ซัวสะไดไอเลิฟยูเด้อ.........
กลับมาพบกันใหม่ครับ วันนี้มาเร็วหน่อย......ที่จริงเมื่อหัวค่ำวานนี้ผมก็เข้ามาเร็ว และเขียนข้อความพร้อมรูปส่งมาเยอะอยู่เหมือนกัน แต่ส่งข้อความไม่มา.....ผมก็ต้องเขียนใหม่........ส่งกลับมาอีก2ครั้ง.....มันก็ไม่มาอีก.........สรุปแล้วหมดแรงเสียก่อน พอดีกว่า..........คงมีอะไรขัดข้องมากกว่าอย่างอื่น.....
เมื่อวานนี้ผมตั้งหัวกระทู้เอาไว้ว่า"คุยเรื่องเทคนิคกัน"......ใจก็อยากจะเอาเทิคนิคแปลกๆที่เราไม่รู้จักกันมาคุยให้ฟังแหละ....แต่เมื่อยังส่งข้อมูลที่เขียนเมื่อวานไม่ได้......ก็ขออนุญาติเขียนย้อนหลังให้อ่านกันสักเล็กน้อยนะครับ..แล้วจึงกลับมาคุยเรื่องเทคนิคกันใหม่......
เมื่อวานผมเขียนไปว่า อยากซื้อเครื่องปั่นไฟกลับมาสัก1เครื่อง แต่เครื่องมันหนักประมาณ15กก.....โชคดีที่ไม่ได้ซื้อติดรถกลับมา เนื่องจากขากลับ.......รถที่ไปด้วยกันทั้ง5คันเฟรมหักและโช้คอับแตกไปทั่วหน้า.......ส่วนรถผมยางระเบิดเพราะตกลงไปในปลักหมู2ครั้ง.....แล้วก็มีรูปประกอบมาเท่าที่จะหาได้.......วันนี้ยังไม่เล่าเรื่องรถเฟรมหัก เพราะความรู้สึกมันไม่ได้ตกผลึกเหมือนเมื่อคืนนี้(ประมาณว่ากึ่งเซ็งน่ะ)......
วันนี้เลยขอย้อนกลับไปเขียนถึงตอนที่คุณไออิไปตั้งกระทู้พร้อมรูปเอาไว้ที่ชายแดนห้วยโก๋นนั่นอีกครั้ง(เนื่องจากไปหารูปที่เมืองหงสาได้อีก2-3รูป)....รูปชุดนี้ผมตามหามานานแล้ว เพิ่งจะพบตอนที่ค้นพบฟิล์มอีก300กว่าม้วนในคราวนี้เองแหละ.....ตอนนี้ส่งไปสแกนใส่ไว้ในแผ่น CD 100 ม้วน.....วันนี้ทางร้านโทรมาบอกว่า เขาไม่สามารถแสกนฟิล์มสไลด์ได้.......ผมบอกไปว่าได้เท่าไหร่ก็เอาเท่านั้นแหละ.....ดีกว่าเอาฟิล์มไปอัดเป็นรูป(และก็ไม่มีร้านที่จะรับทำให้แล้ว)
ที่เมืองหงสาที่คุณไออิได้ไปผจญภัยมาในช่วงปี53นั้น.....มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปกว่าเวลา20ปีที่ผ่านไปไม่มากนัก เนื่องจากมาตรฐานของเมืองลาวเขาก็เป็นแบบนั้น อย่างที่ผมเล่าให้ฟังไปเมื่อวานแหละ......จะมีการเปลี่ยนแปลงไปบ้างก็คือสิ่งก่อสร้าง.......คือด่าน......และน่าจะเป็นตัวตลาดเมืองหงสา
ในช่วงที่ขี่รถลุยไปเมืองหงสาครั้งแรกนั้น(ผมเคยไปเส้นทางสายนี้3ครั้ง-แต่ละทริปก็สะบักสะบอมกลับมา-แต่ไม่เข็ดสักที)......ก็ไปด้วยรถฮอนด้าแอลเอส 125.....ขี่รถลุยน้ำดำโคลนไปแบบคนสิ้นคิด......กว่าจะถึงเมืองหลวงพระบาง......เราจะต้องแจ้งด่าน "กวดกา" เข้าเมืองและออกเมืองทั้งหมด6แห่ง........คือพอเข้าเมืองนี้(หมู่บ้านมากกว่า-ไม่ถึงเมือง).เขาก็จะมีไม้กั้นด่านให้เราลงไป"จ๊อบ" ประทับตราเข้าเมือง.......ขับเลยออกมาสัก30กม.ก็เจอะด่านใหม่......มั่วมันอยู่อย่างนี้.....
ไปถึงเมืองหงสาเอาตอนเที่ยงๆ ผมก็แวะบรรจุกระเพาะ เนื่องจากเส้นทางที่ผ่านไปก็คือทางเกวียนเชื่อมระหว่างหมู่บ้าน หิวจนลมออกหู.ส่วนเพื่อนที่ไปด้วยก็หมดสภาพ เพราะเอารถ SRX 400 ไปล้มคว่ำคะะมำหงายจนหมดแรงยก(ไว้ให้ได้แผ่นซีดีที่เอารูปไปแปลงไฟล์กลับมาก่อนเด้อ-จะเอารูปมาเสริม)......เราสั่งลาบ-น้ำตก-และเนื้อย่างมากินกับข้าวเหนียว........ร้านนี้เป็นร้านที่ดูทันสมัยและใหญ่ที่สุดในตลาดเมืองหงสา
ปรากฏว่ามันเป็นอาหารดิบทั้งหมด.......ว๊ากกกก.....ผมกินของดิบไม่เป็นซักอย่าง..เลยขอให้เจ้าของร้านเอาไปคั่ว+ผัดให้สุกเสียก่อน....แล้วซื้อเบียร์มาเดินซดไปตามแผงขายของที่เห็นในตลาด........ก็มีแต่ร้านขายล็อตเตอรี่.....ชักจะยาวไปหน่อยแล้ว.ขอส่งรูปมาก่อน-เดี๋ยวมันส่งไม่ได้แบบเมื่อคืนนี้แล้วจะไม่ได้คุยกันต่อ
อยากให้กระทู้มีสาระ(คุยเรื่องเทคนิคกันนะครับ)
กลับมาพบกันใหม่ครับ วันนี้มาเร็วหน่อย......ที่จริงเมื่อหัวค่ำวานนี้ผมก็เข้ามาเร็ว และเขียนข้อความพร้อมรูปส่งมาเยอะอยู่เหมือนกัน แต่ส่งข้อความไม่มา.....ผมก็ต้องเขียนใหม่........ส่งกลับมาอีก2ครั้ง.....มันก็ไม่มาอีก.........สรุปแล้วหมดแรงเสียก่อน พอดีกว่า..........คงมีอะไรขัดข้องมากกว่าอย่างอื่น.....
เมื่อวานนี้ผมตั้งหัวกระทู้เอาไว้ว่า"คุยเรื่องเทคนิคกัน"......ใจก็อยากจะเอาเทิคนิคแปลกๆที่เราไม่รู้จักกันมาคุยให้ฟังแหละ....แต่เมื่อยังส่งข้อมูลที่เขียนเมื่อวานไม่ได้......ก็ขออนุญาติเขียนย้อนหลังให้อ่านกันสักเล็กน้อยนะครับ..แล้วจึงกลับมาคุยเรื่องเทคนิคกันใหม่......
เมื่อวานผมเขียนไปว่า อยากซื้อเครื่องปั่นไฟกลับมาสัก1เครื่อง แต่เครื่องมันหนักประมาณ15กก.....โชคดีที่ไม่ได้ซื้อติดรถกลับมา เนื่องจากขากลับ.......รถที่ไปด้วยกันทั้ง5คันเฟรมหักและโช้คอับแตกไปทั่วหน้า.......ส่วนรถผมยางระเบิดเพราะตกลงไปในปลักหมู2ครั้ง.....แล้วก็มีรูปประกอบมาเท่าที่จะหาได้.......วันนี้ยังไม่เล่าเรื่องรถเฟรมหัก เพราะความรู้สึกมันไม่ได้ตกผลึกเหมือนเมื่อคืนนี้(ประมาณว่ากึ่งเซ็งน่ะ)......
วันนี้เลยขอย้อนกลับไปเขียนถึงตอนที่คุณไออิไปตั้งกระทู้พร้อมรูปเอาไว้ที่ชายแดนห้วยโก๋นนั่นอีกครั้ง(เนื่องจากไปหารูปที่เมืองหงสาได้อีก2-3รูป)....รูปชุดนี้ผมตามหามานานแล้ว เพิ่งจะพบตอนที่ค้นพบฟิล์มอีก300กว่าม้วนในคราวนี้เองแหละ.....ตอนนี้ส่งไปสแกนใส่ไว้ในแผ่น CD 100 ม้วน.....วันนี้ทางร้านโทรมาบอกว่า เขาไม่สามารถแสกนฟิล์มสไลด์ได้.......ผมบอกไปว่าได้เท่าไหร่ก็เอาเท่านั้นแหละ.....ดีกว่าเอาฟิล์มไปอัดเป็นรูป(และก็ไม่มีร้านที่จะรับทำให้แล้ว)
ที่เมืองหงสาที่คุณไออิได้ไปผจญภัยมาในช่วงปี53นั้น.....มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปกว่าเวลา20ปีที่ผ่านไปไม่มากนัก เนื่องจากมาตรฐานของเมืองลาวเขาก็เป็นแบบนั้น อย่างที่ผมเล่าให้ฟังไปเมื่อวานแหละ......จะมีการเปลี่ยนแปลงไปบ้างก็คือสิ่งก่อสร้าง.......คือด่าน......และน่าจะเป็นตัวตลาดเมืองหงสา
ในช่วงที่ขี่รถลุยไปเมืองหงสาครั้งแรกนั้น(ผมเคยไปเส้นทางสายนี้3ครั้ง-แต่ละทริปก็สะบักสะบอมกลับมา-แต่ไม่เข็ดสักที)......ก็ไปด้วยรถฮอนด้าแอลเอส 125.....ขี่รถลุยน้ำดำโคลนไปแบบคนสิ้นคิด......กว่าจะถึงเมืองหลวงพระบาง......เราจะต้องแจ้งด่าน "กวดกา" เข้าเมืองและออกเมืองทั้งหมด6แห่ง........คือพอเข้าเมืองนี้(หมู่บ้านมากกว่า-ไม่ถึงเมือง).เขาก็จะมีไม้กั้นด่านให้เราลงไป"จ๊อบ" ประทับตราเข้าเมือง.......ขับเลยออกมาสัก30กม.ก็เจอะด่านใหม่......มั่วมันอยู่อย่างนี้.....
ไปถึงเมืองหงสาเอาตอนเที่ยงๆ ผมก็แวะบรรจุกระเพาะ เนื่องจากเส้นทางที่ผ่านไปก็คือทางเกวียนเชื่อมระหว่างหมู่บ้าน หิวจนลมออกหู.ส่วนเพื่อนที่ไปด้วยก็หมดสภาพ เพราะเอารถ SRX 400 ไปล้มคว่ำคะะมำหงายจนหมดแรงยก(ไว้ให้ได้แผ่นซีดีที่เอารูปไปแปลงไฟล์กลับมาก่อนเด้อ-จะเอารูปมาเสริม)......เราสั่งลาบ-น้ำตก-และเนื้อย่างมากินกับข้าวเหนียว........ร้านนี้เป็นร้านที่ดูทันสมัยและใหญ่ที่สุดในตลาดเมืองหงสา
ปรากฏว่ามันเป็นอาหารดิบทั้งหมด.......ว๊ากกกก.....ผมกินของดิบไม่เป็นซักอย่าง..เลยขอให้เจ้าของร้านเอาไปคั่ว+ผัดให้สุกเสียก่อน....แล้วซื้อเบียร์มาเดินซดไปตามแผงขายของที่เห็นในตลาด........ก็มีแต่ร้านขายล็อตเตอรี่.....ชักจะยาวไปหน่อยแล้ว.ขอส่งรูปมาก่อน-เดี๋ยวมันส่งไม่ได้แบบเมื่อคืนนี้แล้วจะไม่ได้คุยกันต่อ