สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 6
เซลล์มะเร็งก็เหมือนเซลล์เราเป๊ะๆครับคือชอบออกซิเจนที่เหมาะสม ชอบความเป็นกรดด่างที่เหมาะสม ผิดเพี้ยนไปมันก็โตไม่ดีเช่นเดียวกับเซลล์ปกติของเราเองครับ
1. น้ำตาล เช่น น้ำตาลทรายขาว โดยใช้น้ำตาลจากธรรมชาติแทน เช่น น้ำผึ้ง แต่ต้องใช้ในปริมาณที่น้อยมาก เกลือ มีสารจำเป็นที่เซลล์มะเร็งนำไปใช้ ควรงด หรือในปริมาณน้อย
เซลล์มะเร็งและเซลล์ปกติก็ใช้น้ำตาลเป็นพลังงานหลัก ถึงไม่กินน้ำตาลแต่ถ้ากินแป้ง ผัก พืช หรืออาหารมากมายก็มีแป้งที่สามารถเปลี่ยนเป็นน้ำตาลได้อยู่ดี คนเป็นมะเร็งมักเบื่ออาหาร กินอาหารได้พลังงานไม่พอยิ่งไปคุมยิ่งกินได้น้อยยิ่งอ่อนเพลีย โดยที่มะเร็งไม่ได้หยุดโต
2. นมจากสัตว์ ดื่มมากไปก็ไม่ดี
น้ำเปล่าดื่มมากไปก็ไม่ดีครับ อย่าไปคิดอะไรมาก
3. เซลล์มะเร็ง เจริญเติบโตในสภาพที่เป็นกรด การบริโภคเนื้อสัตว์ทำให้เกิดสภาพเป็นกรด ควรรับประทานอาหารประเภทปลา ดีกว่าหมู เนื้อ และเนื้อสัตว์ มีแบคทีเรีย ใช้โฮโมนในการเจริญเติบโตปนเปื้อน ที่เป็นอันตรายต่อคนไข้ที่เป็นมะเร็ง
มะเร็งมันเจริญได้ดีกว่าในสภาพปรกติ อย่างไรก็ตามสภาพแวดล้อมมันเป็นกรดเพราะมันโตไวมากจนระบบกำจัดของเสียมันไม่ดีพอเซลล์ส่วนหนึ่งจึงต้องจำยอมโตในสภาพเป็นกรด
และ
เนื้อปลาก็ไม่ได้ดีไปกว่าเนื้อหมู ไก่
4. 80% ของผักและนำผลไม้สด ถั่วเมล็ดแห้ง ธัญพืช จะช่วยให้ร่างกายมีสภาพเป็นด่าง 20% จากอาหารที่ปรุงแล้ว น้ำผักและผลไม้สด จะให้เอนไซม์ที่ง่ายต่อการดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย เพื่อไปเสริมสร้างความแข็งแรงให้เซลล์ที่ดี ดังนั้นควรดื่มน้ำผักสด และกินผักดิบ 2-3 ครั้งต่อวัน
หากร่างกายเป็นด่างมากๆทั้งคนและมะเร็งก็ตายครับ การกินอาหารไม่พอเพียงที่จะทำให้ร่างกายเป็นด่างมากกว่าปกติเพราะร่างกายเราเองนี่แหละที่ไม่ยอมมีการปรับให้มันคงที่เพื่อประโยชน์ของร่างกายเราเอง
5. หลีกเลี่ยงชา กาแฟ ช็อกโกแลต ที่มีคาเฟอีนที่สูง เป็นดื่มชาเขียวที่มี สารต้านมะเร็ง
ดื่มน้ำสะอาด หรือน้ำกรองดีที่สุด หลีกเลี่ยงน้ำประปา และเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ที่มีสภาพเป็นกรด
อยากทำอะไรก็ทำครับ
6. เนื้อสัตว์ ย่อยยาก และต้องการเอนไซม์ในการย่อยเป็นจำนวนมาก และเนื้อที่ย่อยไม่หมด จะคงตกค้างอยู่ในลำไส้ อันนำไปสู่สารพิษตกค้าง
เนื้อสัตว์ย่อยได้ดี ร่างกายเราไม่ปล่อยไว้หรอก และหากย่อยไม่หมดก็ยังมีแบคทีเรียช่วยกิน ทีเหลือก็ถ่ายออกมาหมด
7. เซลล์มะเร็ง มีโปรตีนที่ยากแก่การทำลายเป็นเกราะป้องกัน การบริโภคเนื้อสัตว์น้อยลง จะทำให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายไปทำลายเซลล์มะเร็งได้ง่ายขึ้น
แล้วภูมิคุ้มกันของร่างกายเราใช้อะไรกำจัดมะเร็ง คำตอบก็คือโปรตีน กินเนื้อสัตว์น้อยลง ภูมิคุ้มกันลดลง เอวัง
8. อาหารเสริมบางอย่างช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับระบบภูมิคุ้มกัน เพื่อไปทำลายเซลล์มะเร็ง เช่น วิตามินอี วิตามินซี
หากไม่ได้ขาดก็ไม่ได้มีประโยชน์อะไร คุณไม่สามารถเสริมในส่วนที่ไม่ได้ขาดได้ครับ
9. เซลล์มะเร็ง เป็นเชื้อโรคของจิตใจ ร่างกาย และจิตวิญญาณ การควบคุมอารมณ์ และมองโลกในแง่ดีจะช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันดีขึ้น อารมณ์โกรธ หรือความเครียดจะสร้างสภาพความเป็นกรดให้ร่างกาย ควรเรียนรู้ที่จะรัก และให้อภัย พักผ่อนและสนุกกับการใช้ชีวิต
ข้อปฏิบัตินี้ดีแม้เหตุผลจะไม่ถูกต้อง
10. เซลล์มะเร็งไม่สามารถเจริญเติบโตในที่มีออกซิเจนได้ การออกกำลังกายทุกวัน และหายใจเข้าลึกลึก จะช่วยเพิ่มระดับ ออกซิเจนในเซลล์ การบำบัดด้วยออกซิเจนก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่จะทำลายเซลล์มะเร็ง
อันที่จริงทั้งสองเซลล์ก็ต้องการในปริมาณที่เหมาะสมครับ
1. น้ำตาล เช่น น้ำตาลทรายขาว โดยใช้น้ำตาลจากธรรมชาติแทน เช่น น้ำผึ้ง แต่ต้องใช้ในปริมาณที่น้อยมาก เกลือ มีสารจำเป็นที่เซลล์มะเร็งนำไปใช้ ควรงด หรือในปริมาณน้อย
เซลล์มะเร็งและเซลล์ปกติก็ใช้น้ำตาลเป็นพลังงานหลัก ถึงไม่กินน้ำตาลแต่ถ้ากินแป้ง ผัก พืช หรืออาหารมากมายก็มีแป้งที่สามารถเปลี่ยนเป็นน้ำตาลได้อยู่ดี คนเป็นมะเร็งมักเบื่ออาหาร กินอาหารได้พลังงานไม่พอยิ่งไปคุมยิ่งกินได้น้อยยิ่งอ่อนเพลีย โดยที่มะเร็งไม่ได้หยุดโต
2. นมจากสัตว์ ดื่มมากไปก็ไม่ดี
น้ำเปล่าดื่มมากไปก็ไม่ดีครับ อย่าไปคิดอะไรมาก
3. เซลล์มะเร็ง เจริญเติบโตในสภาพที่เป็นกรด การบริโภคเนื้อสัตว์ทำให้เกิดสภาพเป็นกรด ควรรับประทานอาหารประเภทปลา ดีกว่าหมู เนื้อ และเนื้อสัตว์ มีแบคทีเรีย ใช้โฮโมนในการเจริญเติบโตปนเปื้อน ที่เป็นอันตรายต่อคนไข้ที่เป็นมะเร็ง
มะเร็งมันเจริญได้ดีกว่าในสภาพปรกติ อย่างไรก็ตามสภาพแวดล้อมมันเป็นกรดเพราะมันโตไวมากจนระบบกำจัดของเสียมันไม่ดีพอเซลล์ส่วนหนึ่งจึงต้องจำยอมโตในสภาพเป็นกรด
และ
เนื้อปลาก็ไม่ได้ดีไปกว่าเนื้อหมู ไก่
4. 80% ของผักและนำผลไม้สด ถั่วเมล็ดแห้ง ธัญพืช จะช่วยให้ร่างกายมีสภาพเป็นด่าง 20% จากอาหารที่ปรุงแล้ว น้ำผักและผลไม้สด จะให้เอนไซม์ที่ง่ายต่อการดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย เพื่อไปเสริมสร้างความแข็งแรงให้เซลล์ที่ดี ดังนั้นควรดื่มน้ำผักสด และกินผักดิบ 2-3 ครั้งต่อวัน
หากร่างกายเป็นด่างมากๆทั้งคนและมะเร็งก็ตายครับ การกินอาหารไม่พอเพียงที่จะทำให้ร่างกายเป็นด่างมากกว่าปกติเพราะร่างกายเราเองนี่แหละที่ไม่ยอมมีการปรับให้มันคงที่เพื่อประโยชน์ของร่างกายเราเอง
5. หลีกเลี่ยงชา กาแฟ ช็อกโกแลต ที่มีคาเฟอีนที่สูง เป็นดื่มชาเขียวที่มี สารต้านมะเร็ง
ดื่มน้ำสะอาด หรือน้ำกรองดีที่สุด หลีกเลี่ยงน้ำประปา และเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ที่มีสภาพเป็นกรด
อยากทำอะไรก็ทำครับ
6. เนื้อสัตว์ ย่อยยาก และต้องการเอนไซม์ในการย่อยเป็นจำนวนมาก และเนื้อที่ย่อยไม่หมด จะคงตกค้างอยู่ในลำไส้ อันนำไปสู่สารพิษตกค้าง
เนื้อสัตว์ย่อยได้ดี ร่างกายเราไม่ปล่อยไว้หรอก และหากย่อยไม่หมดก็ยังมีแบคทีเรียช่วยกิน ทีเหลือก็ถ่ายออกมาหมด
7. เซลล์มะเร็ง มีโปรตีนที่ยากแก่การทำลายเป็นเกราะป้องกัน การบริโภคเนื้อสัตว์น้อยลง จะทำให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายไปทำลายเซลล์มะเร็งได้ง่ายขึ้น
แล้วภูมิคุ้มกันของร่างกายเราใช้อะไรกำจัดมะเร็ง คำตอบก็คือโปรตีน กินเนื้อสัตว์น้อยลง ภูมิคุ้มกันลดลง เอวัง
8. อาหารเสริมบางอย่างช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับระบบภูมิคุ้มกัน เพื่อไปทำลายเซลล์มะเร็ง เช่น วิตามินอี วิตามินซี
หากไม่ได้ขาดก็ไม่ได้มีประโยชน์อะไร คุณไม่สามารถเสริมในส่วนที่ไม่ได้ขาดได้ครับ
9. เซลล์มะเร็ง เป็นเชื้อโรคของจิตใจ ร่างกาย และจิตวิญญาณ การควบคุมอารมณ์ และมองโลกในแง่ดีจะช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันดีขึ้น อารมณ์โกรธ หรือความเครียดจะสร้างสภาพความเป็นกรดให้ร่างกาย ควรเรียนรู้ที่จะรัก และให้อภัย พักผ่อนและสนุกกับการใช้ชีวิต
ข้อปฏิบัตินี้ดีแม้เหตุผลจะไม่ถูกต้อง
10. เซลล์มะเร็งไม่สามารถเจริญเติบโตในที่มีออกซิเจนได้ การออกกำลังกายทุกวัน และหายใจเข้าลึกลึก จะช่วยเพิ่มระดับ ออกซิเจนในเซลล์ การบำบัดด้วยออกซิเจนก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่จะทำลายเซลล์มะเร็ง
อันที่จริงทั้งสองเซลล์ก็ต้องการในปริมาณที่เหมาะสมครับ
ยกพลขึ้นบก ถูกใจ, ren-ou ถูกใจ, xx SlipNOTE Kevin Theater xx ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 700359 ถูกใจ, Apidew ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 823288 ถูกใจ, Animator's ART ถูกใจ, สุกรสยาม ถูกใจ, minafiba ถูกใจ, nutcs ถูกใจรวมถึงอีก 6 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
แสดงความคิดเห็น
สงสัย เซลล์มะเร็งเจริญเติบโตในสภาพที่เป็นกรด การกินเนื้อสัตว์ทำให้เกิดสภาพเป็นกรดแล้วถ้าของเปรี้ยวจะเกิดกรดด้วยไหม
สงสัยว่า เมื่อเซลล์มะเร็งเจริญเติบโตในสภาพที่เป็นกรด การบริโภคเนื้อสัตว์ทำให้เกิดสภาพเป็นกรด
แล้วอย่างเราที่เรากินผลไม้หรือผักที่มีรสเปรี้ยว หรือ vit C นั้น ทำให้เซลล์มะเร็งเจริญเติบโตด้วยหรือป่าวคะ?? อิอิ เพราะกรดเหมือนกัน
.......ขอบคุณคะ
จากเว็บนี้คะ http://www.moe.go.th/moe/th/blog/view-blog.php?memberid=1626&blogid=964
สารอาหารที่เซลล์มะเร็งต้องการ....
1. น้ำตาล เช่น น้ำตาลทรายขาว โดยใช้น้ำตาลจากธรรมชาติแทน เช่น น้ำผึ้ง แต่ต้องใช้ในปริมาณที่น้อยมาก เกลือ มีสารจำเป็นที่เซลล์มะเร็งนำไปใช้ ควรงด หรือในปริมาณน้อย
2. นมจากสัตว์ ดื่มมากไปก็ไม่ดี
3. เซลล์มะเร็ง เจริญเติบโตในสภาพที่เป็นกรด การบริโภคเนื้อสัตว์ทำให้เกิดสภาพเป็นกรด ควรรับประทานอาหารประเภทปลา ดีกว่าหมู เนื้อ และเนื้อสัตว์ มีแบคทีเรีย ใช้โฮโมนในการเจริญเติบโตปนเปื้อน ที่เป็นอันตรายต่อคนไข้ที่เป็นมะเร็ง
4. 80% ของผักและนำผลไม้สด ถั่วเมล็ดแห้ง ธัญพืช จะช่วยให้ร่างกายมีสภาพเป็นด่าง 20% จากอาหารที่ปรุงแล้ว น้ำผักและผลไม้สด จะให้เอนไซม์ที่ง่ายต่อการดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย เพื่อไปเสริมสร้างความแข็งแรงให้เซลล์ที่ดี ดังนั้นควรดื่มน้ำผักสด และกินผักดิบ 2-3 ครั้งต่อวัน
5. หลีกเลี่ยงชา กาแฟ ช็อกโกแลต ที่มีคาเฟอีนที่สูง เป็นดื่มชาเขียวที่มี สารต้านมะเร็ง
ดื่มน้ำสะอาด หรือน้ำกรองดีที่สุด หลีกเลี่ยงน้ำประปา และเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ที่มีสภาพเป็นกรด
6. เนื้อสัตว์ ย่อยยาก และต้องการเอนไซม์ในการย่อยเป็นจำนวนมาก และเนื้อที่ย่อยไม่หมด จะคงตกค้างอยู่ในลำไส้ อันนำไปสู่สารพิษตกค้าง
7. เซลล์มะเร็ง มีโปรตีนที่ยากแก่การทำลายเป็นเกราะป้องกัน การบริโภคเนื้อสัตว์น้อยลง จะทำให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายไปทำลายเซลล์มะเร็งได้ง่ายขึ้น
8. อาหารเสริมบางอย่างช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับระบบภูมิคุ้มกัน เพื่อไปทำลายเซลล์มะเร็ง เช่น วิตามินอี วิตามินซี
9. เซลล์มะเร็ง เป็นเชื้อโรคของจิตใจ ร่างกาย และจิตวิญญาณ การควบคุมอารมณ์ และมองโลกในแง่ดีจะช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันดีขึ้น อารมณ์โกรธ หรือความเครียดจะสร้างสภาพความเป็นกรดให้ร่างกาย ควรเรียนรู้ที่จะรัก และให้อภัย พักผ่อนและสนุกกับการใช้ชีวิต
10. เซลล์มะเร็งไม่สามารถเจริญเติบโตในที่มีออกซิเจนได้ การออกกำลังกายทุกวัน และหายใจเข้าลึกลึก จะช่วยเพิ่มระดับ ออกซิเจนในเซลล์ การบำบัดด้วยออกซิเจนก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่จะทำลายเซลล์มะเร็ง
Credit : หมอ สารภี