สงสารสาวสหฟาร์ม ค่าแรงไม่ได้ ค่าครองชีพพุ่ง

กระทู้สนทนา
สาวโรงงานในเครือสหฟาร์มสะอื้นโดนเบี้ยวค่าแรงซ้ำซาก นัดจ่ายรายวัน วันละ 300 ยังชวด ครวญนานวันหนี้สินยิ่งพอกพูน หนำซ้ำค่าครองชีพพุ่ง ร้องภาครัฐยื่นมือช่วยเหลือจริงจัง...

เมื่อวันที่ 23 ส.ค. ผู้สื่อข่าวรายงาน ได้รับการร้องเรียนจาก พนักงาน บริษัท ชิงธง จำกัด ในเครือสหฟาร์ม ว่า ถึงทุกวันนี้พนักงานยังไม่ได้รับค่าจ้างตามที่ตกลง โดยล่าสุด บริษัทฯ ได้สัญญาว่าจะจ่ายค่าแรงแบบวันต่อวัน โดยจะจ่ายให้วันละ 300 บาทในวันจันทร์ที่ผ่านมา (19 ส.ค.) แต่ปรากฏว่าทางบริษัทฯ ไม่ได้มีการจ่ายค่าแรงให้แต่อย่างใด ส่งผลให้พนักงานสุดที่จะทนต่อการแบกรับภาระที่นานวันก็จะมีแต่หนี้สินพอกพูนเพิ่มขึ้น ทั้งนี้เหตุผลที่พนักงานตัดสินใจไม่ลาออก เนื่องจากยังมีความหวังว่าทางบริษัทฯ จะทำตามสัญญา อีกทั้งหวั่นว่าหากลาออกไปแล้ว ค่าแรงที่ทางบริษัทค้างไว้กว่า 3 เดือนจะสูญไป

พนักงานรายหนึ่ง เผยกับไทยรัฐออนไลน์ ว่า บริษัทเริ่มมีปัญหาการจ่ายค่าแรงมาตั้งแต่ประมาณปลายปี 2555 โดยตอนนั้นค่าจ้างที่ได้รับตกประมาณวันละกว่า 200 บาท โดยช่วงแรกทางบริษัทฯ ขอจ่ายเงินเดือน 50% และเริ่มลดเหลือ 25% หลังปรับค่าแรงงานขั้นต่ำขึ้นมาเป็นวันละ 300 บาท ตามที่กฎหมายกำหนดปัจจุบัน ตามปกติต้องได้รับเงินเดือน 9,000 บาท แต่บริษัทฯ กลับจ่ายให้เพียง 2,000 บาท/เดือนเท่านั้น ขณะเดียวกันตนยังต้องไปทำงานตามปกติทุกวัน ดังนั้น ค่าใช้จ่ายจึงยังมีอยู่ทุกวัน ขณะที่เงินเดือนกลับต้องลุ้นทุกวันเช่นกันว่าจะได้หรือไม่ได้

พนักงานสหฟาร์ม เล่าต่อไปว่า ทุกวันนี้เพื่อนพนักงาน รวมทั้งตนต่างต้องหาทางออกด้วยการหยิบยืมเงินจากญาติพี่น้อง และสถาบันการเงินต่างๆ เข้ามา เพราะแต่ละวันตนมีค่าใช้จ่ายอยู่แล้ว ทั้งค่าครองชีพ ค่าอาหาร ค่าน้ำมันรถ และพอถึงสิ้นเดือนรายจ่ายจากภาระผ่อนรถมอเตอร์ไซค์อีกเดือนละกว่า 2,000 บาท ซึ่งยอมรับว่าทุกวันนี้ยิ่งทำงานก็ยิ่งมีหนี้สินพอกพูนมากขึ้นๆ จนบางทีรู้สึกท้อ

"ก่อนหน้านี้เคยทำงานที่กรุงเทพฯ เป็นพนักงานโรงงานแห่งหนึ่งมีรายได้ต่อเดือนกว่าหมื่นบาท แต่ต่อมาตัดสินใจกลับมาทำงานที่บ้าน ที่เลือกทำงานที่นี่เพราะเห็นว่าใกล้บ้าน อีกทั้งยังมีสวัสดิการที่ดี โดยช่วงที่บริษัทฯ ยังไม่มีปัญหานั้น ฐานะทางบ้านถือว่าอยู่ในระดับปานกลางมีเงินเก็บออมประมาณแสนกว่าบาท แต่หลังจากบริษัทฯ เริ่มไม่จ่ายเงินเดือน เราก็ต้องเอาเงินออมมาเป็นค่าใช้จ่ายในครอบครัว มาถึงทุกวันนี้เงินที่เก็บไว้หมดเกลี้ยง หนำซ้ำยังมีหนี้สินที่พอกพูนเพิ่มเข้ามาอีกกว่า 5 หมื่นบาท

นอกจากนี้ ค่าครองชีพก็ยังสูงขึ้นอย่างไข่ไก่ที่ซื้อจากร้านขายของชำแถวบ้านเคยขายกันที่ฟองละ 4 บาท ปัจจุบันขึ้นราคามาที่ฟองละ 5 บาท ยอมรับว่าหลายๆ อย่างที่เกิดขึ้นนี้ทำให้การใช้ชีวิตเริ่มลำบากมากขึ้น แม้ว่าเราจะพยายามที่จะปรับตัวด้วยการประหยัดเงินมากขึ้น จ่ายเฉพาะที่จำเป็น จากที่เคยใช้เงินวันละ 300 บาท ทุกวันนี้ใช้เงินไม่เกินวันละ 60 บาท รวมค่ากับข้าวทุกอย่างแล้วนะ นอกจากนี้ก็พยายามหารายได้เสริมรับจ้างทำไร่ ถางหญ้าทุกอย่าง แต่ก็ยังไม่พอเพราะค่าใช้จ่ายเรามีแน่นอน ขณะที่รายได้กลับมีไม่แน่นอน"

ที่ผ่านมาทางกรมโรงงานอุตสาหกรรมได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาช่วยไกล่เกลี่ยให้บริษัทฯ หาเงินมาจ่ายค่าแรงพนักงาน แต่ก็ยังไม่ได้ผลที่น่าพอใจ ตนจึงรู้สึกว่าภาครัฐน่าจะยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือจริงจังมากกว่านี้ เพราะพนักงานส่วนใหญ่มีฐานะปานกลาง ไปจนถึงฐานะยากจนกันอยู่แล้ว ยิ่งมาถูกเบี้ยวค่าแรงที่ตนควรจะได้ก็ยิ่งสร้างความเดือดร้อนค่อนข้างมาก อีกทั้งทุกวันนี้ พนักงานหลายอยากจะร้องเรียนไปยังภาครัฐ แต่ก็กลัวว่าจะถูกกลั่นแกล้งจนอาจไม่ได้รับค่าแรงที่ทางบริษัทฯ ติดค้างในที่สุด

http://www.thairath.co.th/content/eco/365304
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่