ฟ้าจรดทราย : จดหมายถึงขุ่นแม่ ..... (สปอยด์ตอน 10)

ที่บริเวณหน้าห้องพักฟื้นของชารีฟ เต็มไปด้วยบรรดาคนที่มาเยี่ยม มีบรรดานายทหารระดับสูง 2 คน ระดับกลางราว 3 คน และระดับชั้นประทวนอีกหลายคน รวมทั้งพลเรือนเจ้านายชั้นสูง
       
       โดยบรรดานายทหารและข้าราชการพลเรือนระดับสูง เอาดอกไม้มาเยี่ยมไข้ การิม และทหารอีกคนคอยรับของอยู่ และนำไปวางที่โต๊ะยาวหน้าห้อง เห็นบางคนกำลังเซ็นสมุดเยี่ยม
       เจ้าหญิงสุไบดาเดินมาแต่ไกล ท่วงท่าสง่างามในอาภรณ์สวยสมวัย ไบคานพ่อของชารีฟ เดินจ๋องๆอยู่เยื้องไปข้างหลัง มีนิชา และข้าหลวงเดินตาม 2-3 คน
       ทุกคนตรงนี้เห็นเจ้าหญิง พากันซาลามต่ำกันทุกคน เจ้าหญิงทักทายเบาๆ นุ่มนวล สุดท้ายมองหน้าการิมเป็นเชิงถาม
       “ยังไม่ฟื้นพระเจ้าค่ะ” การิมตอบเบาๆ
       “ออกมาจากห้องผ่าตัดเมื่อไหร่” สุไบดาซัก
       “บ่ายๆ พระเจ้าค่ะ”
       สุไบดาหงุดหงิด ว้าวุ่นใจ “บ่าย นี่จะห้าโมงเย็นอยู่แล้วนะเจ้า ยังไม่ฟื้นอีก มีอะไรผิดปกติหรือเปล่า”
       “ไม่มีอะไรผิดปกติ พระเจ้าค่ะ”
       “ไม่จริง ต้องมีอะไรไม่ปกติแน่ ผ่าตัดก็ใช้เวลานานเกินไปแล้ว ควรฟื้นได้แล้ว”
       การิมบอกอีก “แต่...ก็ยังไม่ฟื้น”
       สุไบดาเสียงเข้ม “ฉันถึงบอกว่ามีอะไรผิดปกติไง”
       
       ชารีฟหลับสนิทไม่มีทีท่าว่าจะฟื้น และตกอยู่ในความฝัน ฝันถึงวันและเวลาที่ทะเลทราย อันเป็นเหตุการณ์ตอนที่มีมิเชลล์เจ็บปางตาย ชารีฟประคับประคองเดินมา มือต่อมือเกาะเกี่ยวกัน
       
       ส่วนในห้องมือของสุไบดาเข้าเกาะกุมมือชารีฟเอาไว้ อย่างอ่อนโยนและนุ่มนวล สุไบดานั่งลงข้างเตียง ไบคานยืนอยู่อีกทาง ชารีฟนอนนิ่งสนิท
       สุไบดาเริ่มตัวสั่นสะท้าน สีหน้ากังวลมาก มองจ้องพึมพำเรียก “ชารีฟๆๆ” ไม่ขาดปาก
       นิชาจ้องมองอย่างสงสาร
       สุไบดาหันมาทางนิชา หน้าตาเหยเก
       นิชาเข้าไปหา “พระทัยเย็นๆเพคะ คณะแพทย์เขาดูแลเต็มที่เพคะ”
       “ทำไมยังไม่ฟื้น…นานเกินไปแล้ว อย่างน้อยต้องบอกเราว่า ทำไม” ถึงตรงนี้สุไบดาเสียงดังขึ้น “ทำไมยังไม่ฟื้น”
       สุไบดาจะทนไม่ได้ ลูบไล้มือลูกชายอยู่ไปมา
       “ชารีฟ...ลืมตาหน่อยสิลูก แม่อยู่นี่นะลูก”
       ชารีฟหลับสนิทฝันเห็นแต่มิเชลล์ ภาพความหลังครั้งเก่าตอนที่มิเชลล์นั่งพยาบาลชารีฟที่กำลังหมดสติ ในยามยากที่รอนแรมมาด้วยกัน วันหนึ่งกลางทะเลทราย
       จังหวะนั้นใบหน้าชารีฟส่ายไปมาเล็กน้อย พึมพำเสียงแผ่วเบา
       “มิเชลล์...”
       สุไบดากำลังสวดอ้อนวอนพระอัลเลาะห์ จึงไม่เห็น
       “มิ.....” พูดเท่านั้นก็ต้องขมวดคิ้วด้วยรู้สึกเจ็บแผลขึ้นมา “....เชลล์”
       สุไบดาได้ยินหันมาเพ่งมอง
       เสียงชารีฟเรียกดังขึ้น “มิเชลล์”
       สุไบดาลุกพรวด ตรงมายืนชิดเตียงฟังใกล้ๆ แต่ชารีฟพึมพำชื่อ มิเชลล์ ไม่มีเสียง
       “นิชา มาฟังหน่อย” สุไบดาเรียก
       นิชามาฟังใกล้ แต่ใกล้เกินไป สุไบดาดึงให้ห่างออกมาหน่อยอย่างหน้าตาเฉย
       ชารีฟเอ่ยเสียงดัง “มิ....เชลล์”
       สุไบดาได้ยินชัด สีหน้าขุ่นมัว ไม่พอใจอย่างชัดเจน
       
       “นึกแล้วอาถรรพ์ทะเลทรายหรือนี่ แค่เดินไปด้วยกันไม่กี่วัน จะรักกันแค่ไหนเชียว”

......................................................................



กราบเท้า ขุ่นแม่ที่เคารพ

ที่ขุ่นแม่ให้หนูไปสืบมาว่าท่าชารีฟแกโดนมนต์ดำรึเปล่าถึงเพ้อหานางต่างชาติขาดนั้น หนูเลยมีเรื่องมาเล่าค่ะขุ่นแม่ ขุ่นแม่ขราครือว่าอย่างนี้นะคะ ลูกชายของขุ่นแม่นั้นอายุอานามก็เป็นหนุ่มใหญ่แล้ว 38 นะคะ แม้จะทำตัวราวกับหนุ่มน้อยเพิ่งพบความรักครั้งแรกก็ตามที จะเรียกว่าอาถรรพ์ทะเลทรายคงไม่ใช่อ่ะค่ะ ลูกชายขุ่นแม่เนี่ย "จงใจ" ชัวร์ ๆ ค่ะ มนต์เมินทะเลทรายไม่ต้องค่ะ ลูกของขุ่นแม่เริ่มตั้งแต่อยู่ในฮิลฟาราแล้วค่ะ พบกันหนแรกก็มอง ม้อง มองสาวต่างชาติค่ะ หนูไม่อยากจะฟ้องค่ะขุ่นแม่ ท่านชารีฟแกเดี๋ยวเหลือบ เดี๋ยวเหลือบค่ะ หันจนคอแทบจะเคล็ดค่ะ หนูแอบอยู่ตรงหลืบโรงแรมดังปาปาราซซี่เลยค่ะ หนูรู้หนูเห็น หนูสัมผัสได้ถึงพลังงานบางอย่างค่ะ เรด้ากระดิกติ๊ก ๆ เลยค่ะ หลังจากที่อิหนูมิเชลล์โดนหลอกพาตัวมานะคะขุ่นแม่ ลูกชายขุ่นแม่ก็ออกรับแทนทุกกระบวนท่าเลยค่ะ สายตาลูกชายขุ่นแม่นี้คมกริ๊บเลยค่ะ ถ้ามีกระดาษอยู่ตรงหน้าขาดไปหลายแผ่นแล้วค่ะ จ้องเอาจ้องเอาค่ะ ถึงหนูเข้าไปในตำหนักไม่ได้แต่เหล่านางกำนัลนางกระซิบบอกหนูค่ะ

อ้อ หนูมิหลักฐานนะคะขุ่นแม่  ไม่ได้ทำงานโรงน้ำแข็งปั้นน้ำเป็นตัวค่ะ




จะ จะ เลยไหมคะ ขุ่นแม่ เหลียวคอ 360 องศา นี่ล่ะค่ะลูกชายขุ่นแม่ล่ะ อย่าไปโทษอาถรรพ์เลยค่ะ ณ จุดนี้

ที่เพ้อหามิเชลล์ มิเชลล์นี้ ไม่ใช่อะไรค่ะ ขุ่นแม่ อยู่กันไม่กี่วันก็จริงตามขุ่นแม่เข้าใจค่ะ แต่คนมันมีความรักอ่ะค่ะ ว้าย !! ขุ่นแม่อย่าเพิ่งเอาปัสตันยิงหนูนะคะ ครือ มันมีอะไร ๆ ที่ขุ่นแม่ไม่เห็นค่ะ ที่กลางทะเลทรายขนาดหนีหัวซุกหัวซุน ลูกชายขุ่นแม่ยังหยอดผู้หญิงทุกจังหวะ กี่ครั้ง ... หนูตอบไม่ได้ค่ะขุ่นแม่ ลูกชายขุ่นแม่เอาซะปาปาราซซี่ขี่อูฐกรังปรีซ์อย่างหนูนับไม่ทัน นับไม่ได้จิง จิ๊งงงงง ค่ะขุ่นแม่

โปรดฟังอีกครั้ง หนูไม่ได้มโนเองนะคะ ปาปาราซซี่ขี่อูฐไม่มโนค่ะ หนูแอบถ่ายรูปมาให้ดูแบบ exclusive ค่ะ เห็นไหมค่ะขุ่นแม่ ลูกชายขุ่นแม่แซ่บขนาด ...



อันนี้หนูแอบไปดักรอที่โอเอซิสค่ะ กว่าจะได้ภาพนี้มา รอกันเป็นวันเป็นคืนค่ะ ไม่รู้มัวทำอะไรกันอยู่ หนูจับกระต่ายปิ้งกินไปหลายตัวเลย ลำบ๊าก ลำบากค่ะ



ภาพนี้เก็บมาตอนหนูไปถึงจาอุฟค่ะ พอดีเขาออกมาชมดาวชมเดือนอะไรกันซักอย่างนี่แหละค่ะ หวายยยย ขุ่นแม่ ลูกขุ่นแม่หยอดทุกจังหวะจริง ๆ ค่ะ หนูอุตส่าห์ปีนไปเกาะหลังคากระโจมค่ะ องศาเลยเป๊ะขนาดนี้ค่ะ ลูกชายขุ่นแม่บอกว่าอยากมีคนอยู่ใกล้ ๆ ดูดาวด้วยกัน แล้วมองอย่างเน้ ..... แอร๊ยยยยย (เอ๊ะ หล่อนไม่ใช่มิเชลล์นะ) นี่ยังไม่หมดนะคะ ภาพยังมีอีกเยอะค่ะ แต่เดี๋ยวขุ่นแม่จะหัวใจวายซะก่อนด้วยความโกรธ

เอิ่ม อ่ำ เอ่อ ทั้งหมดที่หนูว่ามานี้ หนูว่าขุ่นแม่อย่าคิดเป็น typical แม่ผัวเลยค่ะ ปล่อยลูกชายขุ่นแม่ไปเห้อ ไหน ๆ ข้าวสารก็เป็นข้าวสุกแล้ว เอ๊ย ไหน ๆ ก็ อ๊อด ๆ จะกิ๊งแกร๊ด จะกิ๊งแกร๊ดกระโจมไหว กันล่ะ เอ๊ย ไหน ๆ ลูกชายขุ่นแม่ก็เพ้อหาขนาดนี้และ หนูอยากจะบอกว่ามันมิใช่อะไร ๆ แบบชั่วครั้งชั่วคราวนะค้า ทุกการกระทำที่ว่ามาอินเนอร์ลูกชายขุ่นแม่ล้วน ๆ โฮ้ยยยย เดี๋ยวก็หึง เดี๋ยวก็หวง เดี๋ยวก็หวาน เดี๋ยวก็แกล้ง เดี๋ยวก็งอน ยิ้มสนุกสนานไปอีก ลูกชายขุ่นแม่มองมิเชลล์แต่ละทีหนูละใจห้าย ใจหาย กลัวทะเลทรายเป็นทะเลน้ำตาลไปซะก่อน

อุ๊ยตาย อะไรนะคะ ไม่ยอมหรือคะ ขุ่นแม่ ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวลูกชายพยศขึ้นมาจะรู้สึกกกก หนีหายไปเป็นเบดูอินหนูจะหัวเราะให้ฟันร่วง เชื่อว่านาทีนี้ลูกชายขุ่นแม่จะไม่ทน


ด้วยความเคารพ

ปาปาราซซี่ขี่อูฐ

ของแถมให้ขุ่นแม่ (พร้อมยาหม่องตราต้นอินผลัม และ ยาธาตุน้ำขาวตรากีบัสย่างไฟ แก้วิงเวียนคลื่นเหียน) แบบ exclusive edition ปกติขายเป็นล้านนะคะภาพเยี่ยงนี้ แต่หนูให้ขุ่นแม่ชมฟรี ๆ ไม่เสียตังค์ รู้ลึกรู้จริงต้องติ่งปาปาราซซี่ขี่อูฐค่ะ ภาพแชะ ... ลักหลับ






ปูลู แหม เห็นปัญหาแม่ผัวลูกสะใภ้ตามมาถึงทะเลทรายแล้วอดไม่ได้จริง ๆ ต้องเขียนซะหน่อย
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่