โดนแอบอ้างเอาเอกสารไปจดทะเบียน sim true
กระทู้นี้อาจจะยาวซักหน่อย เพราะผมอึดอัดกับเหตุการแบบนี้จริงๆ
เรื่องมีอยู่ว่า เมื่อวันที่ 2/9/56 ผมพาแฟนไปที่ช็อปทรูที่ฟอร์จูน เพื่อที่จะสอบถามการย้ายค่ายเพราะเดิมใช้ของ AIS
แต่ต้องตกใจเมื่อนำบัตร ปชช.ให้พนักงานเช็คกลับแจ้งเราว่ามียอดค้างชำระ 1,850 บาท จะต้องไปชำระก่อน
ซึ่งสอบถามรายละเอียด ก็ทราบว่า ชื่อผู้จดทะเบียน เป็นชื่อแฟนผม แต่ชื่อผู้ใช้งานเป็น ชื่อ นาย ธีรภัทร ไม่รู้นามสกุลอะไร
พนักงานไม่ยอมบอก เปิดใช้งานมาตั้งแต่ 6/10/55 เกือบปีแล้ว และแจ้งว่า บิลเรียกเก็บค่าบริการ ส่งไปพื้นที่เพชรเกษม
โดยพนักงานแจ้งอีกว่า นายธีรภัทร อ้างว่าเป็นแฟน กับ แฟนผม...........
คำถามที่ตามมาในหัวผม คือ
1. ธีรภัทร เป็น ใคร อ้างว่าเป็นแฟน กับแฟนผม ซึ่งเป็นไปไม่ได้ ผมคบกับแฟนมา 7 ปี อยู่ด้วยกันตลอด
2.ไปเอาเอกสารของแฟนผม มาจากไหน
3.ทำไมพนักงาน ทรูจึงยินยอมให้ นายธีรภัทร นำเอกสารของ บุคคลอื่น มาใช้จดทะเบียน ชิมได้ เพียงเพราะอ้างว่าเป็นแฟน
4.ทำไมไม่มีบิลเรียกเก็บค่าบริการ หรือ หมายฟ้องร้องใด ส่งมาที่แฟนผม ทั้งที่มียอดค้างชำระ และ มีการยกเลิก เบอร์ที่ นายธีรภัทร
เปิดใช้งานไปแล้ว ซึ่ง เวลาก็ผ่านไปเกือบปีแล้ว
สิ่งที่ผมได้ทำหลังจากรู้เรื่องนี้ คือ
1.สอบถามพนักงาน ทรู กับข้อสงใสทั้งหมด แต่ไม่ได้คำตอบใดๆ แนะนำเพียงว่าให้ไปแจ้งความที่โรงพัก
2.ผมไปแจ้งความที่ สน.ห้วยขวางเพราะว่าผมพักอยู่ใกล้ ที่นั่น แต่ เจ้าหน้าที่ไม่รับแจ้งความเพราะผมไม่มี บิลเรียกเก็บเงิน หรือใบฟ้องร้องใดๆ
และบอกว่า อยู่นอกพื้นที่ของ สน.ห้วยขวาง ไม่มีอำนาจที่จะรับแจ้งความเนื่องจาก บิลเรียกเก็บส่งไปพื้นที่เพชรเกษม
สรุป คือ
1.แฟนผมจะไม่มีสิทธิ์ในการใช้ ซิม ทรูได้ ยกเว้นต้องจ่ายเงิน 1,850 บาท ก่อน
2.ถ้าต้องการใช้จริงๆ ก็ต้อง ไปสืบหา บิลที่เรียกเก็บไปที่เพชรเกษม และไปแจ้งความที่ สน.เพชรเกษม
สิ่งที่เสียหายในตอนนี้ก็คือ
1.แฟนผมจะเสียสิทธิ์ในฐานะผู้บริโภค ที่ไม่สามารถเลือกใช้สินค้าได้อย่างอิสระ เว้นแต่จะยอมจ่ายเงิน 1,850 บาทก่อน
2.ผมตั้งข้องสังเกตุเห็นรูปแบบการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจในกรณีนี้ว่า ถ้านายธีรภัทร ใช้ที่อยู่ ในพื้นที่ สามจังหวัดชายแดนใต้ เป็นที่อยู่ในการเรียกเก็บค่าใช้บริการ ถ้าผมต้องการแจ้งความผมก็ต้องไปแจ้งความที่ ภาคใต้ เหรอครับ คุณเจ้าหน้าที่
3.เจ้าหน้าที่รู้ว่า การกระทำดังกล่าวผิดกฏหมาย แต่ผู้ที่ถูกแอบบอ้างยังไม่มีอะไรเสียหายร้อยแรง เจ้าหน้าที่ก็ ไม่สนใจ ต้องรอให้ มีเรื่องที่ร้าย
แรงก่อนจึงจะทำงาน ซึ่งแนวทางนี้ บ่งบอกได้ว่า ต้องเกิดเหตุก่อนจึงจะทำงาน แทนที่จะป้องกันไว้ก่อน ก่อนที่ผู้โดนแอบอ้างจะได้รับความเสียหาย
4.ลองคิดดูว่าหากเค้าสามารถนำเอกสารใครก็ได้ไปจดทะเบียนซิม โดยอ้างเหตุผลง่าย และพนักงาน ก็ให้จดได้ แล้ว ตำรวจไม่อยากทำงาน
ถ้ามันเอา เบอร์ที่จดไปเป็นรีโมท จดระเบิด ก่อการร้าย หรือสร้างเหตุการที่รุนแรง คุณจะโทษใครครับ หรือคุณจะมาจับแฟนผม ให้เป็นแพะ
แล้วก็ปิดคดี ได้ผลงานไป
ปล.สิ่งที่ผมเกลียดที่สุดคือการขอความช่วยเหลือจากตำรวจเพราะ มักแสดงท่าทางว่า ตัวเองยิ่งใหญ่ และไม่ค่อยสนใจใส่ใจ ปชช.ธรรมดา
อย่างเราๆ คนประเภทนี้ไม่น่าจะเกิดมาเป็นตำรวจให้เปลืองภาษีประชาชนเลย
ขอความคิดเห็นครับ โดนแอบอ้างเอาเอกสารไปจดทะเบียน sim true
กระทู้นี้อาจจะยาวซักหน่อย เพราะผมอึดอัดกับเหตุการแบบนี้จริงๆ
เรื่องมีอยู่ว่า เมื่อวันที่ 2/9/56 ผมพาแฟนไปที่ช็อปทรูที่ฟอร์จูน เพื่อที่จะสอบถามการย้ายค่ายเพราะเดิมใช้ของ AIS
แต่ต้องตกใจเมื่อนำบัตร ปชช.ให้พนักงานเช็คกลับแจ้งเราว่ามียอดค้างชำระ 1,850 บาท จะต้องไปชำระก่อน
ซึ่งสอบถามรายละเอียด ก็ทราบว่า ชื่อผู้จดทะเบียน เป็นชื่อแฟนผม แต่ชื่อผู้ใช้งานเป็น ชื่อ นาย ธีรภัทร ไม่รู้นามสกุลอะไร
พนักงานไม่ยอมบอก เปิดใช้งานมาตั้งแต่ 6/10/55 เกือบปีแล้ว และแจ้งว่า บิลเรียกเก็บค่าบริการ ส่งไปพื้นที่เพชรเกษม
โดยพนักงานแจ้งอีกว่า นายธีรภัทร อ้างว่าเป็นแฟน กับ แฟนผม...........
คำถามที่ตามมาในหัวผม คือ
1. ธีรภัทร เป็น ใคร อ้างว่าเป็นแฟน กับแฟนผม ซึ่งเป็นไปไม่ได้ ผมคบกับแฟนมา 7 ปี อยู่ด้วยกันตลอด
2.ไปเอาเอกสารของแฟนผม มาจากไหน
3.ทำไมพนักงาน ทรูจึงยินยอมให้ นายธีรภัทร นำเอกสารของ บุคคลอื่น มาใช้จดทะเบียน ชิมได้ เพียงเพราะอ้างว่าเป็นแฟน
4.ทำไมไม่มีบิลเรียกเก็บค่าบริการ หรือ หมายฟ้องร้องใด ส่งมาที่แฟนผม ทั้งที่มียอดค้างชำระ และ มีการยกเลิก เบอร์ที่ นายธีรภัทร
เปิดใช้งานไปแล้ว ซึ่ง เวลาก็ผ่านไปเกือบปีแล้ว
สิ่งที่ผมได้ทำหลังจากรู้เรื่องนี้ คือ
1.สอบถามพนักงาน ทรู กับข้อสงใสทั้งหมด แต่ไม่ได้คำตอบใดๆ แนะนำเพียงว่าให้ไปแจ้งความที่โรงพัก
2.ผมไปแจ้งความที่ สน.ห้วยขวางเพราะว่าผมพักอยู่ใกล้ ที่นั่น แต่ เจ้าหน้าที่ไม่รับแจ้งความเพราะผมไม่มี บิลเรียกเก็บเงิน หรือใบฟ้องร้องใดๆ
และบอกว่า อยู่นอกพื้นที่ของ สน.ห้วยขวาง ไม่มีอำนาจที่จะรับแจ้งความเนื่องจาก บิลเรียกเก็บส่งไปพื้นที่เพชรเกษม
สรุป คือ
1.แฟนผมจะไม่มีสิทธิ์ในการใช้ ซิม ทรูได้ ยกเว้นต้องจ่ายเงิน 1,850 บาท ก่อน
2.ถ้าต้องการใช้จริงๆ ก็ต้อง ไปสืบหา บิลที่เรียกเก็บไปที่เพชรเกษม และไปแจ้งความที่ สน.เพชรเกษม
สิ่งที่เสียหายในตอนนี้ก็คือ
1.แฟนผมจะเสียสิทธิ์ในฐานะผู้บริโภค ที่ไม่สามารถเลือกใช้สินค้าได้อย่างอิสระ เว้นแต่จะยอมจ่ายเงิน 1,850 บาทก่อน
2.ผมตั้งข้องสังเกตุเห็นรูปแบบการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจในกรณีนี้ว่า ถ้านายธีรภัทร ใช้ที่อยู่ ในพื้นที่ สามจังหวัดชายแดนใต้ เป็นที่อยู่ในการเรียกเก็บค่าใช้บริการ ถ้าผมต้องการแจ้งความผมก็ต้องไปแจ้งความที่ ภาคใต้ เหรอครับ คุณเจ้าหน้าที่
3.เจ้าหน้าที่รู้ว่า การกระทำดังกล่าวผิดกฏหมาย แต่ผู้ที่ถูกแอบบอ้างยังไม่มีอะไรเสียหายร้อยแรง เจ้าหน้าที่ก็ ไม่สนใจ ต้องรอให้ มีเรื่องที่ร้าย
แรงก่อนจึงจะทำงาน ซึ่งแนวทางนี้ บ่งบอกได้ว่า ต้องเกิดเหตุก่อนจึงจะทำงาน แทนที่จะป้องกันไว้ก่อน ก่อนที่ผู้โดนแอบอ้างจะได้รับความเสียหาย
4.ลองคิดดูว่าหากเค้าสามารถนำเอกสารใครก็ได้ไปจดทะเบียนซิม โดยอ้างเหตุผลง่าย และพนักงาน ก็ให้จดได้ แล้ว ตำรวจไม่อยากทำงาน
ถ้ามันเอา เบอร์ที่จดไปเป็นรีโมท จดระเบิด ก่อการร้าย หรือสร้างเหตุการที่รุนแรง คุณจะโทษใครครับ หรือคุณจะมาจับแฟนผม ให้เป็นแพะ
แล้วก็ปิดคดี ได้ผลงานไป
ปล.สิ่งที่ผมเกลียดที่สุดคือการขอความช่วยเหลือจากตำรวจเพราะ มักแสดงท่าทางว่า ตัวเองยิ่งใหญ่ และไม่ค่อยสนใจใส่ใจ ปชช.ธรรมดา
อย่างเราๆ คนประเภทนี้ไม่น่าจะเกิดมาเป็นตำรวจให้เปลืองภาษีประชาชนเลย