เรื่องมีอยู่ว่า ..
เมื่อเวลาประมาณห้าทุ่มกว่าๆ ที่ผ่านมาขณะที่เรากับพี่สาวกำลังจะเตรียมตัวอาบน้ำนอน
หลังจากที่วันนี้เหนื่อยมาทั้งวันจากงานชิวาวาปาร์ตี้
พวกเราได้ยินเสียงหมาร้องโหยหวน เป็นระยะ จนทำให้น้องหมาที่บ้านและหมาระแวกบ้านเห่าตามกันระงม
เลยส่องที่หน้าต่างห้องชั้นสองหาต้นตอของเสียง เพราะได้ยินเหมือนไม่ใกล้ไม่ไกล
พี่สาวเราก็เห็นบ่อน้ำที่ข้างบ้านกระเพื่อมไหว (บ่อเป็นบ่อปูนขนาดประมาณ 1.5x3 เมตร)
แต่พี่เราสายตาสั้นมากเลยเรียกเรามาดูให้แน่ใจว่าใช่หมาตกน้ำหรือเปล่า
เราก็เลยลองร้องเรียกหมาข้างบ้านดู ก็เห็นมันว่ายวนมา
เรากับพี่สาวตกใจมาก เลยร้องตะโกนเรียกข้างบ้าน แต่ก็ไม่ได้ยินเสียงตอบรับหรือความเคลื่อนไหวใดๆ !!
จึงตัดสินใจออกไปกดกริ่งที่หน้าบ้านเรียก กดและร้องเรียกไปหลายครั้ง แต่ก็เงียบ... ไฟในบ้านปิดสนิท
มองไปที่บ่อน้ำก็เห็นน้องหมายังว่ายวนไปมา และร้องขอความช่วยเหลืออยู่
กลัวว่าหากปล่อยไว้นานกวานี้น้องหมาคงหมดแรง เราเลยตัดสินใจว่าต้องปีนรั้วบ้านเข้าไปช่วยแล้วเดี๋ยวไม่ทัน !!
บ้านหลังนี้หลังใหญ่พอสมควรค่ะ เราคิดว่าเป็นบ้านหลังใหญ่ที่สุดในซอยแล้วมีกล้องวงจรปิดด้วย
ก่อนปีนเราก็ไหว้ขออนุญาตด้วย ใจก็ตุ้มๆ ต่อมๆ
พอปีนเข้าไปได้ก็รีบไปช่วยน้องหมาขึ้นมาจากสระ ..
สภาพตอนนั้นน้องหมาตัวสั่นมากกกก ยืนจะไม่ไหวแล้ว (เป็นน้องหมาพันธุ์พุดเดิ้ลสีขาว ขนาดกลางตัวอวบอ้วนมากค่ะ)
พี่สาวเรารีบกลับไปเอาผ้าเช็ดตัวเพื่อให้เราเช็ดตัวให้น้องหมา
เพราะกลัวทิ้งไว้แบบนี้คงเสี่ยงปอดบวมแน่
ระหว่างนั้นในบ้านก็ยังเงียบ ไม่มีความเคลื่อนไหวอะไรเลย ดูที่โรงจอดรถก็เห็นรถจอดอยู่สองคัน..
พอเช็ดตัวเสร็จน้องหมาก็รีบวิ่งไปเลย คงค่อยยังชั่วแล้ว
เราเลยปีนรั้วออกมา
ตอนปีนออกมาก็เริ่มคิดกลัวไปเรื่อย..
นี่มันกลางดึกเกือบเที่ยงคืน เรามาปีนบ้านคนอื่นอยู่เนี่ยจะโดนหาว่าถือวิสาสะ หรือหนักกว่านั้นจะกลายเป็นข้อหาบุกรุกหรือเปล่า ??
แต่ก็เอาเถอะพรุ่งนี้จะเข้าไปขอโทษ และอธิบายเหตุการณ์ให้เค้าฟังอีกที
วันนี้เราได้ช่วยหนึ่งชีวิตนี้ไว้ก็สุขใจพอแล้ว ...
ใจสั่นไม่หาย.. ปีนเข้าบ้านคนอื่น เพื่อช่วยหมาของเค้ากลางดึก!! เราทำถูกหรือเปล่าคะ??!!
เมื่อเวลาประมาณห้าทุ่มกว่าๆ ที่ผ่านมาขณะที่เรากับพี่สาวกำลังจะเตรียมตัวอาบน้ำนอน
หลังจากที่วันนี้เหนื่อยมาทั้งวันจากงานชิวาวาปาร์ตี้
พวกเราได้ยินเสียงหมาร้องโหยหวน เป็นระยะ จนทำให้น้องหมาที่บ้านและหมาระแวกบ้านเห่าตามกันระงม
เลยส่องที่หน้าต่างห้องชั้นสองหาต้นตอของเสียง เพราะได้ยินเหมือนไม่ใกล้ไม่ไกล
พี่สาวเราก็เห็นบ่อน้ำที่ข้างบ้านกระเพื่อมไหว (บ่อเป็นบ่อปูนขนาดประมาณ 1.5x3 เมตร)
แต่พี่เราสายตาสั้นมากเลยเรียกเรามาดูให้แน่ใจว่าใช่หมาตกน้ำหรือเปล่า
เราก็เลยลองร้องเรียกหมาข้างบ้านดู ก็เห็นมันว่ายวนมา
เรากับพี่สาวตกใจมาก เลยร้องตะโกนเรียกข้างบ้าน แต่ก็ไม่ได้ยินเสียงตอบรับหรือความเคลื่อนไหวใดๆ !!
จึงตัดสินใจออกไปกดกริ่งที่หน้าบ้านเรียก กดและร้องเรียกไปหลายครั้ง แต่ก็เงียบ... ไฟในบ้านปิดสนิท
มองไปที่บ่อน้ำก็เห็นน้องหมายังว่ายวนไปมา และร้องขอความช่วยเหลืออยู่
กลัวว่าหากปล่อยไว้นานกวานี้น้องหมาคงหมดแรง เราเลยตัดสินใจว่าต้องปีนรั้วบ้านเข้าไปช่วยแล้วเดี๋ยวไม่ทัน !!
บ้านหลังนี้หลังใหญ่พอสมควรค่ะ เราคิดว่าเป็นบ้านหลังใหญ่ที่สุดในซอยแล้วมีกล้องวงจรปิดด้วย
ก่อนปีนเราก็ไหว้ขออนุญาตด้วย ใจก็ตุ้มๆ ต่อมๆ
พอปีนเข้าไปได้ก็รีบไปช่วยน้องหมาขึ้นมาจากสระ ..
สภาพตอนนั้นน้องหมาตัวสั่นมากกกก ยืนจะไม่ไหวแล้ว (เป็นน้องหมาพันธุ์พุดเดิ้ลสีขาว ขนาดกลางตัวอวบอ้วนมากค่ะ)
พี่สาวเรารีบกลับไปเอาผ้าเช็ดตัวเพื่อให้เราเช็ดตัวให้น้องหมา
เพราะกลัวทิ้งไว้แบบนี้คงเสี่ยงปอดบวมแน่
ระหว่างนั้นในบ้านก็ยังเงียบ ไม่มีความเคลื่อนไหวอะไรเลย ดูที่โรงจอดรถก็เห็นรถจอดอยู่สองคัน..
พอเช็ดตัวเสร็จน้องหมาก็รีบวิ่งไปเลย คงค่อยยังชั่วแล้ว
เราเลยปีนรั้วออกมา
ตอนปีนออกมาก็เริ่มคิดกลัวไปเรื่อย..
นี่มันกลางดึกเกือบเที่ยงคืน เรามาปีนบ้านคนอื่นอยู่เนี่ยจะโดนหาว่าถือวิสาสะ หรือหนักกว่านั้นจะกลายเป็นข้อหาบุกรุกหรือเปล่า ??
แต่ก็เอาเถอะพรุ่งนี้จะเข้าไปขอโทษ และอธิบายเหตุการณ์ให้เค้าฟังอีกที
วันนี้เราได้ช่วยหนึ่งชีวิตนี้ไว้ก็สุขใจพอแล้ว ...