บ้านที่ผมอยู่เป็นบ้านเดี่ยว เดิมที่บ้านเลี้ยงสุนัขกับแมวที่เขาโตพร้อมกันมาตั้งแต่เด็ก
สุนัขและแมวจึงเป็นเพื่อนเล่นกันได้ แมวจะช่วยกำจัดหนู จนไม่มีปัญหานี้เลย

ต่อมาแมวรุ่นนี้เริ่มล้มหายตายจาก บางตัวไปติดสาวบ้านอื่นแล้วก็หายไปเลย
แต่ก็มีแมวใหม่ ๆ ที่มาขออาหารกิน และช่วยดูแลกำจัดหนูให้บ้าง
แต่สุนัขจะไม่ถูกกับแมวใหม่คงเพราะเขาไม่ได้โตมาด้วยกัน แมวใหม่ ๆ ก็เลยหายหน้าหายตาไป
หนูก็เริ่มเยอะขึ้น ตอนแรกกัดแค่กางเกงใน ถุงเท้า ยังพอทน เพราะรูเล็ก ๆ พอใส่ได้ไม่มีใครเห็นครับ

ต่อมาก็เริ่มกัดเสื้อผ้า

และที่น่ากลัวที่สุดคือกัดสายไฟ

ตามรูปสองรูปนี้เลยล่ะครับ

ไปซื้อสเปรย์ขจัดหนูสารสะกัดสมุนไพรมาฉีด แรก ๆ ก็ดูจะได้ผล แต่หลัง ๆ เหมือนหนูเริ่มชิน
เลยใช้วิธีดัก ได้หนูแต่ก็ไม่มีคนยอมฆ่าเพราะต่างก็กลัวบาป
จะเอาไปปล่อยที่ไหนก็ไม่ได้เพราะบ้านในกรุงเทพติดกันไปหมดครับ
อีกทั้งเมื่อพิจารณาว่า หนูเป็นพาหะนำโรคร้ายหลายโรค เช่น กาฬโรค ที่คร่าชีวิตคนทั่วโลกไปหลายร้อยล้านคน
และยังมีรายงานการติดเชื้ออยู่ในประเทศไทย...กาฬโรคสามารถติดต่อได้ทุกเพศและทุกอายุ...
กาฬโรคติดต่อทางการหายใจ โดยคนสูดเอาละอองเชื้อโรค(ไอ จาม เสมหะ)จากผู้ที่เป็นโรค หรือจากหนู หรือจากหมัดหนู สูดเข้าไป
กลายเป็นกาฬโรคชนิดที่ติดเชื้อทางกระแสเลือดหรือกาฬโรคปอด ชนิดนี้รุนแรงและเสียชีวิตได้ง่าย  
นอกจากนั้นกาฬโรคยังติดต่อทางผิวหนัง โดยหมัดหนูที่เป็นโรคกัดคน หรือคนสัมผัสกับหนูที่มีเชื้อโรค
ทำให้เกิดกาฬโรคชนิดต่อมน้ำเหลืองอักเสบ ต่อไปจะกลายเป็นชนิดปอดอักเสบได้...
นอกจากกาฬโรคแล้วยังมีโรคอีกนับไม่ถ้วน เช่นโรคฉี่หนู-Leptospirosis ที่ก็ตายได้
นอกจากนั้นหนูยังเป็นพาหะนำโรคร้ายอีกหลายอย่างตามในเวบนี้ครับ >>>
http://www.tc-pestcontrol.com/index.php?lay=boardshow&ac=webboard_show&WBntype=1&No=1299807
และยังแพร่เชื้อพิษสุนัขบ้าที่ถ้าคนติดแล้วตายร้อยเปอร์เซ็นต์
ในเวชปฏิบัติปัจจุบันถ้าคนไข้ถูกหนูกัดแพทย์จำเป็นต้องฉีดยากันพิษสุนัขบ้าจนครบคอร์ส
ถ้าหนูมากัดหมา แล้วหมามีเชื้อพิษสุนัขบ้า แบบที่เราก็คิดไม่ถึง
เพราะหมาอยู่แต่ในบ้านแต่ลืมนึกไปว่าหมาอาจติดโรคพิษสุนัขบ้าจากหนูได้นี่
นอกจากหมาจะตายแล้วเจ้าของหมาก็ตายตามด้วย เพราะโรคพิษสุนัขบ้าในคนตาย 100 %
คุณ DeWolf Aussies ผู้รู้เรื่องการเลี้ยงสุนัข เตือนมาว่า "กลัวหมาจะติดโรคฉี่หนูมากกว่าค่ะ เคยได้ยินว่าติดแล้วตายเลย"

ตอนนี้กำลังขจัดหนูด้วยการจัดบ้าง และทิ้งหนังสือ ของใช้ที่ไม่จำเป็น
การกำจัดหนูในใจก็กลัวบาปเหมือนกัน ลองสอบถามคห.เพื่อน ๆ ในห้องซ่อมแซมดูแลบ้าน >>> http://ppantip.com/topic/30860745

ส่วนตัวว่าคห.ของคุณ apiwatt นั้นมีข้อคิดจริง ๆ ครับ
คุณ apiwatt กล่าวว่า...
ดักหนู ไล่หนู ไปปล่อยไว้ที่อื่น --> เห็นแก่ตัว เอาทุกข์เราให้คนอื่น
วางยา ฆ่าทิ้ง --> บาปแก่ตัวเอง
ปล่อยตามเวรกรรม --> ลำบากตัวเองและครอบครัว
เลือกเอาครับ อย่างไหนเหมาะกับตัวเอง
สำหรับผม ดักหนูฆ่าทิ้งและวางยา ครับ...

ผมนำคห.คุณ apiwatt มาคิดก็เห็นด้วยว่า การนำหนูไปปล่อยนั้น มันก็ไม่พ้นไปเข้าบ้านคนอื่นเขา
หรือถ้าปล่อยในนาในป่า ก็มีโอกาสติดโรคจากสัตว์ในป่าแล้วหนูบ้านก็จะกลับมาแพร่เชื้อต่อคนอีก

จึงเริ่มกำจัดหนูโดยการดูแลความสะอาด ใช้กาวดักหนู ปรากฏว่าหนูตัวใหญ่มากวิ่งลากกาวไปทั้งถาดจนหลุดไปได้
ส่วนในเพดานใช้ยาเบื่อก้อนโยนไว้ในฝ้า ยอมรับว่ากลัวเรื่องกัดสายไฟจริง ๆ
ส่วนในครัวและในบ้านใช้กรงดักหนู พอดักได้ก็ไม่มีใครกล้าถ่วงน้ำ
ตอนแรกจะปล่อยให้เขาตายเองแต่ก็มีคนบอกว่าอดอาหารตายยิ่งทารุณ ก็เลยหยอดอาหารก้อนที่ใช้ขจัดหนูให้เขาไปไว

อยากทราบคห.จากเพื่อนในห้องศาสนาว่า การขจัดสัตว์ที่เป็นพาหะนำโรคร้ายนี่จะบาปไหมครับ ?
ถ้าบาปแพทย์ที่สั่งยาถ่ายพยาธิก็บาปสิครับ

ผมเคยถามคห.ในห้องศาสนานี้ครั้งนึง เรื่องเกี่ยงกันไม่มีใครกล้าตัดต้นโพที่มาขึ้นในซอกตึกแถว
ทุกคนกลัวบาป แต่พอถามห้องศาสนากลับได้คำตอบว่าตัดได้เลย
โพแบบนี้เรียกโพขี้นก อีกทั้งรัชกาลที่ 4 ท่านเคยมีพระบรมราชวินิจฉัยว่าตัดได้
และพระเถระผู้ใหญ่บางรูปก็บอกตัดได้ครับ...