เมกาฯ-ท้าชน'เซ็นทรัล'สนั่นบางใหญ่

(ข่าวเก่านะครับ)


ค้าปลีกฝั่งกรุงเทพฯตะวันตกแข่งดุเดือด "เอสเอฟ"  ทุ่มงบกว่าหมื่นล้านปักหมุด"เมกาบางนา 2"  หัวมุมแยกบางใหญ่ ท้าชนเซ็นทรัลเวสต์เกตแบบตาต่อตาฟันต่อฟัน  ดึง "อิเกีย"

alt ร่วมเป็นแม็กเนตปั้นศูนย์ครบวงจรบนพื้นที่กว่า 4 แสนตร.ม.  คาดแล้วเสร็จในปี 2558 เช่นเดียวกับเวสต์เกต ที่ซีพีเอ็นเร่งทุ่มงบกว่าหมื่นล้าน สร้างค้าปลีกโมเดลใหม่ "ซูเปอร์รีจินอล มอลล์"  ครบเครื่องทั้งห้าง ศูนย์  โรงแรม และนำร่องลุยโครงการคอนโดมิเนียม  
    นายนพพร วิฑูรชาติ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท สยามฟิวเจอร์ดีเวลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) (บมจ.) หรือเอสเอฟ เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ"  ว่า  บริษัทพร้อมเดินหน้าลงทุนสร้างศูนย์การค้าเมกาบางนา 2  หัวมุมบริเวณแยกบางใหญ่ พื้นที่กรุงเทพฯฝั่งตะวันตก ซึ่งคาดว่าจะสามารถดำเนินการก่อสร้างและแล้วเสร็จภายใน 3 ปีนับจากนี้
    เนื่องจากมองว่า ศักยภาพของตลาดค้าปลีกเมืองไทยยังสามารถเติบโตได้อีกมาก จากการขยายตัวของเมือง อีกทั้งธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ คอนโดฯ หมู่บ้าน ชุมชน มีการขยายตัวออกสู่ชานเมืองมากขึ้น โดยโครงการเมกาบางนา 2 นี้ อยู่ระหว่างการวางแผนข้อมูลโครงการ และจะสามารถเริ่มก่อสร้างได้ในปี 2557 และคาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วงปี 2558
++ ทุ่มกว่าหมื่นล้านผุดเมกา 2
    เอสเอฟ  ได้ซื้อที่ดินแปลงใหญ่ขนาดกว่า 50 ไร่ บริเวณแยกบางใหญ่  พร้อมตั้งเป้าจะพัฒนาเป็นเมกาบางนา 2  ซึ่งเบื้องต้นคาดว่าจะต้องใช้เงินลงทุนกว่า 1 หมื่นล้านบาท โครงการนี้จะเน้นเป็นศูนย์การค้าครบวงจร โดยร่วมกับพันธมิตรสำคัญ อาทิ อิคาโน จากประเทศสวีเดน ที่จะเปิดให้บริการอิเกีย ศูนย์จำหน่ายเฟอร์นิเจอร์ และอุปกรณ์ตกแต่งบ้านรายใหญ่ ที่เคยเปิดให้บริการที่เมกาบางนา สาขาแรก นอกจากนี้ยังจะมีส่วนของห้างสรรพสินค้า  , ซูเปอร์มาร์เก็ต , โรงภาพยนตร์ ฯลฯ
    "พื้นที่ของเมกาบางนา 2  จะมีขนาดใกล้เคียงกับเมกา บางนา สาขาแรก ซึ่งตั้งอยู่ในย่านบางนา  มีพื้นที่ก่อสร้างรวมทั้งสิ้น 4 แสนตารางเมตร(ตร.ม.)  และมีพื้นที่ขาย 2 แสนตร.ม.  ขณะนี้อยู่ระหว่างการออกแบบก่อสร้าง ซึ่งแม่เหล็กสำคัญยังคงเป็นการจับมือร่วมกับพันธมิตร ที่ดำเนินการร่วมกันมาตลอด อย่างอิเกีย   อย่างไรก็ดีมั่นใจในศักยภาพของทำเลที่ตั้ง ซึ่งแม้จะอยู่ใกล้เคียงกับเซ็นทรัล เวสต์เกต ที่กำลังก่อสร้างอยู่ในขณะนี้"  นายนพพรกล่าว
++  ทำเลทองเชื่อมต่อศก.รับเออีซี
    ทั้งนี้ พื้นที่ฝั่งกรุงเทพฯ ตะวันตก ถือเป็นโซนค้าปลีกใหม่ที่มีศักยภาพสูง  โดยเฉพาะในย่านบางใหญ่ ซึ่งเป็นเกตเวย์ที่ใหญ่ที่สุดของกรุงเทพฯ ด้านตะวันตก  มีความพร้อมทั้งด้านระบบคมนาคม และมีเมกะโปรเจ็กต์ของภาครัฐที่เชื่อมต่อทุกเส้นทางเข้าด้วยกัน โดยแยกบางใหญ่ เป็นจุดตัดถนนกาญจนาภิเษก ขนาด 12 เลน และ ถนนรัตนาธิเบศร์ขนาด 10 เลน สามารถรองรับรถยนต์กว่า 85 ล้านคันต่อปี และเป็นเส้นทางที่สามารถรองรับการขยายตัวของเศรษฐกิจ จากการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือเออีซี เพราะมีเส้นทางมอเตอร์เวย์ สายตะวันตก บางใหญ่-บ้านโป่ง-กาญจนบุรี เชื่อมต่อท่าเรือทวาย ทะเลอันดามัน
    นอกจากนี้ยังมีทางด่วนขั้นที่ 3 เชื่อมวงแหวนตะวันตก และมอเตอร์เวย์ชลบุรี และรถไฟฟ้าสายสีม่วง บางใหญ่-บางซื่อ ระบบขนส่งมวลชนที่จะนำพามวลชนเข้าสู่โครงการด้วยSkywalk เชื่อมตรงจากสถานี ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมาย กว่า 13 ล้านคน ในพื้นที่รัศมีการเดินทางในระยะ 1 ชั่วโมงครึ่ง 8 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพฯ นนทบุรี ปทุมธานี อยุธยา นครปฐม สุพรรณบุรี กาญจนบุรี ราชบุรี และในอนาคตเมื่อวงแหวนรอบ 3 แล้วเสร็จ จะสามารถครอบคลุมได้ถึง 15 จังหวัด และที่นี่จะเป็นศูนย์กลางแหล่งที่อยู่อาศัยในอนาคต ซึ่งคาดว่าการเติบโตของโครงการที่อยู่อาศัยในย่านนี้ จะสูงถึงกว่า 1.5 แสนยูนิต ในอีก 5 ปีนับจากนี้ ทำให้ทำเลดังกล่าว กลายเป็นทำเลทองที่ได้รับความสนใจจากนักลงทุนจำนวนมาก
++ ชี้อนาคตบางใหญ่ "เดือด"
    ด้านนางสาววัลยา จิราธิวัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานพัฒนาธุรกิจออกแบบและก่อสร้าง บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอ็น กล่าวว่า  การลงทุนสร้างศูนย์การค้าแห่งใหม่ "เซ็นทรัลเวสต์เกต"  บริเวณแยกบางใหญ่ ฝั่งกรุงเทพฯ ตะวันตก ถือเป็นการลงทุนครั้งสำคัญของซีพีเอ็น  เพราะที่นี่จะเป็นค้าปลีกรูปแบบใหม่ ภายใต้แนวคิด "ซูเปอร์รีจินอล มอลล์"  และจะถูกใช้เป็นต้นแบบในสาขาต่อไป โดยเซ็นทรัลเวสต์เกต จะเป็นศูนย์การค้าไลฟ์สไตล์คอมเพล็กซ์ เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ครบวงจร และโครงการที่อยู่อาศัย ซึ่งซีพีเอ็นจะเป็นผู้พัฒนาเองทั้งหมด และเป็นครั้งแรกที่ซีพีเอ็นจะรุกขึ้นมาพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ในรูปแบบคอนโดมิเนียมด้วย
    โดยเบื้องต้นคาดว่าจะใช้เงินลงทุนกว่า 1 หมื่นล้านบาท บนพื้นที่โครงการเต็มเฟสขนาด 5 แสนตร.ม. บนพื้นที่ใหญ่ 100 ไร่ โครงการนี้จะเป็นโครงการ Mixed Use ที่สมบูรณ์แบบที่สุด ด้วยดีไซน์แนวคิด "MetAsia" เมืองศูนย์รวมสุดยอดไลฟ์สไตล์แห่งอนาคตของเอเชีย โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการก่อสร้างฐานราก คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างเต็มที่ได้ในปีหน้า และแล้วเสร็จในปี 2558 ตามแผนเดิมที่วางไว้
    "การลงทุนครั้งนี้ ถือว่าสำคัญมากสำหรับซีพีเอ็น เพราะที่นี่จะเป็นศูนย์กลางแห่งการช็อปปิ้งของภูมิภาค และซีพีเอ็นจะเป็นผู้นำในการเปิดมิติใหม่ของ "แยกบางใหญ่" ซึ่งเป็นสุดยอดทำเลศักยภาพสูงแห่งอนาคต ที่นี่จะเป็น "เมืองใหม่" ที่เติบโตอย่างก้าวกระโดด เพื่อเป็นNew CBD ศูนย์กลางเศรษฐกิจแห่งใหม่ของประเทศ เป็นศูนย์กลางที่อยู่อาศัยแห่งใหม่ สอดคล้องกับยุทธศาสตร์การขยายเมืองใหม่ของภาครัฐ"
    แหล่งข่าวระดับสูงในวงการค้าปลีก กล่าวว่า บางใหญ่ถือเป็นทำเลทองของค้าปลีกในอนาคต เพราะมีระบบสาธารณูปโภคที่ครบครัน แม้ในปัจจุบันจะยังไม่มีค้าปลีกขนาดใหญ่เข้ามาลงทุน แต่เชื่อว่าในอนาคต จะมีผู้ประกอบการค้าปลีกรายใหญ่เข้ามาอีกอย่างแน่นอน จากการขยายตัวของชุมชน และที่อยู่อาศัยที่เพิ่มขึ้นทุกวัน  อย่างไรก็ดี มองว่าการเข้ามาลงทุนของเอสเอฟ ในการเปิดตัวเมกาบางนา 2 จะส่งผลให้เกิดการแข่งขันที่รุนแรงมากขึ้นอย่างแน่นอน เพราะถือเป็นการประจันหน้ากันของ 2 แบรนด์ใหญ่อย่างเอสเอฟ และกลุ่มเซ็นทรัล
++ พร้อมเดินหน้าเมกาบางนา 3
    นายนพพร ยังกล่าวอีกว่า บริษัท ยังมีแผนหาพันธมิตรเพิ่ม เพื่อขยายการลงทุนต่อเนื่องในหลากหลายรูปแบบ ทั้งศูนย์การค้าขนาดกลาง หรือคอมมิวนิตี มอลล์ หลังจากที่ล่าสุด ร่วมกับมหาวิทยาลัยกรุงเทพ วิทยาเขตรังสิต เปิดตัวคอมมิวนิตี มอลล์ โมเดลใหม่ "ยูนิเวอร์ซิตี้ มอลล์" ภายใต้ชื่อโครงการ "อิมเมจิน วิลเลจ" บนพื้นที่ 4.2 พันตร.ม. ด้วยตัวอาคารสูง 6 ชั้น แบ่งเป็น ชั้น 1-3 เป็นคอมมิวนิตี มอลล์ ,ชั้น 4-6 จะเป็นชั้นเรียน ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวมีมหาวิทยาลัยกรุงเทพเป็นเจ้าของโครงการ ขณะที่สยามฟิวเจอร์ทำหน้าที่เป็นผู้บริหารโครงการ
    ขณะเดียวกันบริษัทยังได้จับมือกับทางบริษัท แอล.พี.เอ็น. ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือแอล.พี.เอ็น. ในการเปิดโครงการลุมพินี ทาวน์ชิป รังสิต คลอง 1 ที่เป็นโครงการขนาดใหญ่นำร่องของแอล.พี.เอ็น. บนขาย 1 หมื่นตร.ม. โดยบริษัทได้เช่าพื้นที่ทำคอมมิวนิตี มอลล์ในโครงการดังกล่าว มูลค่าการลงทุนกว่า 300-400 ล้านบาท รองรับคนในโครงการและพื้นที่ใกล้เคียงที่มีไม่ต่ำกว่า 5 หมื่นคน โดยคาดการณ์ว่าจะสามารถเปิดให้บริการได้ในช่วงปลายปี
    นอกจากนี้ในปี 2557 บริษัทยังได้เตรียมส่วนต่อขยายของนวมินทร์ ซิตี้ อเวนิว ต่อจาก เฟสติวัลวอล์ค เพื่อให้เป็นศูนย์เอนเตอร์เทนเมนต์รองรับความต้องการคนรุ่นใหม่ที่ครบวงจร บนพื้นที่ 2 หมื่นตร.ม. และจะเปิดศูนย์การค้าแห่งใหม่อย่างน้อย 2 แห่งด้วย
    สำหรับผลประกอบการของเอสเอฟ  50% มาจากศูนย์การค้าเมกาบางนา ขณะที่ภาพรวมตลอดทั้งปีมองว่าจะสามารถสร้างการเติบโตเพิ่มจากปีที่ผ่านมา 10-15%

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 33 ฉบับที่ 2,856 วันที่  27 - 29  มิถุนายน พ.ศ. 2556

บ้านอยู่แถวนี้ด้วยรู้สึกขนลุกเบาๆ ไม่อยากนึกเลยว่ารถจะติดแค่ไหน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่