หากพอจำุได้ หรือไปดู บทเรียนเก่าๆ ไม้สัก ดีบุก ข้าว ยางพารา ล้วนเป็นสิ้นค้าส่งออกที่เรามีไม่กี่ชนิด เราพัฒนามาเยอะ สินค้าเกษตรใหม่ๆเพิ่มเข้ามา สินค้าอุตสาหกรรมเข้ามาแทนที่เกษตร ดีบุก ไม้สัก หมดความสำคัญไปเลย ยางพารามาแรงเมื่อสิบปีเพราะส่งเสริม แต่ก็อาจไม่ฉลาด เพราะมาเลย์ อินโด ไปส่งเสริมปาล์มน้ำมันที่ ราคาดีกว่า อนาคตดีกว่า เพราะเป็นพืชพลังงาน บริหารดูแลก็ง่ายกว่ายางพารา ลูกโตได้ที่ก็ตัดส่งเข้าโรงงาน ยางต้องมากรีดตอนดีกๆใช้แรงงานมากกว่า ทีผ่านมาชาวสวนยางพาราก็ร่ำรวยไปเยอะ แต่ต้องยอมรับว่าเมื่อปลูกมาก ผลผลิตก็มาก ยิ่งจีนไปส่งเสริมลาวให้ปลูกแบบสัมปทาน ยิ่งไปกันใหญ่ โดยสรุป กลไกตลาดของยางพารา ทำงานมีประสิทธิภาพ ผู้ปลูกรับประโยชน์เต็มๆเมื่อราคาดี จะเห็นว่าไม่มีพ่อค้าส่งออกยางมาโวย ต่างจากข้าว
ข้าวกลไกตลาดไม่ได้ทำงานเพื่อชาวนา ราคาดีรัฐเก็บไปเป็นค่าพรีเมี่ยมข้าว หรือไม่ก็พ่อค้าส่งออกตักตวงส่วนต่างไป จีงไม่มีข่าวชาวนาถอยรถป้ายแดง แม้ช่วงตลาดจะดี
การจำนำข้าวเป็นการช่วยชาวนา แต่ก็ยังทำได้ไม่ดี เพราะไม่เน้นการแก้กลไกตลาด
สินค้าเกษตร ทังข้าว ยางพารากลไกตลาด ก็ทำใ้ห้ลดบทบาทลงอยู่แล้ว
ั
แต่ข้าวมีความจำเป็นต้องช่วย เพราะ กลไกตลาดไม่ได้ช่วยชาวนา และเป็นพืชจำเป็นต่อการใช้ชีวิตประจำวัน เป็นยุทธปัจจัยด้วย
เลิกทำไม้สัก เุหมืองดีบุก ปลูกยาง ได้ แต่เลิกปลูกข้าวไม่ได้
ข้าวกลไกตลาดไม่ได้ทำงานเพื่อชาวนา ราคาดีรัฐเก็บไปเป็นค่าพรีเมี่ยมข้าว หรือไม่ก็พ่อค้าส่งออกตักตวงส่วนต่างไป จีงไม่มีข่าวชาวนาถอยรถป้ายแดง แม้ช่วงตลาดจะดี
การจำนำข้าวเป็นการช่วยชาวนา แต่ก็ยังทำได้ไม่ดี เพราะไม่เน้นการแก้กลไกตลาด
สินค้าเกษตร ทังข้าว ยางพารากลไกตลาด ก็ทำใ้ห้ลดบทบาทลงอยู่แล้ว
ั
แต่ข้าวมีความจำเป็นต้องช่วย เพราะ กลไกตลาดไม่ได้ช่วยชาวนา และเป็นพืชจำเป็นต่อการใช้ชีวิตประจำวัน เป็นยุทธปัจจัยด้วย