ถามคุณพ่อคุณเเม่หรือคุณครู ถ้าลูกๆของคุณเป็นเเบบนี้ คุณคิดว่านี่คือเรื่องธรรมดาหรือเปล่า..

' ' สวัสดีค่ะทุกๆท่าน หนูอายุ 17 ปีนะคะ ปัจจุบันอยู่ชั้น ม.5 มีเรื่องที่รู้สึกเเย่มากๆ ตะลึงมากๆเเละโกรธมากๆมาปรึกษา...
อยากเปิดประเด็นมาตั้งเเต่เเรกสั้นๆเลยว่า.. เป็นเรื่องของเด็กทะเลาะกัน(เเต่ไม่เบาเท่าไหร่) ระหว่างเด็ก มปลาย กับเด็กประถมค่ะ ฟังดูน่าอายเหมือนกันนะคะ ม ปลายรังเเกเด็ก.. เเต่หนูอยากให้ท่านได้อ่านเรื่องราวต่อไปนี้.. ที่เกิดใน โรงเรียนหญิงล้วน หนูคิดว่า "ทำไมสังคมไทยถึงเป็นเเบบนี้"

ยาวหน่อยนะคะ เเต่ว่าพยายามเขียนให้กระชับเเละอ่านง่ายที่สุดเเล้ว อยากให้ทุกท่านได้อ่านค่ะ

      ที่โรงเรียนหนูกำลังจะมีงานกีฬาสีตอนเดือนพฤศจิกายนนี้ค่ะ ทางโรงเรียนจึงมีการให้ซ้อมกิจกรรมต่างๆ โดยให้พี่โต ซ้อมกีฬาต่างๆให้น้อง ซึ่งหนูได้ทำหน้าที่ซ้อมเชียร์ลีดเดอร์ประถมปลาย ตั้งเเต่ ป.4 ถึง ป.6 น้องๆน่ารักดีค่ะ ซนบ้าง ดื้อบ้าง ได้ด่ากันบ้าง เเต่ไม่ได้เลวร้ายอะไรนัก
พวกเราได้สถาณที่ซ้อมเป็นห้องยิมนาสติก ที่มีเบาะรองสำหรับกีฬาประเภทยุโด เทควันโด เเละการตีลังกาผาดโผน(เบาะหนาอ้วนๆ) โดยเราขออนุญาตคุณครูที่ปรึกษาเเละได้สิทธิ์ในการใช้ห้องในตอนเที่ยงตลอดการฝึกซ้อมเรียบร้อยเเล้ว ทุกอย่างเป็นไปได้เรื่อยๆค่ะ จนกระทั่งวันหนึ่ง มีเด็กกลุ่มหนึ่งเข้ามาขอใช้ห้องยิม ด้วยเหตุผลที่ว่า ต้องการซ้อมตีลังกากลับหัวสำหรับการสอบในคาบพละอาทิตย์หน้า พวกหนูไม่มีที่ซ้อมสำลับลีดค่ะ เพราะลีดมีทั้งหมดสิบสองคน เลยบอกน้องว่าเอาเบาะออกไปซ้อมด้านนอกห้องได้มั้ย?(นอกห้องก็เป็นระเบียงทางเดินที่มีควาามกว้างพอดีเบาะ มีกำเเพงสำหรับใช้พิง เเละวางเบาะได้) น้องก็ยิ้มเเป้นเเล้วก็บอก "ได้ค่ะ"
    
   น้องอยู่ ป ห้า ตัวไม่โตมาก เราก็ช่วยน้องลากเบาะออกไป เพราะเบาะใหญ่มาก เเละทำเเบบนั้นเรื่อยๆเสมอ เวลาน้องซ้อมเสร็จ เราก็จะเอาเบาะที่น้องมากองทิ้งไว้กลับเข้าที่ ไม่มีการค่อนขอดหรือว่าไม่พอใจ เราไม่ทันได้รู้ตัวเลยว่าเค้าเคืองหรือว่าเกลียดเราเมื่อไหร่ จนกระทั่งวันหนึ่ง
       ตอนเที่ยงเราเดินขึ้นไปที่ห้องยิมตามปกติ พบว่าเชีย์ลีดเดอร์ออกมายืนข้างนอก เราก็โวยเชียร์ลีดเดอร์ตามประสาพี่ซ้อม ว่าทำไมไม่เข้าไปซ้อมในห้องดีๆ น้องก็บอกว่า "เข้าไปไม่ได้ มีคนอื่นอยู่ในห้อง"
       เราเดินเข้าไปในห้อง พอดีกับที่เพือนอีกสองคนก็เดินขึ้นมาเห็นเด็กๆสิบกว่าคนนอนเกลื่อนอยู่บนเบาะซ้อม มีซองขนมเรี่ยราด(ที่โรงเรียนไม่อนุญาตให้เอาขนมขึ้นไปกินบนอาคารเรียน)เราก็บอกน้องบอกว่า เราจะซ้อมลีดเเล้ว ออกไปข้างนอกก่อนนะคะ

      เด็กๆที่นั่งบนเบาะก็ยิ้มๆ เเล้วก็ยืนขึ้น เเล้วค่อยๆลากขาออกไปข้างนอก(ไม่ได้อคติค่ะ เขาทำเเบบนั้นจริงๆ) เราก็ไม่ได้ว่าอะไร เเล้วก็ช่วยขนเบาะออกไปตามปกติ เด็กพวกนั้นเดินออกไป ช่วยกันลากเบาะ ก่อนที่เด็กคนนึงจะจีบปากจีบคอพูดขึ้นมาลอยๆ ทำหน้าปะหลับปะเหลือกอย่างกับนางอิจฉาในละครหลังข่าวไม่มีผิด
    
"ออกไปซ้อมข้างนอกก็ดีเหมือนกัน...เผื่อจะได้คอหักตาย.."
ทำหน้าลอยไปลอยมา เสียดสีชัดๆเเล้วสะบัดหน้าเดินเเอ่นออกไป วินาทีนั้นเราฉุนขึ้นมาทันที เลยพูดไล่หลังไป "ขอให้คอหักสมพรปากนะ"


     เราเดินตามไปล๊อกปะตูค่ะ(ถ้าไม่ล๊อกประตูจะเปิดเอง เป็นประตูเเบบบานพับสองทาง)น้องอีกคนนึงก็ถามเพื่อนเรา ด้วยน้ำเสียงข่นเคืองว่า

"พี่คะ ครูอนุญาตให้พี่ใช้ห้องเเล้วหรอคะ?"
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เพื่อนเราก็โมโห เพราะอายุห่างกันมาก เเต่กิริยาที่น้องทำ มันยิ้มมาก เพื่อนเราเลยบอกว่า "ค่ะ!!!!!!!!" เเล้วปิดประตูลงกลอนใส่หน้าเลย

วีรกรรมของเด็กพวกนั้นไม่ได้มีเเค่นี้  พวกนางเดินออกไปข้างนอก พูดก่นด่าสาปเเช่งเรากับเพื่อน(เด้กลีดได้ยิน)เป็นพักๆ จีบปากจีบคอด่ากันออกรสชนิดที่ว่าไม่น่าเชื่อที่เด็กวัยนี้จะทำกัน เราก็ซ้อมเด็กลีดเราไปค่ะ พวกนั้นก็มายืนเท้าสะเอวดู(ดูรู้เลยว่าเอาต้นเเบบมาจากละครเรื่องอะไร)เพื่อนเราเลยเดินออกไปบอกว่า อย่าเพิ่งดูได้มั้ย? กลยุทธซ้อมลีดมันเป็นความลับนะ พูดไปเเล้วหัวเราะไปทำท่าเขินๆ เพื่อให้บรรยากาศมันดีขึ้น เเต่ผลคือ ไอ้เด็กคนนึง มองเพื่อนเราด้วยหางตา เเบบหัวจรดเท้า เหยียดริมฝีปาก เเล้วเดินจากไป

เฮ้ย? นี่คือเด็ก? 11 ขวบ
จริตจะกร้านน่ากลัวเกินไปเเล้ว... ถ้าทุกๆท่านได้มายืนนะจุดนี้จะอึ้งเหมือนกันเราค่ะ มันไม่ใช่เเค่เด็กเเก่เเดดที่ทำตัวเเรดๆตลกๆเเบบที่เราเคยเห็นในทีวี หรือเคยเจอกับเด็กหลายๆคน เเต่นี่มันเกินไปเเล้วค่ะ เกินไปมากกก ผู้ใหญ่ที่ว่าเเรง ยังไม่น่ากลัวเท่าเด็กพวกนี้ขนาดนี้

เราซ้อมลีดต่อไปในสภาพพยายามร่าเริง พอซ้อมเสร็จ ก็เดินออกไปข้างนอก เห็นสมุดงานของเรา(เอาขึ้นมาอ่านเเล้ววางไว้ข้างนอก) ถูกราดด้วยน้ำจิ้มลูกชิ้นจนเหนียว ไปหมด มีขยะเปียก ย้ำนะคะว่าขยะเปียก วางทับ จัดเรียงชิดมุมเก้าอี้ริมระเบียงเหมือนจะเรียบร้อย สภาพนี่คือเน่าสนิทค่ะ... ครูนัดส่งสมุดวันพุธที่จะถึงนี้
   เราโกรธมากค่ะ... โกรธจนมือสั่น..
  ตั้งเเต่เเรกเลย เราไม่เคยทำอะไรให้เขาเลย
  ทำไมทำเเบบนี้... นี่มันเกินไปเเล้ว..

         ันรุ่งขึ้น(ซึ่งก็คือวันนี้ค่ะ)เราก็มาซ้อมตามปกติค่ะ กะเอาเเล้วว่าฟ้องครูประจำวิชาเเน่ๆ(พละ) ไม่ปล่อยไว้เด็ดขาด ระหว่างซ้อมลีด เด็กพวกนั้นก็ทยอยเดินขึ้นมาเเล้วเดินเข้ามาเอาเบาะ พูดกับเราทั้งสามคนว่า
  "ขอเบาะได้มั้ยคะ?" (ยิ้ม)

วินาทีนั้นเราหันไปมองด้วยสายตาพิฆาตกะว่าถ้าเป็นเลเซอร์ก็ขอให้ทะลุขั้วหัวใจมันไปเลย  ในใจนี่ด่าโคตรเหง้าศักราชไปหมดเเล้ว(ขอโทาด้วยนะคะที่เเสดงนิสัยเเย่ๆออกมา เราไม่ไหว เราเกลียดเด็กพวกนนั้นมากในตอนนี้ เพราะสมุดงานของเราสำคัญมาก เเล้วงานทุกงานก็มีผลต่อเกรดม ปลายด้วย) เด็กคนนั้นก็มองเรา เเล้วพูดออกมาเบาๆ "ไม่ได้ไม่เป็นไรค่ะ" ยิ้ม เเล้วเดินออกไป
         พ้นประตูเท่านั้นเเหละ มันด่าเรายับเลยค่ะ(เด็กลีดฟ้อง) เเต่เราจำไม่ได้ เพราะ ณ วินาทีนั้นเราควันออกหู หน้าเเบบว่ามืด - -  ด่าประมาณว่า เเค่ลีดเเล้วจะซ้อมใช้เบาะทำไม?[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้(เด็กที่มาฟ้องเป็นคนซื่อๆค่ะ อยู่ด้วยกันมาเป็นเดือนๆเเล้วเรียนดี เป็นที่รักของอาจารย์)

        อายุเเค่นี้ก็เเรงขนาดนี้เเล้ว... ต่อหน้าอย่าง ลับหลังอย่าง
      เเล้วเขาก็ไปฟ้องอาจารย์พละ(เป็นผู้ชาย) ว่าซ้อมไม่ได้เเล้ว พี่เขาไม่ยอมให้เข้าห้อง หรือว่า ใช้เบาะ(ความจริงเอาออกไปเเค่สามสี่อันก็ใช้ได้เเล้ว) อาจารย์ก็เดินมา เราก็เเจ้นฟ้องค่ะ ว่าน้องทำเเบบนี้ๆๆๆๆๆ
      อาจารย์เลยเรียกน้องมาเคลียร์  เราก็เดินหนีเข้าห้องค่ะ ปล่อยให้อาจารย์จัดการ
      สักพัก อาจารย์ก็เดินเข้ามาถามว่าน้องทำอะไรอีก มีเเค่นี้ใช่มั้ย?
      พวกเราก็ฟ้องใหญ่ค่ะ เพื่อนเราเล่าให้ฟังหมด ว่าน้องทำอะไรบ้าง

เพื่อน : ครูคะ น้องเอาขนมขึ้นมากินเเล้วไม่ทิ้ง เเถมยังด่าพวกหนูอีกทั้งๆที่พวกหนูเป็นรุ่นพี่ ห้องนี้พวกหนูก็ขอเเล้ว พว...
ครู : อาทิตย์หน้าครูจะปิดห้องเเล้วนะ ช่วงนี้ใกล้วันสอบ จะมาบอกเเค่นี้ล่ะ
เรา : ครูคะ ครูต้องดุน้องด้วยนะ มันทำเกินไปเเล้ว งานของหนูน่ะ..
ครู : เออๆๆ เเค่นี้ก็ทะเลาะกันได้ จะอะไรนักหนา..

เเค่นี้?????????

เราถึงกับเงิบยาว.... ครูพละก็เดินออกไป ตัดปัญหาด้วยการพาเด็กฝูงนั้นไปซ้อมที่อีกฝั่งนึง(เเต่ยังละเเวกเดียวกันอยู่) เพื่อนเราโมโหมากเลยเดินมาเเล้วปิดปะตูเสียงดังปัง เด็กคนนึงเลยเอาตัวกระเเทกประตูให้มีเสียงดังยิ่งกว่า เเล้วมองหน้า(ไม่ได้วิ่งหนีด้วย) ทำหน้าทำตาใส่ เเล้วนวยนาดจากไป...

เราเเทบกรี๊ดค่ะ  ซ้อมเสร็จก็นั่งหงุดหงิดตลอดช่วงบ่าย เลิกเรียน เราบังเอิญเจอครูที่ทำหน้าที่คุมลีดให้เรา เราก็ฟ้องต่อ(ตอนนี้ขี้ฟ้องมากๆเลยค่ะ 55 เเต่เราไม่รู้สึกเป็นธรรม ไม่เข้าใจว่าทำไมเด็กพวกนั้นถึงไม่สมควรได้รับการลงโทษ หรือสั่งสอน )

ซึ่งก็ได้ทราบจากเด็กลีดของเราที่อยู่ ปห้า ว่าเด็กกลุ่มนั้นคือ ป ห้าห้องไหน เราก็ฟ้องค่ะ พอดีกับที่ครูคุมลีดของเราเป็นครูประจำชั้นพอดี เรากะเอาตายค่ะ.. ซึ่งผลที่ตามมาก็คือ
ครู : ไม่น่าเชื่อนะ ว่าพวกนั้นจะทำอะไรที่ร้ายเเรงได้ขนาดนี้
เรา : ใช่ค่ะ ครูต้องเตือนน้องนะคะ นี่มันเด็กเปรตชัดๆ(ค่อนข้างสนิทเเละเปิดใจกับครู)น้องมารยาทเเย่มาก โกหกด้วย
ครู : มีเเค่ห้องครูห้องเดียวหรอ
เรา : น่าจะมีอีกสองห้องด้วยค่ะ
ครู : ถ้างั้นก็ไม่ใช่ห้องครูหรอก ห้องอื่นโน่น ไม่ใช่หรอก เข้าใจผิดเเล้ว
เรา : เเต่ครูก็ต้องดูน้องทุกๆคนนะคะ ช่วยหน่อย เรื่องงานของหนูละคะ น้องทำเกินไปมากๆนะคะ หนูไม่อยากให้ครูปล่อยน้องลอยนวลเเบบนี้
ครู : มันก็ใช่ค่ะ ก็จะไปเตือนๆเเล้วกัน ว่าทำเเบบนี้มันไม่ดี(ครูเราเป็นครูสาวค่ะ ไม่เห็นค่อยดุเด็กเท่าไหร่) เพราะอีกไม่นานก็จะหมดช่วงกิจกรรมเเล้วนี่ ขี้เกียจมีปัญหาอ่ะ  (ขี้เกียจ?????????????????????????????????)มันหลายคน เดี๋ยวก็ต้องเคลียนั่นเคลียร์นี่  ยุ่งยาก ถ้าเป็นไปได้ก็ปล่อยๆมันไปเหอะ

ใบ้กินอีกเเล้ว

เราหันไปด้านข้างค่ะ พบเด็กกลุ่มใหญ่ยืนซุบซิบเเล้วมองเราเเบบไม่หลบตาเลยค่ะ  ซึ่งก็ดูได้ไม่ยากว่า นี่คือ ป ห้าอีกห้อง ที่ไม่ได้เรียนพละ
เรากลับไปที่ห้องเรียน จำได้ว่าลืมรองเท้าที่ชั้นซ้อมลีด กลับไปเอา รองเท้าเราก็หายไป
เรากลับบ้านเท้าเปล่า....

เราเดินผ่านห้องเรียนของเด็กลีด ซึ่งน้องๆก็วิ่งออกมาบอกว่า น้องรู้ว่าเด็กพวกนั้นพูดอะไรกับครู
น้องบอกว่า เราเป็นคนที่เอาขนมออกมากิน....
เราลืมทิ้งขยะเรี่ยราด.....เเล้วมาโทษคนอื่น
เพื่อนเราเอาลูกชิ้นขึ้นมากิน เเล้วทำหกเอง....
เเล้วเราก็เอาสมุดวางทับลงไป กินเเล้วก็ทิ้งขยะทับสมุดตัวเอง เเล้วหาเรื่องใส่ร้ายน้อง เเค่เพราะว่าน้องมารบกวนการซ้อมลีด...

เเละครุก็เชื่อ เพราะเด็กนับสิบร่วมกันยืนยัน

พระ...เจ้า....

เราฟ้องครูสองคน เเต่สิ่งที่ได้รับกลับมา เรากลายเป็นคนมากเรื่อง มากความ วุ่นวาย ขี้โมโหเเถมยังโกหกซะอีก

สงสารสมุดคอมของตัวเองที่สุดเลยค่ะ... โดนทำร้ายเเล้วก็เอาผิดกับใครไม่ได้ หนำซ้ำ กลายเป็นว่าเราเป็นคนไปเที่ยวใส่ร้ายชาวบ้านเค้า

ถ้าอยากเอาคะเเนนก็คงต้องเขียนใหม่..นี่มันใกล่จะสอบเเล้วนะ เนื้อหาก็เยอะมากๆด้วย..

เรากลับมาพิจารณาตัวเอง ว่าเรามันไร้สาระจริงๆใช่ไหมคะ...
เรามันขี้วีน ขี้เหวี่ยง ไม่มีความอดทนใช่ไหมคะ..
นี่คือเรื่องเล็กน้อยจริงๆหรอคะ...

เราไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงมองว่านี่คือเรื่องเล็กน้อย
เรื่องของเด็กเเค่ปฐมนมไม่ทันตั้งเต้า เเต่กลับยอกย้อนเล่ห์เหลี่ยมขนาดนี้ พร้อมกันนั้น สังคมไทย วัฒนธรรมความอาวุโสมันหายไปเเล้วจริงๆหรอคะ.. เเล้วทำไม ผู้ใหญ่กลับไม่เดือดร้อนหรือว่ากระตือรือร้นที่จะเเก้ไข เด็กที่ทำเรื่องเเบบนี้ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ทำโดยไม่มีความเกรงกลัว ไม่มีพิรุจ มืออาชีพขั้นไม่ต้องใช้เเสตนอิน...  เราอยากรู้จริงๆค่ะ ว่าสำหรับคุณพ่อคุณเเม่ เเละคุณครูทุกท่าน

นี่คือเรื่องที่น่าปล่อยผ่านไปจริงๆหรือคะ...

ถ้าคุณมีลูกสาว คุณคิดว่านี่คือเรื่องธรรมดาไหมคะ ที่ลูกของคุณเป็นเเบบนี้...
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 5
พี่อ่านแล้วแอบขนลุก เด็กสมัยนี้ร้ายกาจมากจริงๆ ค่ะ ทำตัวท่าพูดเลียนแบบละครมาล้วนๆ ชัดๆ

เคยไปว่ายน้ำ แล้วลูกของลูกพี่ลูกน้อง ประมาณ ป. 5 มั้ง จำไม่ได้ จะแย่งเอาแว่นกันน้ำเรา ถีบพี่ใต้น้ำจนจุก
พอพ่อแม่เค้าเดินมาว่าก็ตีหน้าซื่อว่าเปล่า หารู้ไม่ว่าน้ำมันใส มองจากข้างบนเห็นการกระทำหมด... เงิบเบาๆ
มีร้องไห้หาว่าใส่ความอะไรด้วย พูดแล้วยังอึ้งไม่หาย
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่