บ้านเราใช้กาวดักหนู ปกติิพอหนูมาติด จะรอให้หนูตายแล้วค่อยทิ้งทั้งถาด
จริงๆ เขาเลิกดักไปหลายปีแล้ว ปีนี้อยู่ดีๆก็กลับมาดักใหม่ ทั้งๆที่หนูไม่ได้ลากอาหารไปกินตามใต้ตู้ หรือกัดตั้งหนังสือที่ก งไว้นานๆอย่างเมื่อก่อน ผู้ใหญ่บอกว่าหนูมันเดินเพ่นพ่านในบ้านมากไป และเดินโดยไม่เกรงกลัวคน
บ้านเราอยู่ใกล้คูน้ำ พื้นที่ใกล้เคียงเป็นสวนปลูกผลไม้ นอกบ้านเราเลี้ยงหมา ไม่ได้ให้เข้ามา ส่วนแมวนั้นเลี้ยงไม่ได้เลยค่ะ หมาๆเราเจอแมวข้าวนอก แทบจะวิ่งไปทาน
การใช้กาวดักครั้งนี้มีหนูมาติด ตั้งแต่2วันก่อน เมื่อเย็นเราเดินผ่านมันก็ร้องๆตะเกียกตะกาย ทีแรกมันติดกาวทั้ง4 ขา แต่ตอนนี้ 2 ขาหน้าหลุดออกมานอกถาดได้ มันร้องไม่หยุดเราเลยแอบเอาขนมปังชิ้นเล็กๆไปโยนให้ เผื่อมันหิวและจะมีแรงจนหลุดเหมือนหนูตัวก่อนๆบ้าง
บ้านเราไม่นิยมดักหนูด้วยกรง เพราะเขาเห็นว่าปล่อยไปแล้วก็กลับมาหาอาหารใหม่ได้
เราเห็นหนูตัวนี้แล้วเศร้าใจมาก เลยโทรถามแฟนว่าบ้านเขากำจัดหนูยังไง เห็นบ้านเขาเป็นสวนน่าจะมีหนู เขาบอกว่ากรงดักแล้วเอาออกมาตีในกระสอบ
เราค่อนข้างอ่อนไหวเรื่องชีวิต ความเศร้า ความตาย เราเลยตกใจว่า"ตี"
เราบอกแฟนว่าตีไปก็กำจัดไม่หมดหรอก ตัวใหม่ก็มา น่าจะมีวิธีอย่างอื่นให้อยู่ร่วมกันได้มากกว่า
เขาบอกว่า หนูมันเข้ามาทำลายข้าวของในบ้านเสียหาย มารุกรานต้องตี เพียงแต่บ้านเราไม่ควรปล่อยไว้ให้มันทรมานจนตาย สงสารมัน สงสารคนอื่นในบ้านที่ไม่อยากทำแล้วต้องมาเห็นมันร้องทรมานตะเกียกตะกายด้วย ควรตี ตั้งแต่มันมาติดถาดกาวแล้ว.. เราได้ยินคำว่า"ตี" ยิ่งรู้สึกรับไม่ได้ กับคนแบบนี้
เราบอกเขาว่า ผิดตั้งแต่คิดจะจำกัด ควรจะจัดแจงบ้านมากกว่า ให้สะอาด เก็บของกินของที่ล่อหนู เราว่ามันต้องมีวิธี
เขาตอบว่า มันเข้ามารุกรานพื้นที่ในที่คนอยู่ คนอยู่ไม่สงบสุขเพราะหนู ก็ต้องกำจัดไป .. จริงๆเขาไม่ใช่คนฆ่าสัตว์สุ่มสี่สุ่มห้าหรือชอบรังแกสัตว์นะคะ..
เราตอบกลับว่า พื้นที่บนโลกนี้ไม่ใช่ของใครทั้งสิ้น คนชอบอุปโลกว่าเขตนั้นเขตนี้เป็นของตัว อุปโลกโฉนดขึินมา (อันนี้เราเคยอ่านจากคำสอนของท่าน ป.ปยุตโต มาค่ะ ขึ้นใจเลย ลึกซึ้งและมีเหตุผลมากๆ) โดยไม่นึกถึงว่าก่อนตนเข้ามาพื้นที่นั้นมีสัตว์อะไรอยู่บ้าง พอสัตว์เขาจะเข้ามาก็หาว่าเขามารุกรานและไล่เขาไป เราควรจะอยู่ร่วมกับสัตว์อย่างสงบสุขมากกว่า
แฟนเราคงเริ่มรำคาญ เขาบอกว่าแล้วแต่เราคิดละกัน อยากคิดอะไรก็คิดไปเลย
เราบอกเขาว่า อย่าประขดเราเลย เราขอโทษ เราคงคิดไม่เหมือนใครๆเอง เราวุฒิภาวะน้อย ไอคิวก็คงน้อยด้วย ถ้าเรามีบ้านบ้านเราอาจจะเต็มไปด้วยหนู แมลงสาบ มดก็ได้ ใครๆเขาก็กำจัดหนูโดยการฆ่ากัน
เราเริ่มสะอื้น เพราะรู้สึกเสียใจที่ทำไมเขาไม่ฟังเหตุผลเราเลย เขาคงได้ยินเลยอ่อนลง
เขาบอกว่า ไม่หรอก ถ้าอยู่ด้วยกันกะเขา เขาจะยอมเป็นคนเสียสละที่จะบาปเอง ยอมตีมันให้เราไม่ต้องบาป
... มาถึงประโยคนี้ เรายิ่งเสียใจมเพราะรู้สึกว่าเขาไม่ได้เข้าใจเราเลยว่าเราพูดมาทั้งหมด ที่เรามาปรึกษาเขาเราต้องการอะไร.. แล้วเขาก็ปลอบเราต่อว่าเราเป็นคนอ่อนโยนเกินกว่าจะทำเรื่องแบบนี้ได้
เราบอกเขาตรงๆว่า ไม่ต้องมาอวยเรา ตอนนี้ที่เราเสียใจมากจนเรากั้นน้ำตาไม่ไหวมไม่ใช่เพราะเราเห็นหนูทรมาน แต่มันเพราะเรายิ่งคุยยิ่งปรึกษาเขาทเรายิ่งเห็นว่าเขาไม่ได้เข้าใจเราเลย
ถ้าเรามีบ้านเราจะไม่ปล่อยให้มีการกำจัดหนู โดยการฆ่าเกิดขึ้นโดยเด็ดขาด เราไม่ได้ต้องการให้ใครมาบาปแทนใคร
เราเลยถามเราว่า แล้วถ้าเลีิยงแมว แล้วมันคาบหนูไปกิน ก็คงรับไม่ได้ไปช่วยหนูหรอ
เราบอกว่านั่นเป็นเรื่องธรรมชาติ ห่วงโซ่อาหาร เราไม่ห้าม และเราไม่รู้บาปที่จะไม่ช่วยหนูด้วย
เขาตอบว่า ยังไง เขาก็ต้องกำจัดโดยการตีมันอยู่ดี ถ้าเขาเห็นมันติดอยู่บนกาวดัก แล้วร้องดิ้น ทรมาน เขาตีมันทันทีที่เห็นแน่ๆ เพื่อให้มันไปเลย ไม่เจ็บปวด
เรายิ่งฟังยิ่งสะเทือนใจ เรารู้สึกว่าเราคบกับคนที่คิดแบบนี้ไม่ได้ มันต่างกับเราเกินไป .. พูด ย่างนี้ไม่ได้หมายความว่าเขาผิดหรือไม่ดีนะคะ แค่ความคิดสวนทางกันมากไป...
เราร้องไห้หนักขึ้น แล้วตอบเขาว่า ถ้าคนที่เรารู้จักป่วยหนักหรือโดนอุบัติเหตุมาหนักจนร้องครวญคราง เราจะจบชีวิตเขา ณ ตอนนั้นเลยไหม หรือจะพาเขาไรักษา ยิ่งถ้าในกรณีที่หมอบอกว่าเปอร์เซ็นต์รอดน้อยมาก เราจะรักษาเขาต่อไปไหม เป็นเราอะเรารักษา บางคนที่ญาติเขานอนเฉยๆแล้ว ทำไมเขาไม่เอาออกซิเจนออกซะเลย
เราบอกเขาว่าได้โปรดอย่าตัดสินชีวิตสัตว์อื่นว่า การที่มันร้องระงมและตะเกียกตะกาย คือการทรมานและมันอยากที่จะตายมากกว่าที่จะสู้ตะเกียกตะกายต่อ
เราเห็นมันแล้วเราตัดสินไปเองรึเปล่าว่ามันทรมาน มันอาจจะพยายาม ร้องขอความช่วยเหลือจากเพื่อนมันอยู่ก็ได้ เหมือนที่คนเจ็บโอดครวญในภาษาที่เราฟังออกว่า ให้เราช่วยเขาด้ยย
มา ณ ประโยคนี้ เรายิ่งรู้สึกว่าเขาไม่เข้าใจเราเลย ไม่ แม้แต่จะพยายามที่จะทำความเข้าใจ
เรารู้สึกว่าเรื่องนี้มันเรื่องใหญ่ ความคิดเราสวนทางกันมากจริงๆ คนละแนวคิด เราเองก็ไม่เข้าใจและไม่อาจยอมรับเหตุของเขาในการตีหนูได้
เรามองไม่เห็นตัวเองค่ะ เรามาโพส เพราะอยากทราบว่าบ้านอื่นจัดการปัญหาเรื่องหนูยังไงกัน แล้วถ้าเจอหนูติดถาด คุณตีเลยมั้ย เพราะไม่อยากให้มันทรมาน
และท้ายที่สุด เราเว่อร์ไปไหมในเรื่องหนู คิดมาก หรือไร้เหตุผลเกินไปไหมคะ เราอยู่ตรงนี้ มองไม่เห็นตัวเ งจริงๆ ถ้าเราใจแคบไป ควรจะยอมรับและรับฟังแฟนเรา รบกกวนช่วยเตือนสติเราด้วยนะคะ
ตอนนี้เรารู้สึกแค่ว่า เขาไม่ใช่ สำหรับเราอีกแล้ว จริงๆมีหลายเรื่องค่ะที่ความเห็นไม่ตรงกัน
เรารู้สึกว่า ถ้าอยู่ด้วยกัน บ้านแตกแน่นอน เราเข้าไม่ถึงเรา เรามองตัวเองเป็นหลักมากเกินไปไหมคะ เราไม่อยากให้รักคนั้งนี้ที่คบมาหลายปีล่มเพราะความงี่เง่าของตัวเองที่เรามองไม่เห็น
ขอบคุณนะคะที่อุตส่าอ่าน
ดราม่าจากปัญหาเรื่อง"หนู"ในบ้านจนมาถึงความเสียใจที่เรากับแฟนความคิดสวนทางกันมาก เรางี่เง่า/ดราม่าเกินไปไหมคะ
จริงๆ เขาเลิกดักไปหลายปีแล้ว ปีนี้อยู่ดีๆก็กลับมาดักใหม่ ทั้งๆที่หนูไม่ได้ลากอาหารไปกินตามใต้ตู้ หรือกัดตั้งหนังสือที่ก งไว้นานๆอย่างเมื่อก่อน ผู้ใหญ่บอกว่าหนูมันเดินเพ่นพ่านในบ้านมากไป และเดินโดยไม่เกรงกลัวคน
บ้านเราอยู่ใกล้คูน้ำ พื้นที่ใกล้เคียงเป็นสวนปลูกผลไม้ นอกบ้านเราเลี้ยงหมา ไม่ได้ให้เข้ามา ส่วนแมวนั้นเลี้ยงไม่ได้เลยค่ะ หมาๆเราเจอแมวข้าวนอก แทบจะวิ่งไปทาน
การใช้กาวดักครั้งนี้มีหนูมาติด ตั้งแต่2วันก่อน เมื่อเย็นเราเดินผ่านมันก็ร้องๆตะเกียกตะกาย ทีแรกมันติดกาวทั้ง4 ขา แต่ตอนนี้ 2 ขาหน้าหลุดออกมานอกถาดได้ มันร้องไม่หยุดเราเลยแอบเอาขนมปังชิ้นเล็กๆไปโยนให้ เผื่อมันหิวและจะมีแรงจนหลุดเหมือนหนูตัวก่อนๆบ้าง
บ้านเราไม่นิยมดักหนูด้วยกรง เพราะเขาเห็นว่าปล่อยไปแล้วก็กลับมาหาอาหารใหม่ได้
เราเห็นหนูตัวนี้แล้วเศร้าใจมาก เลยโทรถามแฟนว่าบ้านเขากำจัดหนูยังไง เห็นบ้านเขาเป็นสวนน่าจะมีหนู เขาบอกว่ากรงดักแล้วเอาออกมาตีในกระสอบ
เราค่อนข้างอ่อนไหวเรื่องชีวิต ความเศร้า ความตาย เราเลยตกใจว่า"ตี"
เราบอกแฟนว่าตีไปก็กำจัดไม่หมดหรอก ตัวใหม่ก็มา น่าจะมีวิธีอย่างอื่นให้อยู่ร่วมกันได้มากกว่า
เขาบอกว่า หนูมันเข้ามาทำลายข้าวของในบ้านเสียหาย มารุกรานต้องตี เพียงแต่บ้านเราไม่ควรปล่อยไว้ให้มันทรมานจนตาย สงสารมัน สงสารคนอื่นในบ้านที่ไม่อยากทำแล้วต้องมาเห็นมันร้องทรมานตะเกียกตะกายด้วย ควรตี ตั้งแต่มันมาติดถาดกาวแล้ว.. เราได้ยินคำว่า"ตี" ยิ่งรู้สึกรับไม่ได้ กับคนแบบนี้
เราบอกเขาว่า ผิดตั้งแต่คิดจะจำกัด ควรจะจัดแจงบ้านมากกว่า ให้สะอาด เก็บของกินของที่ล่อหนู เราว่ามันต้องมีวิธี
เขาตอบว่า มันเข้ามารุกรานพื้นที่ในที่คนอยู่ คนอยู่ไม่สงบสุขเพราะหนู ก็ต้องกำจัดไป .. จริงๆเขาไม่ใช่คนฆ่าสัตว์สุ่มสี่สุ่มห้าหรือชอบรังแกสัตว์นะคะ..
เราตอบกลับว่า พื้นที่บนโลกนี้ไม่ใช่ของใครทั้งสิ้น คนชอบอุปโลกว่าเขตนั้นเขตนี้เป็นของตัว อุปโลกโฉนดขึินมา (อันนี้เราเคยอ่านจากคำสอนของท่าน ป.ปยุตโต มาค่ะ ขึ้นใจเลย ลึกซึ้งและมีเหตุผลมากๆ) โดยไม่นึกถึงว่าก่อนตนเข้ามาพื้นที่นั้นมีสัตว์อะไรอยู่บ้าง พอสัตว์เขาจะเข้ามาก็หาว่าเขามารุกรานและไล่เขาไป เราควรจะอยู่ร่วมกับสัตว์อย่างสงบสุขมากกว่า
แฟนเราคงเริ่มรำคาญ เขาบอกว่าแล้วแต่เราคิดละกัน อยากคิดอะไรก็คิดไปเลย
เราบอกเขาว่า อย่าประขดเราเลย เราขอโทษ เราคงคิดไม่เหมือนใครๆเอง เราวุฒิภาวะน้อย ไอคิวก็คงน้อยด้วย ถ้าเรามีบ้านบ้านเราอาจจะเต็มไปด้วยหนู แมลงสาบ มดก็ได้ ใครๆเขาก็กำจัดหนูโดยการฆ่ากัน
เราเริ่มสะอื้น เพราะรู้สึกเสียใจที่ทำไมเขาไม่ฟังเหตุผลเราเลย เขาคงได้ยินเลยอ่อนลง
เขาบอกว่า ไม่หรอก ถ้าอยู่ด้วยกันกะเขา เขาจะยอมเป็นคนเสียสละที่จะบาปเอง ยอมตีมันให้เราไม่ต้องบาป
... มาถึงประโยคนี้ เรายิ่งเสียใจมเพราะรู้สึกว่าเขาไม่ได้เข้าใจเราเลยว่าเราพูดมาทั้งหมด ที่เรามาปรึกษาเขาเราต้องการอะไร.. แล้วเขาก็ปลอบเราต่อว่าเราเป็นคนอ่อนโยนเกินกว่าจะทำเรื่องแบบนี้ได้
เราบอกเขาตรงๆว่า ไม่ต้องมาอวยเรา ตอนนี้ที่เราเสียใจมากจนเรากั้นน้ำตาไม่ไหวมไม่ใช่เพราะเราเห็นหนูทรมาน แต่มันเพราะเรายิ่งคุยยิ่งปรึกษาเขาทเรายิ่งเห็นว่าเขาไม่ได้เข้าใจเราเลย
ถ้าเรามีบ้านเราจะไม่ปล่อยให้มีการกำจัดหนู โดยการฆ่าเกิดขึ้นโดยเด็ดขาด เราไม่ได้ต้องการให้ใครมาบาปแทนใคร
เราเลยถามเราว่า แล้วถ้าเลีิยงแมว แล้วมันคาบหนูไปกิน ก็คงรับไม่ได้ไปช่วยหนูหรอ
เราบอกว่านั่นเป็นเรื่องธรรมชาติ ห่วงโซ่อาหาร เราไม่ห้าม และเราไม่รู้บาปที่จะไม่ช่วยหนูด้วย
เขาตอบว่า ยังไง เขาก็ต้องกำจัดโดยการตีมันอยู่ดี ถ้าเขาเห็นมันติดอยู่บนกาวดัก แล้วร้องดิ้น ทรมาน เขาตีมันทันทีที่เห็นแน่ๆ เพื่อให้มันไปเลย ไม่เจ็บปวด
เรายิ่งฟังยิ่งสะเทือนใจ เรารู้สึกว่าเราคบกับคนที่คิดแบบนี้ไม่ได้ มันต่างกับเราเกินไป .. พูด ย่างนี้ไม่ได้หมายความว่าเขาผิดหรือไม่ดีนะคะ แค่ความคิดสวนทางกันมากไป...
เราร้องไห้หนักขึ้น แล้วตอบเขาว่า ถ้าคนที่เรารู้จักป่วยหนักหรือโดนอุบัติเหตุมาหนักจนร้องครวญคราง เราจะจบชีวิตเขา ณ ตอนนั้นเลยไหม หรือจะพาเขาไรักษา ยิ่งถ้าในกรณีที่หมอบอกว่าเปอร์เซ็นต์รอดน้อยมาก เราจะรักษาเขาต่อไปไหม เป็นเราอะเรารักษา บางคนที่ญาติเขานอนเฉยๆแล้ว ทำไมเขาไม่เอาออกซิเจนออกซะเลย
เราบอกเขาว่าได้โปรดอย่าตัดสินชีวิตสัตว์อื่นว่า การที่มันร้องระงมและตะเกียกตะกาย คือการทรมานและมันอยากที่จะตายมากกว่าที่จะสู้ตะเกียกตะกายต่อ
เราเห็นมันแล้วเราตัดสินไปเองรึเปล่าว่ามันทรมาน มันอาจจะพยายาม ร้องขอความช่วยเหลือจากเพื่อนมันอยู่ก็ได้ เหมือนที่คนเจ็บโอดครวญในภาษาที่เราฟังออกว่า ให้เราช่วยเขาด้ยย
มา ณ ประโยคนี้ เรายิ่งรู้สึกว่าเขาไม่เข้าใจเราเลย ไม่ แม้แต่จะพยายามที่จะทำความเข้าใจ
เรารู้สึกว่าเรื่องนี้มันเรื่องใหญ่ ความคิดเราสวนทางกันมากจริงๆ คนละแนวคิด เราเองก็ไม่เข้าใจและไม่อาจยอมรับเหตุของเขาในการตีหนูได้
เรามองไม่เห็นตัวเองค่ะ เรามาโพส เพราะอยากทราบว่าบ้านอื่นจัดการปัญหาเรื่องหนูยังไงกัน แล้วถ้าเจอหนูติดถาด คุณตีเลยมั้ย เพราะไม่อยากให้มันทรมาน
และท้ายที่สุด เราเว่อร์ไปไหมในเรื่องหนู คิดมาก หรือไร้เหตุผลเกินไปไหมคะ เราอยู่ตรงนี้ มองไม่เห็นตัวเ งจริงๆ ถ้าเราใจแคบไป ควรจะยอมรับและรับฟังแฟนเรา รบกกวนช่วยเตือนสติเราด้วยนะคะ
ตอนนี้เรารู้สึกแค่ว่า เขาไม่ใช่ สำหรับเราอีกแล้ว จริงๆมีหลายเรื่องค่ะที่ความเห็นไม่ตรงกัน
เรารู้สึกว่า ถ้าอยู่ด้วยกัน บ้านแตกแน่นอน เราเข้าไม่ถึงเรา เรามองตัวเองเป็นหลักมากเกินไปไหมคะ เราไม่อยากให้รักคนั้งนี้ที่คบมาหลายปีล่มเพราะความงี่เง่าของตัวเองที่เรามองไม่เห็น
ขอบคุณนะคะที่อุตส่าอ่าน