ตั้งวง: หนังที่ละเอียดอ่อนและเก็บรายละเอียดต่างๆไว้มากในเวลา 80 นาทีนี้

บอกก่อนนะครับว่าสปอย์จนถึงตอนจบที่ผมไม่ค่อยชอบเท่าไหร่แต่ก็เข้าใจว่าผู้กำกับมี message แทรกมาในหนังเรื่องนี้
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
เอาล่ะ เริ่มต้นยังไงดีล่ะ เหมือนโดนหลอกให้ไปดูหนัง feel good แต่เนื้อเรื่องมีแต่ drama หนักอกตลอดเรื่องและจบ bad end ห้วนๆแบบสิ้นหวังไปเลย ว่า 'ชีวิตจริงมันไม่ง่ายเหมือนในการ์ตูน'



หลังจากหนังจบแล้วผมก็นั่งฟังเพลงช่วงขึ้น credits วิเคราะห์ความคิดการกระทำสัญลักษณ์ต่างๆในเรื่องว่าเจตจำนงของหนังเรื่องนี้นั้นคืออะไร แล้วที่ผมสรุปได้จากการดูเรื่องนี้ว่า เขาต้องการนำเสนอถึงที่มาของความล้มเหลวในสังคมไทยว่าอะไรบ้างที่นำไปสู่ความสิ้นหวังเหล่านั้น ตัวละครทุกคนมีพัฒนาการที่ทั้งดีและไม่ดีแตกต่างกันไป คนที่จะรำแก้บนทุกคนมีความสามารถพิเศษ เป็นคนที่มีพรสวรรค์ แต่ด้วยความเป็นเด็กที่เปรียบดังผ้าขาว พอเจอสถานการณ์สีดำปนเทามากเกินกว่าที่จะรับได้ก็จบลงด้วยความสิ้นหวังทุกคน



ยอง: เด็กฉลาดอนาคตไกล มีพื้นฐานครอบครัวแบบชนชั้นกลางที่นั่ง first class ชอบส่งลูกไปสอบชิงทุนเรียนเมืองนอก ด้วยความที่เป็นเด็กเนิร์ดจะไม่ค่อยมีความเชื่อตามสภาพสังคมที่หล่อหลอมมาได้ง่าย แต่เพราะความคิดที่ไม่งมงายตามกระแสสังคมและไม่คิดจะทำความเข้าใจอะไร จากที่ดูว่าบ้าวิทยาศาสตร์ดูเหมือนจะเป็นเอาตัวเองเป็นใหญ่แล้วเอาวิทยาศาสตร์มาใช้เถียงข้างๆคูๆซะมากกว่า มีปัญหามาก็โทษคนอื่นก่อนเพื่อนไม่ดูตัวเองเลย
.
.
.
เมื่อเจอมรสุมสังคมเข้ามาก็ทำให้เจได้บรรลุสัจธรรมแห่งความสิ้นหวังทำให้เจนั้นกลายเป็นคนที่มี ego สูง มีกฎกติกาแต่เรื่องจริยธรรมกลับไม่มี ทำเพื่อตนเองและคิดว่าทุกคนก็เป็นแบบนั้นโดยเอาความถูกต้องของตนนั้นเป็นที่ตั้งดังที่สรุปไว้ในตอนท้ายของเรื่องซึ่งหลายคนที่ดูก็อาจจะรู้สึกจุกอกพูดไม่ออกเหมือนโดนผู้กำกับเอาไม้หน้าสามฟาดสันดานตัวเองออกมาให้ดูกันว่าลึกๆแล้วเราก็ไม่ต่างอะไรกับที่ยองว่าเลย



เจ: เด็กเนิร์ดอีกคนที่ไปแข่งกับยอง ในเรื่องนี้เจเหมือนเป็นตัวละครแบบยองในมุมมองที่ได้รับการซึมซับวัฒนธรรมจากสื่อต่างประเทศยุคใหม่ทั้งด้านดีและไม่ดี ตอนที่ดูไปจนถึงกลางเรื่องรู้สึกว่าเจมีความคิดอ่านดูเป็นเกินวัยกว่าคนวัยเดียวกันอยู่พอสมควร มีแนวคิดอุดมการณ์ความถูกต้องในมุมที่ละเอียดอ่อนตามสื่อญี่ปุ่นที่เน้นจรรโลงด้านความคิดเชิงปรัญชาแต่ก็ซึมซับความรุนแรงจากเกมที่เน้นความรุนแรงและความหยาบคายต่างๆเข้ามาเหมือนกัน ในเรื่องจะเห็นว่าเจนั้นก้าวร้าวพูดจาดูแคลนคนอื่นได้หน้าตาเฉยอยู่เป็นพักๆ แม้แต่เอ็มที่ต่อรองกับเถ้าแก่ยังให้ความรู้สึกว่าเป็นผู้น้อยที่ยำเกรงผู้ใหญ่อยู่
.
.
.
เนื่องจากเจนั้นได้ใกล้ชิดกับคุณครูที่เป็นแม่แบบเน่าเฟะอย่างในเรื่อง และจิตวิญญาณ hero ที่ตั้งมั่นได้พังทลายไปกับความผิดหวังครั้งแล้วครั้งเล่า เจก็ได้บรรลุสู่หนทางสู่ dark side เปลี่ยนมุมมองจาก hero กลายเป็นทรราชในชั่วข้ามคืนดังที่เห็นตอนท้ายซึ่งบทนี้ก็สะท้อนถึงบริบทของกระเทยในวงการมายาว่าเป็นเพียงหุ่นเชิดที่รับตั้งแล้วสั่งให้ทำอะไรก็ทำไป เป็นเพศที่โดนกดขี่ยิ่งกว่าผู้หญิงอีก



เบส: เป็นนักกีฬาดาวรุ่งมาจากบ้านที่ครอบครัวมีปัญหาหนัก ครอบครัวยากจน พ่อก็ทิ้งหน้าที่หัวหน้าครอบครัวที่ไม่เอาอ่าวไปเป็นม็อบที่ทำประโยชน์เพื่อประเทศชาติแทนทำให้เบสต้องแบกรับภาระชีวิตด้วยตนเองไว้กว่าคนไทยทั่วๆไปที่พ่อแม่ส่งเรียนจบปริญญาถือเป็นเรื่องปกติ เนื่องจากเบสเชื่อว่าไม่มีใครให้พึ่งได้นอกจากตัวเอง ความคิดเรื่องหวังพึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์จึงเป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้เด็ดขาด จริงๆครอบครัวแบบเบสน่าจะบ้าหวยและโชคลางหวังล้มๆแล้งๆกับเรื่องแบบนี้ด้วยแต่ทางผู้กำกับคงไม่อยากพูดถึงเพราะคิดว่ากระแสต่อต้านคงแรงเกินไป
.
.
.
นอกจากนี้เมย์ก็เชื่อเรื่องนี้ด้วยเห็นเบสกังวลเลยไปบนให้เบสแทน ฟังดูก็หวานดีนะครับ ตอนแรกดูแล้วแอบปลื้มว่าแฟนน่ารักจัง แต่พอดูไปสักพัก เมย์บนให้เบสดังนั้นเบสก็ต้องรำแก้บนไป รำเองด้วยนะไม่ใช่รำกับแฟน แถมพอไม่ได้ดั่งใจอะไรก็ตบตีเบส เบสก็อดทนดีนะครับ เรื่องปิงปองเรื่องพ่อก็เครียดจะแย่อยู่แล้วเจอแฟนเหวี่ยงแบบนี้ไม่ระเบิดลงใส่เมย์ทนทำตามคำขอร้องมาได้ แต่สุดท้ายก็ทนไม่ไหวจนเมย์จะบอกเลิกไป ลึกๆแล้วเบสก็เป็นคนที่มีสำนึกดีนะ ตอนพ่อไม่อยู่ก็เสี่ยงตายออกไปตามหาพ่อจนเกือบเอาตัวไม่รอดกลับมา แต่ตึงกับตัวเองมากไปหน่อยจนไม่เห็นน้ำใจคนอื่น ถ้าบอกเมย์ไปว่า 'จริงๆเบสก็ไม่เชื่อหรอกนะ แต่เพราะเห็นแก่น้ำใจเมย์ที่มาบนขอพรให้เบสแบบนี้ เบสจะรำให้ก็ได้ แต่แค่ครั้งนี้ครั้งเดียวเท่านั้นนะ' แค่นี้ก็เข้า win สวยๆไปอีกคู่ให้สาวๆที่ชอบหนุ่มซึนได้ฟินเล่น แต่เรื่องแบบนี้มีแค่ในการ์ตูนญี่ปุ่นเท่านั้นแหละ เด็กมัธยมใครมันจะไปคิดได้ขนาดนั้นกัน แต่สุดท้ายก็ทนอายไม่ได้อยู่ดี ภาพตอนทิ้งชฎาวิ่งไปนั้นมันตรึงหัวใจจริงๆ



เอ็ม: เป็นเด็กหนุ่มผู้มีพรสวรรค์กับเรื่องที่คนส่วนใหญ่มองว่าไม่มีอนาคต เท่าที่ผมดูเอ็มเป็นตัวละครที่มีมิติที่ยากจะถ่ายทอดออกมากว่าคนอื่นอยู่พอสมควร ปกติเราจะชินกับวัยรุ่นเหลวแหลกซั่มกันเอามันแล้ว jackpot ท้องจนหมดอนาคตที่ไม่ค่อยจะมีไป แต่เอ็มก็เป็นผู้ใหญ่ระดับนึงในสังคมแห่งความเหลวแหลกนี้ แม้เอ็มจะเจ้าชู้พาลแฟนตามประสา hippy แต่เอ็มก็รับผิดชอบทีมเต้นเป็นหัวหน้าทีมพาคว้ารางวัลประกวด ทุ่มเทกับความฝันอย่างเต็ม 100% และชอบมากพอที่จะยอมทิ้งการศึกษาไปได้
.
.
.
จริงๆเอ็มและเบสมาจากครอบครัวที่มีพื้นฐานคล้ายกันคือลำบากเรื่องเงินๆทองๆเหมือนกัน แต่เบสเลือกที่จะสร้างหนทางในมุมสว่างของสังคมแต่เอ็มนั้นชอบที่ทำในส่วนที่สังคมยังไม่ยอมรับกัน ภาพลักษณ์ที่สังคมและครอบครัวมองมันก็สะท้อนออกมาต่างกันอย่างที่เห็น แต่เมื่อพบกับภาระที่หนักหน่วงเกินกำลังตนจะจัดการได้ เอ็มก็เลือกที่จะหนีแบบตัว สุดท้ายก็เข้าสู่ภาวะจำยอมทิ้งความฝันเตรียมจะหาเงินเลี้ยงลูกชดใช้กรรมที่ก่อไว้ไป แม้เรื่องจะจบลงแบบ safe ไปได้และกลับมาทำตามฝันต่อไปได้นั้น เอ็มก็ได้สูญเสียความเชื่อมั่นในภาวะผู้นำของตัวเองไปแล้ว



เรื่องนี้ตัวละครที่มีแก้บนทุกคนล้วนมีพรสวรรค์ มีความสามารถ มีเอกลักษณ์และปัญหาที่แบกรับอยู่ด้วยกันทุกคน และผมเองที่ผ่านประสบการณ์วัยรุ่นในมุมต่างๆของทุกคนมาก่อนเวลาดูหนังมันจุกอกจริงๆเหมือนเห็นช่วงชีวิตตัวเองบางส่วนในนั้น ผมเป็นเด็กเนิร์ด ต้องเรียกว่าเคยสิเพราะไม่ได้เป็นเด็กแล้ว เรียนเก่งแบบเจเคยไปตอบปัญหาแข่งเหมือนกัน ซึมซับสื่อต่างๆของญี่ปุ่นมายาวนานและได้สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ใหญ่ก่อนวัยเหมือนอย่างเจแต่เป็นตอนมหาลัยนะ ต้องพึ่งตัวเองเพราะอยากกระแดะเรียน inter เลยต้องส่งตัวเองเรียนไม่หวังพึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ใดเหมือนอย่างเบส (แต่ไม่มีแฟนน่ารักแบบเขา OTL) มีสิ่งที่รักที่ชอบทำมากกว่าการศึกษาแต่ครอบครัวมองว่าไร้อนาคตบอกว่าจะโดนฝรั่งหลอกไม่เหมือนทุกวันนี้ที่ทำ app แจกหรือขายถูกๆก็เชื่อว่าเลี้ยงตัวได้ไม่ยากไม่โดนกระแสสังคมต่อต้านเพราะมีท่านศาสดา steve jobs มาช่วยปูทางอบรมให้แล้วอย่างเอ็ม ตอนดูพื้นเพของแต่ละคนมันช่างกระอักกระอ่วมใจเสียจริง



จริงๆทุกคนในเรื่องนี้ก็สามารถจบแบบ good end ได้หมดนะแต่เพราะสารที่ผู้กำกับต้องการนำเสนอคือมูลเหตุของความสิ้นหวังของปัญหาต่างๆในประเทศนี้ซึ่งการชี้แจงถึงรากเหง้าของต้นต่อปัญหาให้ละเอียดนั้นจำเป็นต้องจบแบบนี้เพื่อให้ผู้ชมได้รับรู้แล้วนำไปคิดและสำเหนียกในสิ่งที่ตนได้กระทำมาด้วย ไม่ใช่เอาแต่โทษนักการเมืองโทษคนอื่นไปเรื่อย สุดท้ายก็หนีจากสังคม หนีจากประเทศนี้ไปสู่ประเทศที่เจริญกว่าแบบยองเมื่อมีโอกาส
.
.
.
จริงๆตอนคนรุมโห่ต่อว่าผมว่ามันก็ผิดวิสัยคนไทยเกินไปนะ ถึงจะรำไม่ดีแต่ถ้าเห็นว่าคนบนมารำแก้เองอย่างน้อยๆคนส่วนใหญ่ที่ผมเห็นในต่างจังหวัดเค้าก็ยังประทับใจว่าตั้งใจทำด้วยตนเองไม่ใช่เอะอะก็จ้างคนไปรำให้ ในหนังการที่สื่อให้เห็นว่าคนไทยต้องการเย้ยหยันคนที่พยายามทำอะไรด้วยความมุ่งมั่นจริงใจต่อหน้าแบบนั้นมันต่ำทรามเกินไปครับ ถ้าล้อเลียนลับหลังเป็นจิ๊กโก๋ keyboard เกรียนๆใน Youtube ค่อยดูสมเป็นคนไทยที่น่าด่าหน่อย ถ้าแก้ฉากจบได้ผมอยากให้จบแบบนี้มากกว่า



ช่วงที่เฟื่องจะออกจากห้องไป จากที่เอ็มโม้เรื่องเต้นก็บอกเฟื่องไปแทนว่าเอ็มยอมรับว่าเอ็มมันที่วิ่งหนีเฟื่องไปในตอนนั้น แต่หลังจากนั้นมาเอ็มก็ยอมทิ้งความฝันของเอ็มไปเพื่อที่จะเตรียมตัวเป็นพ่อของเด็กในท้อง เราอาจจะไม่ได้รักเฟื่องมากอย่างที่คิดก็จริงแต่จนถึงตอนนี้เอ็มก็ตั้งใจจะเป็นพ่อของลูกเฟื่องจริงๆ ทั้งสองกอดกันแล้วเฟื่องขอให้เอ็มพิสูจน์รักแท้โดยการรำวงอีกครั้ง
.
.
.
แล้วฉาก climax ที่ยองกำลังสอบสัมภาษณ์ ระหว่างที่พูดจาโต้ตอบกับผู้สัมภาษณ์ก็มีข้อคิดขัดแย้งในหัวค่อยๆก่อตัวขึ้นมา มีคำพูดขัดแย้งในใจถึงการไปเรียนที่สิงคโปร์ว่าเป็นการหนีรากเหง้าความผิดพลาดของตัวเองซะมากกว่า ตอนที่ว่าสิงขโปร์มีระบบการศึกษาที่เจริญกว่าไทยนั้นให้ยองคิดตกได้ก็บอกผู้สัมภาษณ์ว่าขอโทษนะครับ ผมเพิ่งนึกได้ว่ามีเรื่องที่ต้องทำเดี๋ยวนี้ ถึงแม้ผมจะจบออกมาเป็นบุคลากรที่ดีเลิศแค่ไหน ผมก็จะยังเป็นไอ้ขี้แพ้ไปตลอดชีวิตอยู่ดีถ้าผมยังคงวิ่งหนีต่อไปอยู่แบบนี้ ผู้สัมภาษณ์ขอจับมือก่อนออกมาแล้วยองวิ่งไปขึ้นวิน
.
.
.
ตัดไปช่วงรำแก้บนก็มีคนมามุมดูอมยิ้มหัวเราะกันแล้วเริ่มมีวัยรุ่นเกรียนๆมาล้อเลียนให้ใจฝ่อ ช่วงที่ เบสจะทนไม่ไหวเมย์ก็ตะโกนด่าคนพวกนั้นไปทำให้สถานการณ์สงบลง ช่วงที่จะรำต่อยองก็มาถึงพอดีแล้วบอกขอโทษเจแล้วกลับมาคืนดีกัน เนื่องจากชุดไม่มีพี่นัทก็มอบชฎาให้สวมใส่แทนเป็นเชิงสัญลักษณ์ ทั้งสี่คนตั้งวงรำใหม่ แม้จะรำไม่อ่อนช้อยเหมือนเดิมแต่อาการเคอะเขินในตอนแรกก็หายไปแล้ว ทุกคนรำด้วยความมุ่งมั่นที่จะรักษาสัญญาที่ได้ให้ไว้เพื่อที่จะยังเคารพตัวเองได้ต่อไป พอรำเสร็จเจจะให้นัทคิดตังค์นัทบอกไม่ต้องละ แล้วก็จบละครด้วยประโยคที่ว่า 'ชีวิตจริงมันไม่ง่ายเหมือนในการ์ตูนเพราะในการ์ตูนตัวละครไม่ได้ทิ้งปณิธานได้ง่ายๆเหมือนคนในชีวิตจริง'
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่