ขอแชร์ข้อมูลแล้วกัน กรณีสวนยาง

กระทู้สนทนา
ว่าด้วยเรื่องตัวเลข และความจริง

ก๊อปคุณหมูพลิกล็อคจากกระทู้
http://ppantip.com/topic/30906118/comment76
----------------
ค่าเฉลียผลผลิตยางต่อไร่ของประเทศไทย อยู่ที่ 280 กก.ต่อไร่ต่อปี  สมมุติราคากก.ละ 100 บาท จะมีรายได้ยังไม่หักค่าใช้จ่าย = 28000 บาท ต่อไร่

ถ้ามีที่ 20 ไร่ ก็จะมีรายได้ยังไม่หักค่าใช้จ่าย 560000 ต่อปี

หัก จ่ายคนกรีด 40% 224000 บาท
หัก ค่าปุ๋ยและค่าดูแลรักษา(ไม่รวมค่าใช้จ่ายเริ่มต้น คือถาง/ไถพรวน/เตรียมแปลง) ราว 30000 บาท
เหลือรายได้สุทธิ ปีละ 306000 บาท หรือ เดือนละ25500 บาท
-----------------

แหม่ ดูเหมือน เจ้าของสวนนี้กำไรจัง ไม่ต้องทำอะไรก็ได้เดือนละ 25500 บะห์ เค้าไม่ลงทุนอะไรเลยหรือ แล้วใครเป็นคนปลูกยางฟระ เลี้ยงดูปูเสื่อมา 7 ปี จะไม่ได้อะไรเป็นชิ้นเป็นอันกันเลยหรือ

เอาง่ายๆ คำตอบฟันธงฉบับนักลงทุนเจ้าของสวนยางที่มีสวนเกิน 100-500 ไร่ขึ้นไป รายได้สวนยางบวกลบทุกอย่างแล้ว ยกเว้นค่าที่ดินนะ จะให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 10-15 % ต่อปี อย่าลืมว่า เจ้าของสวนยางต้องลงทุนและเฝ้ารอเป็นเวลาถึง 7 ปี และรายได้จะมาเต็มที่ในปีที่ 10 เป็นต้นไป แต่เอาเหอะ เจ้าของสวนเค้าไม่ดูหรอก ว่าเดือนนี้เงินเข้าเท่าไหร่เทียบกับปีที่แล้ว แต่เค้าดูว่า "ทั้งปี"เค้าได้ "%กำไร" เท่าไหร่ เทียบกับการลงทุนรูปแบบอื่น ต่างหาก

ฉะนั้น จะมากจะน้อย ก็แล้วแต่เศรษฐกิจ และนโยบายของรัฐบาลที่จะมีมาตรการส่งเสริมการแปรรูปผลิตภัณฑ์หรือไม่ หรืออะไรอย่างอื่นที่จะมากระตุ้นราคายาง ง่ายๆ ก็รัฐบาลมีปัญญามากน้อยแค่ไหนเท่านั้น

ส่วนพวกเราชาวนักลงทุนสวนยาง เต็มที่ ก็ขาดทุนกำไรครับ


แล้วที่ไปก่อม๊อบคือใคร ผมไม่รู้ แต่ผมเข้าใจว่า เป็นชาวสวนยางรายย่อย ที่มีเนื้อที่ไม่เกิน 100ไร่ และ คนงานกรีดยางที่ได้รับผลกระทบจากราคายางตกต่ำ
ถ้าดูจากข้างบนที่ คุณหมูพลิกล็อค ว่าไว้ ถ้ามีที่ 20 ไร่ หัก จ่ายคนกรีด 40% เป็นเงิน 224000 บาท

ซึ่ง 20 ไร่ หมายถึงต้องใช้คนงาน 2 คน แปลว่า 2 คนมีรายได้รวมกัน 224000 บาทต่อปี หรือ 9333 บาทต่อคน

9333 บาทต่อคนต่อเดือน ที่ 100 บาทต่อ ก.ก. แต่ตอนนี้มัน 60 กว่าบาทนะ

คิดเอาเอง ว่าน้อยหรือมาก

ถามว่าเจ้าของสวนแบ่ง % ถูกต้องหรือไม่ นั่นเป็นการตกลงระหว่างเจ้าของสวนกับคนงานอยู่แล้วว่าจะแบ่งกันอย่างไร คนงานก็ไม่โง่ ถ้าเจ้าของสวนไหนให้น้อย ก็ไปกรีดสวนอื่นได้ คนงานกรีดยางฝีมือดีหายากจะตาย ฉะนั้น ราคายางจึงมีผลโดยตรงกับเงินเดือนของคนกรีดยางโดยตรง ถ้ามันน้อย เค้าก็ได้น้อยครับ ผมว่าจึงเป็นที่มาของม๊อบนี้แล เจ้าของสวนก็แค่คล้อยตาม แค่นั้น หุหุ

ส่วนรายใหญ่ ถ้ามันตกต่ำเกิน 2-3 ปี เค้าก็แค่หันไปลงทุนอย่างอื่นครับ หุหุ


--------------------------------------------
ตอบ คห. 1
อ้อ อย่าเอาคำว่า
ปลูกยาง ได้กรีดทุกวัน
ทำนา     ปีละครั้ง
มาพูดเลยครับ

เอารายได้เฉลี่ยต่อปี มาว่ากันดีกว่า  ผมว่าชาวนาได้เยอะกว่านะ แต่เอ..... ผมต้องพูดถึง นักลงทุนเจ้าของนา 100-1000 ไร่ด้วยหรือปล่าว

ฉะนั้นระบุด้วย ว่าทำนาเอง หรือว่ารับจ้างทำนา หุหุ

------------------------------------------

ขอย้ำ

ประเด็นที่ผมเขียน คือนายทุนจะเป็นอย่างไร ช่างหัวมัน แต่จะทำเป็นมองไม่เห็นปัญหาของคนกรีดยาง และเจ้าของสวนขนาดเล็กไม่ได้นะคร้าบ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่