เหมือนชีวิตไม่มีจุดหมายเลยครับ

อายุจะ 40 แล้ว ตอนนี้ผมยังอยู่กับครอบครัว คือพ่อ และพี่ชาย (แม่แยกไปอยู่อีกบ้านนึง เมื่อเด็กๆเจอกันบ่อย แต่ตอนโตผมแทบไม่ค่อยไปเจอ เพราะเจอกันทีไรทะเลาะกันทุกที  ส่วนพ่อ กับพี่ชายจะเจอกับแม่มากกว่าผม) คือโตมากับพ่อ และพี่ชาย และก็ญาติทางพ่อ เด็กๆ ก็เหมือนสนิทกันดี แต่ตอนนี้กลับไม่รู้สึกผูกพันธ์กับใครเลย คือเหมือนมีชีวิตที่อยู่ตัวคนเดียว ส่วนใหญ่จะนั่งเล่นเนตในห้องตัวเองไปเรื่อยๆ จะลงมาก็ลงมาเมื่อจำเป็นเท่านั้นไม่อยากยุ่งกับใคร (แต่ผมก็ดูแลคนในบ้านตามปกตินะ หาข้าว พาไปธุระ ซื้อโน่นนั่นนี่มาให้)

ส่วนชีวิตส่วนตัวเคยมีแฟนที่คบกันมานาน เป็นเพื่อนกันตั้งแต่เรียนมหาลัย (ผมเป็นเกย์นะครับ) และมาคบกันตอนอายุ 27 - 28 คบกันมา 8 ปีได้ แต่ตอนนี้โสดมา 2 ปีแล้ว

คือบางครั้งก็แอบงงชีวิตตัวเองเหมือนกัน เพราะเมื่อก่อนตอนเด็กๆ จะเป็นคนที่เฮฮามาก เอาแต่ใจตัวเองเหมือนกัน (แบบนิสัยลูกคนเล็ก) มองโลกสดใส โลกสวย ใจอ่อน ขี้สงสาร เพื่อนเยอะ เพื่อนรัก มีน้ำใจกับทุกคน เป็นคนซื่อสัตย์มาก และเป็นคนชอบวางแผนชีวิตตัวเองว่า ชีวิตจะดำเนินไปอย่างไร อายุเท่าไหร่ควรมี achievement อะไรบ้าง (แต่ก็ไม่ค่อยซีเรียสนัก เพราะก็รู้ตัวเองว่าไม่ไม่ใช่คนเก่ง)


แต่ตอนนี้ในช่วง 4 ปีหลังเหมือนชีวิตมันเปลี่ยนไป หลังจากที่ผมไปทำงานที่นึง เป็นมาร์เกตติ้ง ซึ่งตอนนั้นมีไฟเต็มที่ ทุ่มกับงานมาก (3 ปีแรกประสบความสำเร็จมาก)

ในขณะตอนนั้นปัญหาส่วนตัวเรื่องแฟนก็เกิดขึ้น คือแฟนผมนอกใจไปมีอะไรกับคนอื่นจนติด HIV มา แรกๆก็ทำใจยากมาก เพราะผิดหวังเนื่องจากเราเชื่อใจเค้าว่าเค้าเป็นคนดีมากๆ สุภาพ รักครอบครัว ใจบุญสุนทาน ถือศีล กินเจทุกเทศกาล ไม่กินเหล้า ไม่สูบบุหรี่ ไม่เที่ยวกลางคืน  ในขณะที่ผมเองเป็นคนกินเหล้า สูบบุหรี่ เที่ยวกลางคืน พูดไม่เพราะ และเรามีทัศนคติที่ไม่ตรงกันเสมอๆในการมองโลก เค้าเป็นคนดีมากในสายตาผม วันที่รู้เรื่อง คือวันที่เค้ามาร้องไห้ แล้วให้ผมไปตรวจเลือด เพราะของเค้าคิดเชื้อ ถึงขนาด CD4 ต่ำ ต้องรับยาต้านแล้ว แต่ผมโชคดีที่ไม่ติด แรกๆ เวลาขับรถไปทำงานก็มักจะแอบจอดรถร้องไห้เสมอๆ แต่ก็พยามคิดว่าคนเรามันพลาดกันได้ เราไม่ควรจะทิ้งเค้าในเวลานี้ (ทั้งๆที่เค้าก็ขอเลิกกับเรา เพราะกลัวว่าเราจะติดเชื้อไปด้วย) เลยเออพยามปรับใจตัวเองให้รับให้ได้ แต่หลายครั้งเวลทะเลาะกัน ผมก็แอบเลวขุดเรื่องนี้มาพูดวาทำไมเค้าทำแบบนี้กับผม

และชีวิตการทำงานก็เปลี่ยนไปหลังจากที่เปลี่ยนนายใหม่ ทัศนคติไม่ตรงกัน เลยได้แพคเกจมา (ก็แอบผิดหวัง เพราะเราทำงานเต็มที่ ซื่อสัตย์ ยอมเหนื่อยเพื่อรักษาผลประโยชน์ของบริษัทสุดๆ เราไม่ควรได้ผลตอบแทนแบบนี้ แต่ก็ไม่เสียใจมาก เพราะไม่ชอบสังคมการแก่งแย่งกันที่นั่น) แล้วก็ไปเริ่มงานใหม่คราวนี้เป็นคอนซัลท์ งานหนักแต่ก็ท้าทาย คือมาตำแหน่งสูงแต่ประสบการณ์ในการ Handle งานสายนี้ยังไม่เก่งมาก แต่ก็ตั้งใจทำงานเต็มที่ด้วยความคิดที่ว่า เราไม่เก่งแต่เราขยัน ทำงานเต็มที่นะ ทำดีต้องได้ดี

ทำมาได้ประมาณเกือบปี อยู่มาวันนึงหลังจากที่ผมกับแฟนงอนๆกัน แฟนผมเค้ากำลังเครียดเรื่องเปลี่ยนงานใหม่ ผมไม่พูดกับเค้าซัก 2 วัน (แต่ก็ยังนอนด้วยกันนะ) วันนั้นผมกลับมานอนบ้านผม ก็โทรคุยกันตามปกติ แต่เสียงเค้าแปลกๆไป ผมก็ถามว่ามีอะไร เค้าก็บอกว่า เค้าขอเลิกกับผม ด้วยเหตุผลที่ว่าตอนนี้เค้าไม่ได้รักผมแบบแฟนอีกต่อไปแล้ว ก็พยามคุยแต่เค้าก็ยืนยันว่าจะเลิก ก็ต้องปล่อยเค้าไป ผมช๊อคมาก แถมวันรุ่งขึ้นต้องมีงานเปิดตัวโปรเจคใหม่ ด้วยคนเยอะแยะ มีเฮฮาปาร์ตี้กันผมก็ไปแบบเบลอๆ แต่คนที่ทำงานไม่มีใครรู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้น (มารู้หลังจากนั้นหลายเดือน ผมเล่าให้ฟัง) แปลกนะคราวนี้ผมกลับร้องไห้ไม่ออก ได้แต่จุกอยู่ในใจ รู้สึกว่าชีวิตมันเค้วงคว้างมาก เพราะตลอดเกือบ 10 ปี ที่ผ่านมาผมมีแฟนเป็น default มาตลอด แพลนอนาคตร่วมกันว่าจะทำงานเป็นลูกจ้างเค้าอีกซักพักนึงแล้วเราจะหาธุระกิจทำของเรากันเอง เพราะเราต่างเอือมชีวิตออฟฟิศกันเต็มทีแล้ว พอทุกอย่างเปลี่ยนไป ชีวิตว่างเปล่าไปหมด ไม่รู้ว่าจะต้องอยู่ไปทำไม แต่ก็พยามบอกตัวเองว่า พ่อ-แม่ยังอยู่ เราไม่ควรให้เค้าเสียใจ ก็พยามอดทน (แต่ก็ต้องหวดเหล้าก่อนนอนทุกคืน ให้หลับ) ตอนนั้นชีวิตแย่มาก ไม่อยากไปไหนเลย เพราะไปไหนมันก็มีอดีตของผมกับเค้าติดอยู่เต็มไปหมด และที่เสียใจที่สุดคือผมไปรู้จากเพื่อนเค้าว่าแฟนเก่าที่เพิ่งเลิกไป ยังไปสั่งซื้อถุงยางอนามัยจากเมืองนอกมาเป็นโหล (ซึ่งผมก็ยังไม่เข้าใจมาถึงทุกวันนี้ว่าในเมือเค้าติดเชื้อแล้วทำไมยังคิดเสี่ยงมีเพศสัมพันธ์กับคนอื่นอีก เค้าคิดอะไรอยู่วะ)

ยังไม่พอครับ เรื่องส่วนตัวไปแล้ว เรื่องงานก็ตามมา เจ้านายที่คุม BU ผมยกขบวนลาออกโดยเอาคนไปมากกว่า 2 ใน 3 ซึ่งในนั้นไม่มีผม (อาจจะเพราะผมเงินเดือนสูง แต่ยัไม่เก่ง) เค้าก็ทิ้งผม กับเพื่อนอีกกลุ่มนึงที่เค้าไม่เอาไปด้วย ไว้ที่บริษัท ผมรู้สึกผิดหวังมาก  Fail กับทุกอย่างในชีวิต รู้สึกว่าความดี ความจริงใจที่ผมมีไม่สามารถเอาชนะอะไรได้เลย

ช่วงนั้นผมไม่มีกระจิตกระใจจะไปหางานที่อื่น ก็ทนทำมันไป แต่ก็ดีที่ช่วงนั้นงานหนักมาก หนักเป็นนรกเลย

แต่เริ่มรู้ตัวเองว่าเป็นโรคซึมเศร้า เพราะอารมณ์จะขึ้นสุด ลงสุดมากๆ บทจะเงียบก็เงียบ บทจะอาละวาดตวาดคนก็มี  เก็บตัว เพื่อนฝูงน้อยลงมาก จนวันๆแทบไม่ได้คุยกับใคร ไม่ได้เจอใคร นอกจากออกไปทำงาน คุยกับเพื่อนร่วมงาน แล้วก็กลับบ้าน ตอนนั้นชีวิตเนือยกับทุกอย่างเหมือนซังกะตาย แบบถามตัวเองอยุ่ตลอดเวลาว่าอยู่ไปทำไมวะ อยู่ไปเพื่ออะไร ไม่อยากทำงาน

จนในที่สุดเลยไปพบจิตแพทย์ที่โรงพยาบาลราชวิถี คุณหมอก็จ่ายยา Fluoxetine 20 mg. มาให้ กินวันละเม็ด  ก็ดีขึ้นอาการซึมเศร้าลดน้อยลง จนตอนนี้จะครบปีแล้ว คุณหมอก็บอกว่าเดี๋ยวต้นเดือนหน้าอาจจะลดยาได้แล้ว

คือตอนนี้อารมณ์มันก็เริ่มดีแล้ว เริ่มอยากทำโน่นนั่นนี่ อยากไปเที่ยว อยากมีแฟน แต่ก็นะอายุขนาดนี้แล้ว แถมไม่มีสังคมเลย ก็คงยาก ตอนนี้กินข้าวคนเดียว ดูหนังคนเดียว เที่ยวต่างประเทศคนเดียว บางครั้งก็เหงานะ แต่รู้สึกว่าตอนนี้ไม่อยากตามใจอะไรใคร ส่วนเพื่อนที่รู้จักกันตอนนี้ก็บอกว่าผมเป็นคน 2 บุคลิคคือ ถ้าไม่เฮฮา ก็จะเย็นชาไปเลยมันก็ว่าผมเป็นคนแปลก

แต่สิ่งที่เปลี่ยนไปของผมตอนนี้คือ แคร์คนอื่นน้อยลง ทำอะไรตามใจตัวเองมากขึ้น ความเชื่อใจในคนอื่นแทบจะเป็น 0 และไม่รู้สึกว่าการเป็นคนดีมันมีประโยชน์อะไร ซึ่งส่งผลกับการใช้ชีวิต เช่นทำงานก็ทำไม่เต็มที่ อู้งาน ทำไปงั้นๆ ให้หมดวัน ไม่มี Passion ในการทำงาน (อาจจะเพราะรู้สึกว่าตอนนี้ career path ด้วย เนื้องานมากขึ้น แต่ไม่เคยได้โปรโมท เพราะเค้ารับแต่คนใหม่มาเป็นนาย ผู้บริหารไม่โปรโมทคนทีมเก่าเลย) ผมเลยเริ่มที่คิดลาออกจากงานแล้ว แบบรู้สึกว่าพอแล้วไม่อยากทำงานแล้ว (มีเงินเก็บอยู่พอประมาณ ไม่มีหนี้สินอะไร) เบื่อ อยากไปอยู่ที่ไกลๆ อยากไปเริ่มชีวิตใหม่ที่ไม่มีใครรู้จักเรา (แต่ตอนนี้ก็ยังห่วงพ่ออยู่ เพราะพี่ชายแต่งงานแยกบ้านไปแล้ว) รู้สึกว่าตอนนี้ชีวิตไม่มีจุดหมายเลย เหมือนอยู่ไปวันๆ มันเคว้งอ่ะ แล้วก็คิดว่า นี่เพิ่ง 40 เองต้องอยู่ทนไปอีกเมื่อไหร่ แก่มากๆแล้วจะทำยังไง รู้สึกเบื่อ ไม่เห็นความจำเป็นที่ต้องมีชีวิตอยู่เลย (แต่ไม่ซึมเศร้านะ) เมื่อก่อนรู้สึกว่าอยากมีชีวิตโก้ๆ แต่งตัวดีตลอด ขับบีเอ็ม แต่ตอนนี้กลายเป็นแบบ เออแต่งไปงั้นๆ รถบีเอ็มก็ขายทิ้ง ไปซื้อรถ  eco car มาขับแทน เหมือนชีวิตมันไม่เห็นอยากได้อะไรแล้ว มีใครเป็นอย่างผมบ้างเนี่ย ผมจะทำไงดี
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่