะไรอีก
ตาคู่นี้ มองอะไรแล้ว
จะสอนเราให้คิดไปในทางที่ไม่ดี
เวลาเราเป็นโสด ไปไหนก็มีอิสระ ใช้เงินได้เต็มที่
ทำอะไรไม่ต้องคอยแคร์อีกคนว่าจะเข้าใจเราไหม เรามีเพื่อนฝูงมากมาย
แต่ตาคู่นี้ ก็พาเรามองไปยัง คนที่มีคู่ พูดคำหวานแก่กัน
หาของฝากแปลก ๆ มาให้ เดินกันเป็นคู่ Shopping กันไป หัวเราะ กันไป อยากมีคู่บ้าง
พอเรามีคู่ เราก็น่าจะมีความสุขแบบนี้บ้าง ตาคู่นี้ ก็พาเราไปมองคู่อื่น
ทำไมภรรยาเขาไม่ต้องทำงาน แต่งตัวสวย ๆ ส่งลูกไปเรียน ว่าง ๆ ก็ไปสปา ตกเย็นค่อยไปรับลูก อยากสบายบ้าง
พออายุมากขึ้น สามีทำงาน รายได้มั่นคง ย้ายไปอยู่สิ่งแวดล้อมใหม่ ดีกว่าเดิม
แทนที่จะคิดว่า ที่เคยฝันไว้เมื่อก่อน วันนี้ก็เป็นจริงแล้ว
ตาปีศาจ ก็พาคุณมองไปเห็นว่า ครอบครัวข้างบ้านที่ย้ายมาใหม่ ลูกสาวเพิ่งจะ 20
เป็นลูกคนเดียว จบเมืองนอก พ่อแม่เป็นเจ้าของกิจการใหญ่ มีแต่คนหล่อ ๆ รวย ๆ มาให้เลือก
ทำไมฉันไม่เป็นโสดแบบนี้นะ มีเวลาเป็นของตัวเอง ไม่ต้องห่วงสามี ลูก ๆ
มีเงินไม่ต้องแบ่งใครใช้ จะ Shopping เมืองนอกทุกวันหยุดเลย อยากเป็นสาวไม่มีวันแก่
ไม่ว่าเราจะมีอะไร เราจะดีแค่ไหน
ตาปีศาจจะพาเราให้เห็นว่า คนอื่นดีกว่าเราเสมอ
เราจะเอาตาปีศาจออกได้ เราต้องเอาตาพระมาใส่
ตาที่มองเห็นความเดือดร้อนของผู้อื่น
ตาที่เห็นว่า เด็กนักเรียนหญิงคนนี้ ชายกระโปรงหลุดลุ่ย พ่อแม่ทำงานจนไม่มีเวลา
เราน่าจะพอเย็บชายกระโปรงให้เธอได้ ถุงเท้าของเธอก็เก่า ขาดเป็นรู คู่ละ 20-30 บาท อยากจะซื้อให้เธอบ้าง
ตาที่เห็นว่า คนต่างประเทศกำลังโดนสามล้อโก่งค่าโดยสาร
ฝรั่งที่ยืนงง ไม่รู้ไปไหนดี อยากจะขึ้นรถเมล์ ประหยัดเงิน แต่ก็กลัวลงไม่ถูก อยากจะกล้า ๆ ไปคุยกับเธอ
ตาที่เห็นว่า ฝนตกหนักเช่นนี้ แต่ละคนที่หลบฝนเบียดกันอยู่ใต้กันสาดเล็ก ๆ
น่าจะมีใครสักคน นำร่มสัก 10 คันแจกให้คนละคน เพื่อเดินต่อไปได้ เราน่าจะเป็นคนนั้น
ตาที่เห็นว่า คนบ้านอนข้างถนน ที่ผมจนซี่โครงขึ้น เสื้อผ้าขาดจนตัวเกือบเปลือย
กลิ่นตัวเหม็นสาบเพราะไม่อาบน้ำมานาน หรือเพราะไม่เคยเปลี่ยนเสื้อผ้าเลยนั้น
ฉันน่าจะซื้ออาหารกล่องเผื่อเขาสักกล่อง น้ำเย็นสักขวด ให้เขาไหม
เพราะคนอื่นที่อาจจะอยากให้ คงเลือกให้คนที่สกปรกน้อยกว่านี้ น่ากลัวน้อยกว่านี้
ถ้าคุณปล่อยให้ตาปีศาจ สอนคุณมอง คุณจะมีแต่ความทุกข์
ยิ่งรวย ยิ่งได้อย่างที่ต้องการ คุณก็จะยิ่งทุกข์มากขึ้น
แต่ถ้าตาพระ สอนคุณมองได้
คุณจะเห็นความเดือดร้อนของคนอื่นมากมาย จนคุณไม่อยากได้อะไรอีก
สมาชิกหมายเลข 7159329 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 5288906 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 4676810 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 2076366 ถูกใจ, สนิทสนมกลมกลิ้งปิ้งปลา ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 1726884 ทึ่ง, มุบมิบจัง ถูกใจ, Irongirl ถูกใจ, super angel ถูกใจ, seansean ถูกใจรวมถึงอีก 2 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
แสดงความคิดเห็น
อยากกำจัดความอิจฉาริษยาในใจ รู้สึกว่าอาการหนักขึ้นทุกวัน ท่านผู้รู้ช่วยด้วยนะค่ะ
แต่เรื่องมาเกิดขึ้นเมื่อ คนน้องเค้าได้สามีรวย (คนน้องเค้าไม่เรียนหนังสือ แต่เค้าไปเจอกับสามีเค้ายังไงไม่ทราบนะค่ะ) ตอนแรกดิฉันก็เฉย ๆ กับเรื่องนี้ แต่เริ่มโดนแม่ตัวเองและคนรอบข้างพูดกรอกหู ''ไม่เห็นต้องเรียนสูงอย่างดิฉันก็รวยกว่าดิฉันอีก'' แต่ดิฉันก็ยังไม่ได้เก็บมาคิดหรือเกิดความริษยา จนกระทั่ง มีการนัดเจอกันตามวาระที่อยากจะเจอ ดิฉันรู้สึกว่าเค้า 2 คนเปลี่ยนไป ไม่ว่าจะกินอะไรเสนอตัวจะจ่ายให้ตลอด (ความรู้สึกเรากินด้วยกันก็แชร์กัน ไม่เกี่ยวกับว่าใ ก็ต้องจ่าย) การพูดจา การวางตัวที่เปลี่ยนไป...เวลาที่เราคุยเรื่องซื้อ ไม่ว่าจะของ อาหารหรือบริการ ดิฉันมักจะเสนอให้ดูสิ่งราคาถูก หรือของเหมาะกับราคา แต่เค้ามักจะตัดบทด้วย ''ราคาไม่ใช่ปัญหาสำหรับเค้า''
หลังจากเกิดความขุ่นข้องในใจดิฉันแล้ว..ดิฉันก็โดนตอกย้ำด้วยสิ่งแวดล้อมอีกมากมาย ดิฉันแต่งงานแล้วแต่สามีไม่รวย เค้าหาได้พอเลี้ยงตัวเค้ากับบ้านเค้า (มันไม่พอจุนเจือความฝัน ความอยากของดิฉัน) แม่ดิฉันก็มักจะพูดเปรียบเทียบตลอดว่า ทางนั้นเค้ามี ดิฉันไม่มี แถมด้วย ดิฉันเป็นภูมิแพ้ มีผดผื่นขึ้น ผิวไม่สวย ในขณะที่เค้า 2 คนไม่เจอปัญหานี้แบบดิฉัน...ดิฉันจะตัดผ้าม่าน น้องคนนั้นก็บอกว่า สามีเธอกว้างขวาง ร้านผ้าม่านดัง ๆ ในจังหวัดรู้จักหมด เดี๋ยวติดต่อให้...และหลาย ๆ ครั้งที่จะเจอเคสแบบนี้ ในขณะที่สามีดิฉันไม่ช่วยอะไรได้เลย...
ดิฉันรู้ตัวว่า มีความอิจฉาริษยาเกิดขึ้นในใจ ซึ่งที่เค้าพูดว่ามันเผาทำลายหนะ มันเผาทำลายจริง ๆ ดิฉันพยายามไม่รับรู้เรื่องของเค้าแต่มันก็ไม่ใช่ทางออกที่ถาวรแท้จริง ดิฉันคิดว่าตัวเองจะรู้สึกดีขึ้นได้ก็ต่อเมื่อ ดิฉันเหนือกว่าเค้า เคยใช้เหตุนี้ผลักดันตัวเองแต่บางครั้งมันก็เหนื่อยเกินไป ต้องซื้อหรือทำอะไร ที่บางครั้งในใจก็ไม่ได้ต้องการ...อาการที่ว่าหนักมันหนักขนาดที่ ตื่นมาในหัวหน้าเค้าจะผุดขึ้นมาในหัวทุกเช้า ทุกอย่างที่คิดที่ทำเกือบร้อยละ 80 ที่จะต้องไปวนเกี่ยวข้องกับเค้า เปรียบกับเค้าอ่ะค่ะ อาการหนักมากใช่มั๊ย...ใครมีแนวคิดดี ๆ ช่วยแชร์ให้ได้คิดหน่อยนะค่ะ