ชวนกิน น้ำพริกเปิบพิศดาร คุณกล้าลองกินไหมเราเตือนคุณแล้ว

กระทู้สนทนา

  อันนี้ขอนอกซีรี่ย์นะครับเพราะตอนนี้อารมณ์ผมมันฟิวด์ไปอยู่กับเรื่องนี้แล้ว ผมเครียดมากตอนนี้เลยแต่งเป็นเรื่องนี้ออกมาได้
คำเตือนนะครับ   เรื่องสั้นเรื่องนี้อาจจะทำให้คุณอ้วกออกมาได้ถ้าใจไม่แข็งพอหรือเพิ่งทานอาหารเข้าไปแล้วถ้าคิดว่าทนเรื่องสยองๆได้ไม่เป็นไรผมขอเชิญครับ เชิญสัมผัสกับเมนู น้ำพริกเปิบพิศดารที่จะมาเล่าถึงน้ำพริกแสนอร่อยเหาะที่ นายเขียม(นามตัวละคร)นำเสนอนะครับขอเชิญได้สัมผัสกันได้แล้วครับในบรรทัดถัดไป (เตรียมถังเตรีมถุงให้ดีถ้าคุณอ้วกออกมาจะได้ไม่เลอะบ้าน)

  น้ำเอ๋ยน้ำพริก ช่างอร่อยเหาะจริงหนอ
   ตำอร่อยปรุงรสให้ถูกคอ  
  อย่าน้ำลายสอเตรียมสยองขวัญกันได้เลย  

     น้ำพริกทั่วไปควรกินกับเครื่องเคียงและแกล้มด้วยผักสดทุกชนิด ส่วนน้ำพริกกะปินั้นหรือแกล้มด้วยปลาทูทอด ชะอมชุบไข่ อร่อยนักแล
    แต่มื้อต่อไปคุณอาจจะหมดอร่อยกับน้ำพริกชนิดนี้ก็ได้  เชิญรับชมครับ

  จั่วหัวซะยาว นายเขียมเป็นคนบ้านนอกคอกนาเขาชอบกินอาหารแบบแปลกๆอยู่แล้ว ดังเช่น งูเห่าผัดเผ็ด ตั๊กแตนทอด กิ้งกือไส้เดือนเอามาหลน หรือแม้แต่จั๊กจั่นยังเอามาต้มยำก็ยังได้ แหมพูดซะน้ำลายสอ
  นายเขียมเดินทางมาจากภาคอีสานในที่แห้งแล้งขาดแคลนของอร่อย นายเขียมเดินทางมากรุงเทพใช่แล้วกรุงเทพเมืองศิวิไลน์ที่นายเขียมใฝ่ฝันมานาน หลังจากที่เขาอ้อนวอนรบเร้าขอตังค์พ่อแม่ที่แก่เฒ่าเพื่อที่จะเอาตังค์มาเช่าบ้านอยู่ที่กรุงเทพเพราะเขารู้ว่ากรุงเทพนั้นมีอาหารอร่อยที่เขาอยากไปกินซักครั้งหนึ่งในชีวิตนี้ของอร่อยที่เขาอยากกินนั้นก็มี  MK สุกี้ SisZler เสต็ก ชาบูชิ โออิชิ Hotpot เพื่อนนายเขียมที่เขาขึ้นไปทำงานที่กรุงเทพเขาก็เขียนจดหมายมาเล่าให้นายเขียมฟังบ่อยครั้งว่าได้ไปกินอาหารพวกนี้มายิ่งอะไรนะที่เขาเรียกว่า หมูกระทะ นายเขียมไม่รู้จักหรอกมันอร่อยยิ่งนัก ทำให้นายเขียมน้ำลายไหลชักอยากกินขึ้นมากระทันหัน อาการกระสันอยากกินทุกชั่วขณะเขาเลยตัดสินใจรบเร้าพ่อแม่ขอเงินเป็นค่าเดินทางมากรุงเทพเพื่อกินอาหารพวกนี้โดยเฉพาะ พ่อแม่ที่แสนจะใจดีในเมื่อลูกชายตัวดีมาอ้อนรบเร้าขอทุกวันก็ได้แต่บอกลูกชายว่า
"ลูกเอ้ย ถ้าเจ้าอยากไปกรุงเทพควรจะหาเงินด้วยน้ำพักน้ำแรงของเจ้า ไปเบิ่งกรุงเทพมันสิต้องเสียเงินหลายอยู่ ประหยัดๆบ้างสิลูกเอ้ย"
"เอาน่าพ่อแม่ ข้อยสิอยากไปกินเอ็มเค กี้กี้ อะไรนั่นละ และไหนจะโอชิ โอชิ อะไร และก็เนื้อย่างอะไร ซิสเหร่อ นั่นอยากกินเด้อ ทุกวันข้อยสิได้แต่กินปลาร้าแจ่วบอง น้ำพริกปลาจ่อม ข้อยสิอยากกินอะไรแปลกๆบ้าง" ลูกชายตัวดีบ่นและอ้อนวอนว่าหากได้ไปกินซักครั้งหนึ่งจะแบ่งมาให้พ่อแม่กินด้วย และจะเชื่อฟังพ่อแม่ทุกอย่างเลย ฝ่ายทางบิดามารดาเมื่อนายเขียมตั้งใจขนาดนั้นและทนโดนรบเร้าไม่ไหวจึงตัดสินใจไปหยิบกระเป่าสตางค์ใบขนาดกลางพร้อมกับหยิบตังค์มาให้นายเขียมไป 1000 บาท
"โอ้ยย มันสิพออีหยัง เห็นเกลอมันบอกว่า กินอะไรนะโอชิ โอชิ เอ็มเค้กี้กี้ นั่นเสียหลายอยู่ แม่นแล้ววววว" นายเขียมตัดสินใจแล้วรับเงินจากพ่อแม่ไปแล้วเดินกลับไปห้องนอน ใช่แล้ว เขาจะขายสมบัติที่มีอยู่ของเขา วัวควายของเขาที่เขามีอยู่เขาจะขายออกไปให้หมดเพื่อจะได้กินอะไรที่เพื่อนเขาบอกนั่นเอง ฝ่ายพ่อแม่พอรู้เรื่องว่าลูกชายตัวดีถึงกับจะขายสมบัตินั้นก็หนักใจและก็ยอมตามใจลูก พ่อกับแม่เลยเพิ่มเงินให้นายเขียม 30000 บาทเพื่อแลกกับไม่ต้องขายสมบัติ เงินเก็บของพ่อกับแม่ก็ให้นายเขียมเอาไปใช้กินเถอะ นายเขียมซึ้งในพระคุณน้ำใจของพ่อแม่มากเลยกราบลงที่เท้าท่านทั้งสองและบอกว่า
"ขอบพระคุณหลาย พ่อแม่ข้อยสิบ่ลืมพวกท่านเด้อ ข้อยสิจะเอามาฝากเด้อ"
วันรุ่งขึ้นนายเขียมเตรียมขึ้นรถทัวร์เดินทางไปสภาพอิดโรยเพราะอดหลับอดนอนเพราะเมื่อคืนมัวแต่จัดของเขาเอาของไปเยอะมากไม่รู้จะไปกินหรือย้ายบ้านกันแน่มีทั้งหม้อ ครก สาก เขียง มีด ปลาร้า ปลาเจ่า อีกสารพัด พร้อมยังตื่นเต้นที่จะได้ไปกรุงเทพพรุ่งนี้อีกต่างหากได้ไปกินของอร่อยเด็ดเมืองกรุงแล้ว พ่อแม่และคนทั้งหมู่บ้านต่างก็มาส่งนายเขียม
"โชคดีมีชัยเด้อออออ" พ่อเฒ่าหลวยกล่าวอวยพร
"เอาของกินเมืองกรุงมาฝากกันบ้างนะพี่เขียม" คำหล้าสาวอีสานรูปร่างกำลังดีเป็นคนรักของนายเขียมกล่าวออกมา นายเขียมกระโดขึ้นรถพร้อมโบกมือบ๋ายยบายยไปละเด้อออ
นายเขียมเอาที่อยู่ของเพื่อนแต่ละคนที่อยู่บนซองจดหมายตามหาตัวทีละคน ก็ไม่เจอเฮ้ออออ เขาจะนอนที่ไหนทำยังไง แตต่ก็ด้วยความโชดีหรือยังไงเขาไปเจอ จ่อย เพื่อนรักของเขาที่ปป้ายรถเมล์แห่งหนึ่ง ด้วยความดีใจที่ได้เจอกัน นายเขียมสวมกอดบักจ่อยเต็มรัก บักจ่อยนั้นถึงรู้ว่าเพื่อนมาจากอีสานบ้านนอกคอกนาแต่ตัวเขามาอยู่ในเมืองกรุงมานานแล้วเขาอายมากที่เพื่อนหอบหิ้วของพะรุงพะรังมา
"เอ็งมาได้ไงวะ บักเขียม เอ็งจะนอนไหน" บักจ่อยถาม
"บ้านเอ็งไงเพื่อน" บักเขียมตอบ
"เออ ไม่เกรงใจเลยนะแล้วมาอยู่นานแค่ไหนเนี่ย" บักจ่อยชักไม่พอใจที่นายเขียมไม่เกรงใจเขา
"บ่ฮู้สิ แล้วสูละทำงานที่ไหนละ"
"อย่าถามเลยไม่ต้องรู้หรอก ไปกินข้าวกันดีกว่าอยากกินอะไรเพื่อนเดี๋ยวข้าเลี้ยงเอง"บักจ่อยเสนออย่างมีน้ำใจ
"เออ งั้นก็ เอ็มเค้กี้กี้อะไรนั่นแหละ" ว่าแล้วทั้งคู่ก็ไปกินสุกี้MKกัน โดยที่บักจ่อยเป็นคนเลี้ยง
ข้างใน สุกี้MK ด้วยความที่บักเขียมไม่เคยมากินมาก่อนเลยตะโกนดังลั่นร้านจนเด็กเสิร์ฟหันมามองทั้งร้านและทำให้บักจ่อยอายจนแทบแทรกแผ่นดินหนีว่า
"โอ้ยยย มันสิใหญ่โตอะไรขนาดนี้ มีหม้อด้วยเอากลับบ้านได้มั้ยเนี่ย โห คนที่นี่เขารู้จักเอ็งหมดเลยหรือ" พูดจบพร้อมเดินไปที่โต๊ะข้างๆพร้อมบอกว่า
"โอ้ๆๆๆๆ ข้อยชื่อบักเขียมนะครับ ฝากดูแลเจ้าบักจ่อยมันด้วยเด้อออ มันมาเฮ็ดงานที่กรุงเทพพพ น่าหม่ำจัง ข้อยบ่เกรงใจแล้วเด้อ" พูดจบพร้อมเอาช้อนกลางที่อยู่ในถ้วยมาตักชามของคนอื่นมากินคำใหญ่ บักจ่อยเลยต้องลากเพื่อนออกไปเพราะบัดนี้หลายโต๊ะนั้นได้มองกิริยาของนายเขียมแบบไม่เป็นมิตรเพราะความขาดกาลเทศะและมารยาทของเขา ซึ่งนายเขียมนั้นคิดว่าคนกรุงเทพจะเหมือนคนในหมู่บ้านเขาที่มีน้ำใจไปไหนต้อนรับขับสู้และเรียกให้กินข้าวด้วยทุกครั้ง
พอลากออกมาจากร้านแล้ว นายจ่อยก็พูดกับนายเขียมว่า
"อย่าทำแบบนี้สิคนกรุงเทพเขาไม่ได้สนิทและรู้จักกันทุกคนเหมือนบ้านเรานะ จะกินอะไรละทีนี้"
"โอชิ โอชิ" นายเขียมตอบ
"เออได้ แต่อย่าทำแบบนั้นอีกนะที่นั่นเป็นภัตตาคารต้องสุภาพและเกรงใจเขาด้วยถ้าจะกินอะไรทำอะไรทำตามข้านะ" นายเขียมพยักหน้ารับ
และคนทั้งสองก็เดินทางไปกินโออิชิอาหารญี่ปุ่นกัน ทันใดพอนายเขียมเข้าไปในข้างในร้านแล้วนายเขียมอุทานออกมาว่า
"โอโหหหห มันสิใหญ่โตไปจังใด๋" พูดจบก็วิ่งปรู๊ดไปโซนปลาดิบ มีปลาแซลม่อน และปลาดิบหลากหลายวางเรียงกัน ไม่ทันที่พนักงานจะพูดถามว่าได้โต๊ะหรือยังหรือยังไงนายเขียมวิ่งไปตรงปลาแซลม่อนและบอกว่า
"โหหห ก้อยปลาเด้อ" นายเขียมนั่งลงตรงโซนปลาดิบหยิบเอาครกออกมาเอาปลาดิบในถาดนั้นเทลงไปในครกและเอาปลาร้าปลาเจ่าออกำมาตำตรงนั้น บักจ่อยเห็นแล้วก็รีบลากนายเขียมออกไปทันที คราวนี้นายจ่อยไม่พูดมากแล้วพานายเขียมไปส่งบ้านของนายจ่อยทันทีและกำชับว่า
"เอ็งนั่งอยู่บ้านนี่แหละ จะกินอะไรข้าจะซื้อมาให้กินเอง อย่าเดินเพ่นพ่านไปไหนอีกละ" กำชับเสร็จนายจ่อยก็ออกจากบ้านพร้อมล๊อกบ้านกันนายเขียมหนีอีกต่างหากพร้อมเก็บกุญแจไว้กับตัว เพราะเป็นการล๊อกจากข้างนอกบ้านนายเขียมหมดสิทธิ์หนีแล้วละ นายเขียมสลดพร้อมน้อยอกน้อยใจมากว่าทำไมบักจ่อยไร้น้ำใจก็เขาแค่อยากจะตำปลาร้าให้พวกข้างในโอชิกินกันทั้งทีเพราะมีปลาดิบดิบอยู่ แหม จากความน้อยใจเป้นความแค้นนายเขียมตัดสินใจดังนี้ เขาจะทำน้ำพริก น้ำพริกของเขาจะทำให้บักจ่อยไม่ลืมไปจนชั่วชีวิต หึหึ เตรียมส่วนผสมกันหรือยังครับ
ว่ากันถึงน้ำพริกที่อร่อยที่สุดคงไม่พ้นน้ำพริกกะปิ  ชะอม ปลาทูทอด ใช่มั้ยครับ กินกับข้าวสวยร้อนๆอร่อยเหาะไปเลย
นายเขียมเลยเตรียมส่วนผสมของเขา อันดับแรกเขารอให้บักจ่อยกลับมาก่อน นายเขียมเอาน้ำเย็นใส่ยานอนหลับไปเม็ดหนึ่ง
พอบักจ่อยกลับมานายเขียมรีบเอาน้ำเย็นใส่ยานอนหลับให้บักจ่อยดื่ม บักจ่อยพอรู้ว่าเพื่อนมีน้ำใจก็ไม่ปฏิเสธดื่มน้ำจนหมดแก้วซักพักเขาก็หลับไป บักจ่อยตื่นมาอีกทีตัวเขาถูกมัดกับเก้าอี้ไว้แล้วเขานั่งอยู่ในครัว
"เฮ้ยย เขียมเอ้งจะทำอะไรข้า ปล่อยข้านะปล่อยยย" บักจ่อยร้องออกมาแต่ไม่ทันแล้วบักเขียมหัวเราะหึหึแล้วบอกว่า
"รอกินน้ำพริกกะปิฝีมือข้านะเว้ย จ่อย" ว่าแล้วเขาเตรียมปรุงน้ำพริกสุดวิเศษให้บักจ่อยกิน
ส่วนผสมของน้ำพริกกะปิสูตรนายเขียม เขาเอาครกตั้งไว้ใส่เครื่องดังนี้
กะปิ นายเขียมไม่เอากะปิใส่แต่เอาอุนจิของ เจ้าโบ้หมาของบักจ่อยใส่แทน
กุ้งแห้ง นายเขียมเอาซากจิ้งจกแห้งๆที่ตายแล้วใส่ลงไปแทน
พริก นายเขียมไม่ใส่
น้ำปลา นายเขียมเทปลาร้าลงไปแทนทั้งตัว
มะนาว นายเขียมสั่งขี้มูกเหนียวๆลงไปแทนขี้มูกเป็นก้อนและน้ำลงไปในน้ำพริก
น้ำตาล นายเขียมเอาฉี่ของเจ้าโบ้ใส่ลงไปแทน
แมงดา ถ้าอร่อยต้องใส่แมงดาลงไปด้วยนายเขียมเอาซากของแมลงสาปภายในบ้าน2-3ตัวใส่ลงไปแทนแมงดาเพื่อความหอม พอได้เห็นภาพและกลิ่นนั้น บักจ่อยอ้วกออกมา นายเขียมเลยตักอ้วกนายจ่อยใส่เข้าไปด้วยเพิ่มรสชาติของความอร่อย ว่าแล้วนายเขียมก็ตำๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เข้าไปพอตำเสร็จแล้วนายเขียมก็ตักน้ำพริกนี้เข้าปากบักจ่อยทันที
"กินซะนะ อร่อยมั้ยเพื่อนรัก" คำแรกที่เข้าไปในปากบักจ่อยสัมผัสถึงรสของปลาร้าและอุนจิของเจ้าโบ้ฉี่ของเจ้าโบ้รวมทั้งมีเสียงกรุบๆด้วยมันคือเศษของซากแมลงสาปตัวใหญ่และซากจิ้งจกเข้าไปพร้อมกันว่าแล้วบักจ่อยอ้วกออกมานายเขียมยิ่งโกรธเลยจับน้ำพริกใส่ปากบักจ่อยทันที
"กินสิ เพื่อนทำให้กินนะ" บักจ่อยโดนจับยัดน้ำพริกเข้าไปไม่ไหวเลยพุ่งออกมาทั้งหมด เศษซากแมลงสาปและจิ้งจกเต็มบ้านไปหมด บ้านเหม็นคลุ้งไปกับอุนจิและปลาร้าและฉี่หมา บักจ่อยสลบลงไปแล้วนายเขียมเลยเอามีดถือมาตรงบักจ่อย ภาพตัดไปที่เงาบนผนัง ภาพเงาของบักจ่อยนั้นถูกนายเขียมเอามีดแทงเข้าไปเลือดสาดลงบนผนัง

จบแล้วครับ สยองขวัญนิดหนึ่ง อาจจะตลกช่วงแรกช่วงหลังน่ากลัวดีครับ เป็นไงบ้างครับกับ น้ำพริกสูตรนี้ ลองซักถ้วยมั้ยครับคุณผู้อ่าน บอกแล้วเรื่องน่ากลัวขออภัยสำหรับคนกินข้าวไปแล้ว ขอขอบคุณครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่