ธอส.ไม่หวั่นหนี้เสียซื้อบ้านพุ่ง เชื่อคนมีจ่าย


ธอส.เผยยังไม่พบสัญญาณการผิดนัดชำระหนี้ แม้ยอดหนี้เสียครึ่งแรกเพิ่มจาก 7.7% ณ สิ้นปีมาอยู่ที่ 8.34% เป็นผลจากการจัดชั้นตามเกณฑ์ธปท.
นางอังคณา ปิลันธน์โอวาท ไชยมนัส กรรมการผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า แม้สถานการณ์เศรษฐกิจจะชะลอตัว แต่ธนาคารยังไม่พบสัญญาณการผิดนัดชำระหนี้ของลูกค้า ขณะที่ ธนาคารยังสามารถปล่อยสินเชื่อได้ตามเป้าหมาย โดยในช่วงครึ่งแรกของปีนั้น สามารถปล่อยสินเชื่อใหม่ได้จำนวน 5.76 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.4 หมื่นล้านบาท หรือ 31.6% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่งผลให้ธนาคารมีผลกำไรสุทธิ 3.7 พันล้านบาท หรือ 0.87%

"ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้นั้น เราสามารถปล่อยสินเชื่อใหม่ได้เกินกว่าเป้าหมาย โดยเป็นยอดสินเชื่อที่สูงสุดในรอบ 5 ปี สะท้อนความต้องการสินเชื่อของลูกค้า และ ความสามารถในการปล่อยสินเชื่อของธนาคาร ซึ่งยอดการปฏิเสธสินเชื่อต่อลูกค้าของธนาคารอยู่ในระดับไม่เกิน 10% ของจำนวนที่ขอสินเชื่อ"



ทั้งนี้ ยอดสินเชื่อคงค้างครึ่งแรกของปีของธนาคารอยู่ที่ 7.21 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2555 จำนวน 1.5 หมื่นล้านบาท หรือ 2.13%

อย่างไรก็ตาม ในแง่หนี้เสียนั้น ใน 6 เดือนแรกของปีอยู่ที่ 6 หมื่นล้านบาท หรือ 8.34% ของสินเชื่อรวม ซึ่งเพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2555 ที่มีหนี้เสียจำนวน 5.44 หมื่นล้านบาท คิดเป็น 7.71% ของสินเชื่อรวมในขณะนั้น ทั้งนี้ หนี้เสียที่เพิ่มขึ้นดังกล่าวนั้น เป็นผลจากการปรับปรุงการจัดชั้นหนี้ให้เป็นไปตามข้อเสนอของธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ให้มีการจัดชั้นหนี้ที่มีการประนอมหลังมีการพิพากษาบังคับคดี และ กลุ่มที่เงินต้นไม่เคลื่อนไหว ส่งผลให้ธนาคารต้องมีการจัดชั้นหนี้เสียเพิ่มขึ้น

ทั้งนี้ ในช่วงครึ่งแรกของปี ธนาคารได้ตัดขายหนี้เสียออกไปแล้วจำนวนประมาณ 9.3 พันล้านบาท ส่งผลให้หนี้เสียลดลงประมาณ 1.2%

"ยอดหนี้เสียใหม่ไม่ได้เพิ่มขึ้น สะท้อนว่า ลูกค้าต้องการสินเชื่อบ้านจริงๆ ไม่ได้เป็นสินเชื่อเพื่อเก็งกำไร แต่หนี้เสียที่เพิ่มนั้น เกิดจากการจัดชั้นตามเกณฑ์ของแบงก์ชาติ ภายในสิ้นปีนี้ เราเชื่อว่า จะสามารถบริหารจัดการหนี้เสียให้กลับมาอยู่ในระดับ 6.35% ได้ตามเป้าหมาย ภายใต้แผนการปรับโครงสร้าง ซึ่งหากหนี้เสียมีระยะเวลาเกิน 3 ปี เราจะตัดขายหนี้ดังกล่าวทิ้ง ขณะเดียวกัน เราก็จะป้องกันไม่ให้เกิดหนี้เสียเพิ่ม โดยจะมีแพคเกจในการดูแลลูกหนี้ ซึ่งเราได้ให้นโยบายแต่ละสาขาให้ดูแลลูกค้ากลุ่มนี้เป็นอย่างดี"

กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่