คณะกรรมการสรรหาตุลาการศาลรธน.มีมติ4ใน5เสียง เลือก"ทวีเกียรติ" เป็นตุลาการศาลรธน. หลังถกร่วม 4 ชั่วโมงลงมติ 8 ครั้ง
ที่ประชุมคณะกรรมการสรรหาตุลาการศาลรัฐธรรมนูญได้มีการประชุมครั้งที่ 2 เพื่อพิจารณาคัดเลือกผู้สมควรได้รับการเสนอชื่อเป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญแทนนายวสันต์ สร้อยพิสุทธิ์ โดยมีนายไพโจน์ วายุภาพ ประธานศาลฎีกา เป็นประธานกรรมการสรรหา
นายหัสวุฒิ วิฑิตวิริยกุล ประธานศาลปกครอง
นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภา
นางผาณิต นิติทัณฑ์ประกาศ ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน
และนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้าน เป็นกรรมการสรรหา
โดยมีรายชื่อผู้สมัครเข้ารับการสรรหาเป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ จำนวนทั้งสิ้น 9 คน ประกอบด้วย
1.นายชัยสิทธิ์ ตราชูธรรม อายุ 63 ปี ประธานแผนกคดีเลือกตั้งในศาลฎีกา และอดีตประธานอุทธรณ์ภาค
2.นายพรเพชร วิชิตชลชัย อายุ 65 ปี ผู้พิพากษาอาวุโสในศาลฎีกา และอดีตประธานศาลอุทธรณ์ภาค
3.นายถาวร พานิชพันธ์ อายุ 63 ปี รองอัยการสูงสุด
4.ศาสตราจารย์บรรเจิด สิงคะเนติ อายุ 49 ปี ศาสตราจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ คณบดีคณะนิติศาสตร์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์
5.ศาสตราจารย์ศุภลักษณ์ พินิจภูวดล อายุ 55 ปี ศาตราจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
6.ศาสตราจารย์ทวีเกียรติ มีนะกนิษฐ อายุ 60 ปี ศาตราจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
7.นางเปรมใจ กิติคุณไพโรจน์ อายุ 65 ปี ผูพิพากษาอาวุโสในศาลฎีกา และอดีตรองประธานศาลอุทธรณ์ภาค
8.นายไพรัช เกิดศิริ อายุ 66 ปี ผู้พิพากษาอาวุโสศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดภูเก็ตและอดีตรองประธานศาลอุทธรณ์ภาค และ
9.พล.อ.สถาพร เกียรติภิญโญ อายุ 61 ปี หัวหน้าสำนักงานตุลาการทหารและตุลาการพระธรรมนูญหัวหน้าศาลทหารสูงสุด และผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ สังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม
โดยที่ประชุมได้มีการพิจารณาประชุมลงมติเลือก
ศาสตราจารย์ทวีเกียรติ มีนะกนิษฐ อายุ 60 ปี ศาตราจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เป็นผู้ได้รับเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ผู้ทรงคุณวุฒิสาขานิติศาสตร์ฯ ด้วยคะแนนเสียง 4 คะแนนต่อ 1 คะแนน ซึ่งไม่น้อยกว่าสองในสามของจำนวนกรรมการทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ ทั้งนี้ คณะกรรมการสรรหาจะนำรายชื่อผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อเป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเสนอต่อประธานวุฒิสภาเพื่อดำเนินการต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมเริ่มตั้งแต่เวลาประมาณ 13.30 น. โดยไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าร่วมฟังการประชุม จนกระทั่งเวลา 16.00 น. ได้มีการพักการประชุมในช่วงเวลาสั้นๆ ซึ่งกรรมการสรรหาทั้ง 5 คนต่างเดินออกมาเข้าห้องน้ำ โดยแหล่งข่าวในที่ประชุมเปิดเผยว่า การประชุมสรรหามีการเลือกเป็นครั้งที่ 6 แล้ว แต่ยังไม่สามารถเลือกได้ เนื่องจากยังไม่ได้เสียงเกิน 4 ใน 5 ตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด และในเวลาต่อมา 17.20 น. ที่ประชุมคณะกรรมการสรรหาฯได้มีการประชุมแล้วเสร็จ โดยใช้เวลาในการสรรหาประมาณร่วม 4 ชั่วโมง โดยแหล่งข่าวเปิดเผยว่า การประชุมมีการเลือกตุลาการฯทั้งสิ้น 8 ครั้ง ซึ่งมีรายชื่อเหลืออยู่ 2 รายชื่อคือศาสตราจารย์บรรเจิด และศาสตราจารย์ทวีเกียรติ โดยท้ายสุดคณะกรรมการสรรหาก็ลงมติเลือกศาสตราจารย์ทวีเกียรติ
วุฒิการศีกษา: ประถมศึกษาปีที่ ๑-มัธยมศึกษาปีที่ ๕ ณ.โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย
นิติศาสตร์บัณฑิต (เกียรตินิยมอันดับสอง) และนิติศาสตร์มหาบัณฑิต (สาขาอาญา) จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, เนติบัณฑิตไทย, Master of Law (LL.M., University of Pennsylvania) ประกาศนียบัตรการศึกษาชั้นสูงทางกฎหมายอาญา (D.E.A. de sciences criminelles) และปริญญาเอกเกียรตินิยมทางกฎหมายอาญา (Doctorat en droit pe'nal mention tre's honorable, I'Universite de Nancy II)
สถานที่ทำงาน: รองศาสตราจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, ผู้บรรยายวิชากฎหมายอาญาระดับ ปริญญาตรี ปริญญาโท และกรรมการพิจารณาปรับปรุงกฎหมายอาญา สำนักงานกฤษฎีกา, ผู้บรรยายพิเศษวิชากฎหมายอาญา มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และสถาบันวิชาชีพกฎหมายชั้นสูง สภาทนายความ
ได้ตัวตลกคนใหม่แล้ว ยินดีด้วยเน้อ
คณะกรรมการสรรหาตุลาการศาลรธน.มีมติ4ใน5เสียง เลือก"ทวีเกียรติ" เป็นตุลาการศาลรธน. หลังถกร่วม 4 ชั่วโมงลงมติ 8 ครั้ง
ที่ประชุมคณะกรรมการสรรหาตุลาการศาลรัฐธรรมนูญได้มีการประชุมครั้งที่ 2 เพื่อพิจารณาคัดเลือกผู้สมควรได้รับการเสนอชื่อเป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญแทนนายวสันต์ สร้อยพิสุทธิ์ โดยมีนายไพโจน์ วายุภาพ ประธานศาลฎีกา เป็นประธานกรรมการสรรหา
นายหัสวุฒิ วิฑิตวิริยกุล ประธานศาลปกครอง
นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภา
นางผาณิต นิติทัณฑ์ประกาศ ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน
และนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้าน เป็นกรรมการสรรหา
โดยมีรายชื่อผู้สมัครเข้ารับการสรรหาเป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ จำนวนทั้งสิ้น 9 คน ประกอบด้วย
1.นายชัยสิทธิ์ ตราชูธรรม อายุ 63 ปี ประธานแผนกคดีเลือกตั้งในศาลฎีกา และอดีตประธานอุทธรณ์ภาค
2.นายพรเพชร วิชิตชลชัย อายุ 65 ปี ผู้พิพากษาอาวุโสในศาลฎีกา และอดีตประธานศาลอุทธรณ์ภาค
3.นายถาวร พานิชพันธ์ อายุ 63 ปี รองอัยการสูงสุด
4.ศาสตราจารย์บรรเจิด สิงคะเนติ อายุ 49 ปี ศาสตราจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ คณบดีคณะนิติศาสตร์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์
5.ศาสตราจารย์ศุภลักษณ์ พินิจภูวดล อายุ 55 ปี ศาตราจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
6.ศาสตราจารย์ทวีเกียรติ มีนะกนิษฐ อายุ 60 ปี ศาตราจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
7.นางเปรมใจ กิติคุณไพโรจน์ อายุ 65 ปี ผูพิพากษาอาวุโสในศาลฎีกา และอดีตรองประธานศาลอุทธรณ์ภาค
8.นายไพรัช เกิดศิริ อายุ 66 ปี ผู้พิพากษาอาวุโสศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดภูเก็ตและอดีตรองประธานศาลอุทธรณ์ภาค และ
9.พล.อ.สถาพร เกียรติภิญโญ อายุ 61 ปี หัวหน้าสำนักงานตุลาการทหารและตุลาการพระธรรมนูญหัวหน้าศาลทหารสูงสุด และผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ สังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม
โดยที่ประชุมได้มีการพิจารณาประชุมลงมติเลือก
ศาสตราจารย์ทวีเกียรติ มีนะกนิษฐ อายุ 60 ปี ศาตราจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เป็นผู้ได้รับเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ผู้ทรงคุณวุฒิสาขานิติศาสตร์ฯ ด้วยคะแนนเสียง 4 คะแนนต่อ 1 คะแนน ซึ่งไม่น้อยกว่าสองในสามของจำนวนกรรมการทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ ทั้งนี้ คณะกรรมการสรรหาจะนำรายชื่อผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อเป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเสนอต่อประธานวุฒิสภาเพื่อดำเนินการต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมเริ่มตั้งแต่เวลาประมาณ 13.30 น. โดยไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าร่วมฟังการประชุม จนกระทั่งเวลา 16.00 น. ได้มีการพักการประชุมในช่วงเวลาสั้นๆ ซึ่งกรรมการสรรหาทั้ง 5 คนต่างเดินออกมาเข้าห้องน้ำ โดยแหล่งข่าวในที่ประชุมเปิดเผยว่า การประชุมสรรหามีการเลือกเป็นครั้งที่ 6 แล้ว แต่ยังไม่สามารถเลือกได้ เนื่องจากยังไม่ได้เสียงเกิน 4 ใน 5 ตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด และในเวลาต่อมา 17.20 น. ที่ประชุมคณะกรรมการสรรหาฯได้มีการประชุมแล้วเสร็จ โดยใช้เวลาในการสรรหาประมาณร่วม 4 ชั่วโมง โดยแหล่งข่าวเปิดเผยว่า การประชุมมีการเลือกตุลาการฯทั้งสิ้น 8 ครั้ง ซึ่งมีรายชื่อเหลืออยู่ 2 รายชื่อคือศาสตราจารย์บรรเจิด และศาสตราจารย์ทวีเกียรติ โดยท้ายสุดคณะกรรมการสรรหาก็ลงมติเลือกศาสตราจารย์ทวีเกียรติ
วุฒิการศีกษา: ประถมศึกษาปีที่ ๑-มัธยมศึกษาปีที่ ๕ ณ.โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย
นิติศาสตร์บัณฑิต (เกียรตินิยมอันดับสอง) และนิติศาสตร์มหาบัณฑิต (สาขาอาญา) จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, เนติบัณฑิตไทย, Master of Law (LL.M., University of Pennsylvania) ประกาศนียบัตรการศึกษาชั้นสูงทางกฎหมายอาญา (D.E.A. de sciences criminelles) และปริญญาเอกเกียรตินิยมทางกฎหมายอาญา (Doctorat en droit pe'nal mention tre's honorable, I'Universite de Nancy II)
สถานที่ทำงาน: รองศาสตราจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, ผู้บรรยายวิชากฎหมายอาญาระดับ ปริญญาตรี ปริญญาโท และกรรมการพิจารณาปรับปรุงกฎหมายอาญา สำนักงานกฤษฎีกา, ผู้บรรยายพิเศษวิชากฎหมายอาญา มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และสถาบันวิชาชีพกฎหมายชั้นสูง สภาทนายความ