คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 1
แนะนำวิธีตัดมดลูกไม่ผิดทั้งคู่ แต่เหตุผลไม่ถูกทั้งคู่
หมอคนที่ 1 : "แกว่าส่องกล้องไม่ดีเพราะอาจไปโดนแผลพังผืดที่ผ่าคลอดลูกมาแต่เก่าก่อน"
ความเห็นนี้ อาจจะเป็นไปได้ แต่ในมือผู้เชี่ยวชาญผ่าตัดส่องกล้อง และเครื่องมือสมัยใหม่ เรื่องนี้ไม่น่าห่วง
หมอคนที่ 2: "แกว่ามองเห็นเนื้องอกส่วนที่อยู่ด้านหลังตรงปลายลำไส้ใหญ่ชัดกว่าในขณะที่ถ้าลงมีดจะไม่เห็น และจะส่องกล้องจี้ถุงน้ำในรังไข่ให้ด้วย"
ผ่าแบบผ่าท้อง ก็มองได้ชัดพอๆกัน และถ้าหมอใช้วิธีทำผ่าตัดตามวิธีของหมอมะเร็ง จะเลาะได้เรียบร้อย และปลอดภัยกว่า ส่วนเรื่องจี้ถุงน้ำรังไข่นั้น ผ่าตัดแบบเปิดหน้าท้อง ทำไมจะจี้ไม่ได้ จี้ได้เหมือนกัน
ส่วนจะตัดสินใจเลือกการผ่าตัดแบบไหน เลือกให้ไม่ได้จริงๆ ลองอ่านนี่ดู
http://www.med.cmu.ac.th/dept/obgyn/2011/index.php?option=com_content&view=article&id=796:route-of-hysterectomy&catid=45&Itemid=561
เป็นการทบทวนรายงานการศึกษาเปรียบเทียบการผ่าตัดมดลูกทางหน้าท้องด้วยวิธีเปิดหน้าท้อง ผ่าตัดส่องกล้อง และผ่าตัดผ่านช่องคลอด รายงานโดยอาจารย์สูตินรีแพทย์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ สำหรับ จขกท ทำผ่าตัดทางช่องคลอดไม่ได้แน่ ลองอ่านดูค่ะ ถ้าต้องการอ่านละเอียด ไปตามลิงค์เลย
การเปรียบเทียบระหว่างการผ่าตัดทางหน้าท้อง การผ่าตัดมดลูกผ่านการส่องกล้อง และการผ่าตัดทางช่องคลอด (abdominal versus vaginal versus laparoscopic hysterectomy)
Cochrane Systematic review (5) ซึ่งรวบรวมข้อมูลจาก 34 randomized trials โดยมีจำนวนผู้ป่วยทั้งสิ้น 4,495 ราย เพื่อหาช่องทางการผ่าตัดที่เหมาะสมที่สุดในการผ่าตัดมดลูกที่ไม่ใช่มะเร็ง ได้ข้อสรุป ดังนี้
เมื่อเปรียบเทียบระหว่างการผ่าตัดทางหน้าท้องกับการผ่าตัดทางช่องคลอด พบว่าการผ่าตัดทางช่องคลอด มีความเจ็บปวดหลังผ่าตัดน้อยกว่า หายเร็วกว่า นอนพักฟื้นสั้นกว่า แต่ระยะเวลาในการผ่าตัดสรุปได้ไม่ชัดขึ้นอยู่กับประสบการณ์ของผู้ผ่าตัด
เมื่อเปรียบเทียบระหว่างการผ่าตัดมดลูกผ่านการส่องกล้องกับการผ่าตัดทางหน้าท้อง
พบว่าการผ่าตัดมดลูกผ่านการส่องกล้อง มีความเจ็บปวดหลังผ่าตัดน้อยกว่า หายเร็วกว่า นอนพักฟื้นสั้นกว่า เสียเลือดน้อยกว่า ไข้และแผลติดเชื้อน้อยกว่า แต่ต้องใช้ระยะเวลาในการผ่าตัดนานกว่า และมีความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บของทางเดินระบบปัสสาวะมากกว่า
เมื่อเปรียบเทียบระหว่างการผ่าตัดมดลูกผ่านการส่องกล้อง กับการผ่าตัดทางช่องคลอด พบว่าต้องใช้เวลาผ่าตัดนานกว่า ค่าใช้จ่ายสูงกว่า เสียเลือดมากกว่า และใช้ยาแก้ปวดในวันที่สองหลังการผ่าตัดมากกว่า
การผ่าตัดทางช่องคลอดควรเป็นช่องทางที่ควรพิจารณาเป็นลำดับแรก สำหรับการตัดมดลูก แต่ถ้ามีข้อห้ามหรือข้อจำกัด ให้เลือกการผ่าตัดมดลูกผ่านการส่องกล้องเป็นทางเลือกลำดับถัดไป ก่อนพิจารณาทำการผ่าตัดทางหน้าท้อง อย่างไรก็ตามขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของผู้ป่วย และความเชี่ยวชาญของแพทย์ร่วมด้วย
หมอคนที่ 1 : "แกว่าส่องกล้องไม่ดีเพราะอาจไปโดนแผลพังผืดที่ผ่าคลอดลูกมาแต่เก่าก่อน"
ความเห็นนี้ อาจจะเป็นไปได้ แต่ในมือผู้เชี่ยวชาญผ่าตัดส่องกล้อง และเครื่องมือสมัยใหม่ เรื่องนี้ไม่น่าห่วง
หมอคนที่ 2: "แกว่ามองเห็นเนื้องอกส่วนที่อยู่ด้านหลังตรงปลายลำไส้ใหญ่ชัดกว่าในขณะที่ถ้าลงมีดจะไม่เห็น และจะส่องกล้องจี้ถุงน้ำในรังไข่ให้ด้วย"
ผ่าแบบผ่าท้อง ก็มองได้ชัดพอๆกัน และถ้าหมอใช้วิธีทำผ่าตัดตามวิธีของหมอมะเร็ง จะเลาะได้เรียบร้อย และปลอดภัยกว่า ส่วนเรื่องจี้ถุงน้ำรังไข่นั้น ผ่าตัดแบบเปิดหน้าท้อง ทำไมจะจี้ไม่ได้ จี้ได้เหมือนกัน
ส่วนจะตัดสินใจเลือกการผ่าตัดแบบไหน เลือกให้ไม่ได้จริงๆ ลองอ่านนี่ดู
http://www.med.cmu.ac.th/dept/obgyn/2011/index.php?option=com_content&view=article&id=796:route-of-hysterectomy&catid=45&Itemid=561
เป็นการทบทวนรายงานการศึกษาเปรียบเทียบการผ่าตัดมดลูกทางหน้าท้องด้วยวิธีเปิดหน้าท้อง ผ่าตัดส่องกล้อง และผ่าตัดผ่านช่องคลอด รายงานโดยอาจารย์สูตินรีแพทย์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ สำหรับ จขกท ทำผ่าตัดทางช่องคลอดไม่ได้แน่ ลองอ่านดูค่ะ ถ้าต้องการอ่านละเอียด ไปตามลิงค์เลย
การเปรียบเทียบระหว่างการผ่าตัดทางหน้าท้อง การผ่าตัดมดลูกผ่านการส่องกล้อง และการผ่าตัดทางช่องคลอด (abdominal versus vaginal versus laparoscopic hysterectomy)
Cochrane Systematic review (5) ซึ่งรวบรวมข้อมูลจาก 34 randomized trials โดยมีจำนวนผู้ป่วยทั้งสิ้น 4,495 ราย เพื่อหาช่องทางการผ่าตัดที่เหมาะสมที่สุดในการผ่าตัดมดลูกที่ไม่ใช่มะเร็ง ได้ข้อสรุป ดังนี้
เมื่อเปรียบเทียบระหว่างการผ่าตัดทางหน้าท้องกับการผ่าตัดทางช่องคลอด พบว่าการผ่าตัดทางช่องคลอด มีความเจ็บปวดหลังผ่าตัดน้อยกว่า หายเร็วกว่า นอนพักฟื้นสั้นกว่า แต่ระยะเวลาในการผ่าตัดสรุปได้ไม่ชัดขึ้นอยู่กับประสบการณ์ของผู้ผ่าตัด
เมื่อเปรียบเทียบระหว่างการผ่าตัดมดลูกผ่านการส่องกล้องกับการผ่าตัดทางหน้าท้อง
พบว่าการผ่าตัดมดลูกผ่านการส่องกล้อง มีความเจ็บปวดหลังผ่าตัดน้อยกว่า หายเร็วกว่า นอนพักฟื้นสั้นกว่า เสียเลือดน้อยกว่า ไข้และแผลติดเชื้อน้อยกว่า แต่ต้องใช้ระยะเวลาในการผ่าตัดนานกว่า และมีความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บของทางเดินระบบปัสสาวะมากกว่า
เมื่อเปรียบเทียบระหว่างการผ่าตัดมดลูกผ่านการส่องกล้อง กับการผ่าตัดทางช่องคลอด พบว่าต้องใช้เวลาผ่าตัดนานกว่า ค่าใช้จ่ายสูงกว่า เสียเลือดมากกว่า และใช้ยาแก้ปวดในวันที่สองหลังการผ่าตัดมากกว่า
การผ่าตัดทางช่องคลอดควรเป็นช่องทางที่ควรพิจารณาเป็นลำดับแรก สำหรับการตัดมดลูก แต่ถ้ามีข้อห้ามหรือข้อจำกัด ให้เลือกการผ่าตัดมดลูกผ่านการส่องกล้องเป็นทางเลือกลำดับถัดไป ก่อนพิจารณาทำการผ่าตัดทางหน้าท้อง อย่างไรก็ตามขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของผู้ป่วย และความเชี่ยวชาญของแพทย์ร่วมด้วย
แสดงความคิดเห็น
คุณแม่ที่ผ่าคลอดและเคยตัดมดลูกทิ้ง ช่วยเข้ามาแนะนำหน่อยค่ะ หรือหมอสูก็ได้ งงกะแนวทางการรักษาค่ะ
คุณหมอแนะว่ามีลูกพอแล้วให้ตัดมดลูกทิ้งได้เลย แต่ยังเก็บรังไข่ไว้เพราะกลัววัยทอง
ทีนี้หมอ2คน มีแนวทางการรักษาที่ต่างกัน
คนแรก บอกจะผ่าทับรอยแผลเดิม แกว่าส่องกล้องไม่ดีเพราะอาจไปโดนแผลพังผืดที่ผ่าคลอดลูกมาแต่เก่าก่อน
คนที่ 2 บอกจะผ่าแบบส่องกล้องตัดมดลูก แกว่ามองเห็นเนื้องอกส่วนที่อยู่ด้านหลังตรงปลายลำไส้ใหญ่ชัดกว่าในขณะที่ถ้าลงมีดจะไม่เห็น และจะส่องกล้องจี้ถุงน้ำในรังไข่ให้ด้วย
ส่วนตัวอยากส่องกล้องเพราะไม่อยากพักฟื้นนาน แต่หมอคนแรกเป็นระดับอาจารย์อาวุโส ที่ดูแลเรามานานและวินิจฉัยเก่งมาก( แต่แกอาจไม่ถนัดส่องกล้องก็ได้มั๊ง)
เราเลยตัดสินใจไม่ถูก
ขอคำแนะนำคุณหมอที่เก่งในด้านนี้ด้วยค่ะ ผ่าที่ไหนดี พักฟื้นนานเท่าไหร่ถึวใช้ชีวิตเป็นปกติคะ