สภาพความเป็นไปในบ้านเมืองปัจจุบัน น่าจะประเมินได้ว่าประเทศไทยดูเหมือนจะตกอยู่ไต้อุ้งตีนของ
ขบวนการบักเหลี่ยมเกือบเต็มที่ รอเพียงแต่ว่าจะมีหนามพิษร้ายปัก ส่งผลให้หยุดการย่ำยีประเทศ
ต่อเนื่องทำให้พฤติกรรมผยองอำนาจทั้งในรัฐสภา และความเคลื่อนไหวเพื่อยึดครองแผ่นดินสิ้นสุดลง!
ปลดปล่อยคนไทยให้พ้นจากทุกข์เข็ญ
       
เป็นเรื่องน่าเหลือเชื่อว่าคนไทยยอมให้ความผุกร่อนจากขบวนการทำลายชาติให้เกิดขึ้นจนถึงระดับใกล้
ล่มสลาย ไม่ผิดแน่นอนถ้าจะบอกว่า ณ บัดนี้ สภาพรัฐไทยได้เป็นรัฐล้มเหลวโดยสมบูรณ์โดยพฤตินัย
และนิตินัย เพียงแต่ไม่ยอมรับอย่างเป็นทางการ
       
สำนักงานตำรวจแห่งชาติเพิกเฉย ละเลยการติดตามจับกุมอาชญากรขายชาติหนีคุก นอกจากไม่จับกุม
บรรดานายตำรวจตั้งแต่ระดับสารวัตรจนถึงระดับสูงสุด ดิ้นรนหาช่องทาง ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนหาโอกาส
ไปแสดงความสวามิภักดิ์ อาสาว่าจะทำความชั่วร้ายต่างๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของอภิมหากังฉิน
สุดชั่วร้ายติดอันดับโลก
       
ไม่เพียงแต่ข้าราชการตำรวจในราชการ พวกใกล้จะเกษียณอายุยังไปพินอบพิเทา แสวงหางาน ตำแหน่ง
หลังจากพ้นจากการจ้างงาน ว่าง่ายๆ สิ้นสุดสภาพ “ข้าราชการ” กินเงินเดือนจากภาษีประชาชนแล้ว ขอเป็น
“ขี้ข้าทักษิณ” กินบำนาญจากภาษีต่อไป
       
องค์กรอื่นๆ ทั้งอิสระเพียงแต่ในนาม ต่างยอมสยบ ไม่กล้าทำหน้าที่อย่างเที่ยงธรรม ถ้ามีหนทางเอาผิด
ลงโทษกลุ่มอาชญากรกังฉิน ก็ส่อแววให้เห็นการถ่วงเวลา หาช่องทางออกสำหรับตัวเอง! เป็นบรรยากาศ
น่าสิ้นหวังของคนในกระบวนการยุติธรรม
       
ใครจะว่าไร้จิตสำนึก ปราศจากยางอายก็ตามใจ ตลอดชีวิตรับราชการ มีตำแหน่งใหญ่โต ใช่ว่าจะพิสูจน์
ได้ว่าเป็นคนดี! การเป็นคนดียุคนี้มีแต่ความท้อแท้ ไม่ก้าวหน้า สู้ขบวนการขี้ข้าทักษิณไม่ได้! นับเป็นความ
พิสดารเหลือเชื่อว่าจะมีประเทศใดมีเช่นนี้ได้
       
มีประเทศไหนยอมให้คนหนีคุก หนีตายหัวซุกหัวซุนมีอิทธิพล สามารถบงการรัฐบาล ประมุขฝ่ายบริหาร
ประมุขฝ่ายนิติบัญญัติ ให้อยู่ได้คำบงการ สั่งให้ทำลายระบบโครงสร้างทุกอย่างของบ้านเมือง นิติธรรม
คุณธรรม ศีลธรรม จรรยา ความซื่อสัตย์สุจริต
       
วันก่อนงานวันเกิดเฒ่ารกโลก มีเสนาบดีระดับแกนนำของพรรคมหาวายร้ายต่อโทรศัพท์ติดต่ออภิมหา
กังฉินกินเมือง ให้คุยกันอย่างรักใคร่ วางแผนชั่วร้ายออกทีวีให้สื่อต่างๆ ทำข่าวใหญ่โต! สื่อมวลชนทั้งโง่
ทั้งชั่ว ขาดจิตสำนึกด้านอาชีพได้เป็นผู้ทรยศต่อประชาชน ทำตัวเป็นกระบอกเสียงพวกนักการเมืองขาย
ชาติ ไม่รายงานความชั่วร้าย
       
ประเทศไทย คนไทย ไม่มีที่พึ่งอีกต่อไป สถาบันตุลาการอยู่ในสภาพง่อนแง่น ถ้าไม่หวั่นไหวเพราะโดน
ข่มขู่คุกคามด้วยอิทธิพล อำนาจเถื่อน การปองร้ายหมายเอาชีวิต ก็เผชิญกับความเย้ายวนด้วยลาภสักการะ
อามิสสินจ้างก้อนใหญ่มหาศาลจนยากที่จะปฏิเสธ เว้นแต่จะมีตุลาการผู้รักชาติ จิตสำนึกดี รวมตัวชี้ถูกชี้ผิด
เป็นตุลาการภิวัฒน์
       
พิธีกรรมย่ำยีกฎหมายรัฐธรรมนูญในรัฐสภาโดยรูปแบบพวกมากลากไป ไร้เหตุผล จิตสำนึก ความรับผิดชอบ
ไม่ต่างจากซ่องโจรสุมหัวกันเพื่อยึดอำนาจปล้นแผ่นดิน เพื่อตอบสนองความต้องการของกังฉินหนีคุก
มีตัวแทนกุมอำนาจรัฐเต็มที่
       
เราเห็นผู้แทนประชาชนเลือกเข้ามาให้เป็นขี้ข้าทักษิณลอยหน้าลอยตา ท้าทายระบบคุณงามความดี แสดง
ให้เห็นความอหังการว่า การทำชั่วเพื่อคนหนีคุกนั้นไม่มีอำนาจหรือใครหน้าไหนกล้าขัดขวาง! ดังนั้นเราจึง
มองเห็นพฤติกรรมอัปยศในรัฐสภา
       
ขบวนการประชาชนอ่อนแอ ส่วนหนึ่งรักตัวกลัวตาย! มีเหตุผล เมื่อเกิดเหตุร้ายพึ่งพาใครไม่ได้ เมื่อตำรวจ
ไม่ได้เป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ แต่เป็นเครื่องมือของอำนาจรัฐไร้คุณธรรม และนักการเมืองกังฉิน! การ
ทำงานของตำรวจแท้ ตำรวจเทียมจัดการม็อบเสธ.อ้าย และช่วงการประกาศใช้พรบ. ความมั่นคงต้นเดือน
ที่ผ่านมา คือ “รัฐตำรวจ”
       
ถ้าประชาชนเดินขบวนขับไล่รัฐบาลกังฉินกินเมือง นอกจากต้องเผชิญหน้ากับตำรวจ ยังมีกองกำลังเถื่อน
ถ่อยค้ำจุนรัฐบาล ออกมาไล่ฆ่าฟันประชาชน! จะหวังพึ่งกองทัพให้ช่วยเหลือ กลายเป็นว่าการดิ้นรนหา
หนทางขึ้นสู่สวรรค์ยังจะง่ายกว่า
       
จะหวังพึ่งองค์กรศาล หรือ ป.ป.ช. กลับมีบรรยากาศความไม่แน่นอน ความไม่น่าไว้ใจ เมื่ออำนาจเถื่อน
อำนาจเงินของขบวนการบักเหลี่ยมใด้สำแดงพลังให้เห็นหลายครั้ง ความพลิกผันรูปผลของคดีเกิดขึ้นอย่าง
น่าเหลือเชื่อ! ถ้าสวรรค์มีตา ชะตาเป็นใจ ถามีองค์กรใดวินิจฉัยคดี ทำให้รัฐบาลกังฉินสิ้นอำนาจ จะเปิด
ทางสู่มิคสัญญีแน่นอน
       
กลุ่มพลังอันธพาลเสื้อแดงถ่อยต้องคุกคาม รัฐบาลกังฉินไม่ยอมรับคำวินิจฉัย กลุ่มพลังประชาชนจะออก
มากดดัน นำไปสู่การเผชิญหน้า เสี่ยงต่อวิกฤติ การปะทะด้วยกำลัง อาจนำไปสู่สงครามกลางเมือง!
ตำรวจจะยืนอยู่ข้างใคร? รักษากฎหมายหรือปกป้องขบวนการโจรภายไต้อำนาจของบักเหลี่ยมและตัวแทน
กำมะลอในรัฐบาล
       
ถ้าองค์กรตำรวจเป็นมืออาชีพ รักษากฎหมายเหมือนประเทศอื่น นักการเมืองกังฉินและเครือข่ายคงไม่มี
โอกาสทำผิดซ้ำซาก ทำลายบ้านเมือง ผยองอำนาจถึงขั้นฉีกรัฐธรรมนูญ! ถ้ากองทัพมีศักดิ์ศรี น่าจะเป็น
พลังถ่วงดุล ไม่ให้บ้านเมืองตกอยู่ในสภาพน่าสมเพช ไร้ทิศทาง หาทางออกไม่ได้ นอกจากถูกกลไกบีบ
ให้นำไปสู่การล่มสลาย
       
น่าอนาถ เมื่อองค์กรน่าเกรงขามถูกมองว่ายอมสยบต่ออำนาจโจรปล้นแผ่นดิน!
       
ปัจจัยแห่งความเสื่อมยังไร้ทางแก้! นักการเมืองยังเห็นแก่ตัว กรรมสิทธิแผ่นดิน 1ใน 3 ตกอยู่ในมือคน
ต่างชาติ ประเทศไทยกลายสภาพเป็นเมืองสากล เป็นม้าอารี พร้อมเอื้ออาทรต้อนรับคนต่างชาติทุก
ประเภท แต่คนไทยอยู่ในสภาพใกล้ไร้แผ่นดิน!
       
หรือจะต้องล้างอาถรรพ์ กำจัดความชั่วร้ายบนแผ่นดินด้วยเลือด ตามที่บรรดาโหราจารย์ หมอดูชื่อดัง
ทำนายไว้ หรือสภาวะเช่นนั้นเป็นความสูญเสียคุ้มค่า ถ้าได้เปิดโอกาสให้คนดีเริ่มต้นบนเส้นทางใหม่ที่
ถูกต้องดีงาม เพื่อความอยู่รอดของชาติ?

http://www.manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9560000105615

เพื่อไม่ให้ถึงกับต้องล้างอาถรรพ์ด้วยเลือด  จึงขอเสนอให้ใช้ "มนต์ดำ"  มาล้างความชั่วร้ายนี้
นึกถึงวันที่ "สนธิ" นุ่งขาว พรมน้ำมนต์  อยู่ในทำเนียบ  ก็เลยคิดว่า  น่าจะลองอีกที  เพื่อขจัด
ความชั่วร้าย  นี้ให้หมดสิ้น  ส่วนจะทำกันที่ไหน  และใครร่วมพิธีบ้าง  ....ช่วยกันคิดต่อ  หน่อย