วันที่ 21 สิงหานี้ เราจะไปส่องกล้องลำไส้ใหญ่ (COLONOSCOPE) แล้วทาง ร.พ. ระบุว่า "มีญาติมาด้วยทุกครั้งที่รับการตรวจ"
มันทำให้เราต้องหาญาติ ตอนแรกขอร้องเพื่อนไว้ แต่พอเห็นขั้นตอนการเตรียมตัวแล้ว เพื่อนคงไม่สะดวก เกรงใจพวกมัน
เพราะเราต้องดื่มแต่ของเหลว ดื่มน้ำผสมยา Niflec ให้ถ่าย แล้วก็มีให้สวนทวารเองด้วย FLEET ENEMA ล่วงหน้าก่อนไป ร.พ.
แล้ว ร.พ. กับบ้านก็ไกล๊ไกล หมอนัด 08:00 นั่นหมายความว่า เราต้องออกจากบ้าน 06:30 เป็นอย่างช้า
ที่สำคัญ เราเกรงว่า ถ้าให้เพื่อนมารับ ถ้ารถติดบนทางด่วน เราอาจทำรถเพื่อนเลอะเทอะได้ (ตอนนี้เตรียมผ้าอ้อมผู้ใหญ่ไว้แล้ว กรณีฉุกเฉิน)
คิดๆ ดูแล้ว ก็เลยโทรไปขอร้อง "พี่ชายต่างบิดา" ให้มารับ มาเป็นญาติ และช่วยพากลับบ้านให้หน่อย ซึ่งพี่ชายก็โอเค
(ย้อนกลับไปเมื่อ 8 ปีที่แล้ว เราไปกลืนกล้องที่ ร.พ. เพื่อตรวจดูหูรูดกระเพาะ พี่เราก็เบี้ยวไม่ยอมมารับ อ้างติดงาน ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านัดกันอย่างดิบดี เราต้องโทรเรียกเพื่อนให้มารับ และพาส่งบ้าน ครั้งนี้ก็ออกแนวระแวงๆ เลยโทรไปบอกแม่ให้ช่วยย้ำกับพี่ให้ที ว่าครั้งนี้ไม่เหมือนครั้งนั้นนะ งวดนี้น้องต้องอดข้าว ต้องทำความสะอาดลำไส้ น้องจะไม่มีแรง แล้วส่องกล้องลำไส้ใหญ่ อาจมีการวางยาให้คนไข้ช่วงสั้นๆ น้องทำเสร็จแล้วอาจเบลอๆ ได้)
วันนี้เราไปหาแม่เพื่อรับน้ำซุปสำหรับดื่มช่วงที่ต้องล้างลำไส้ ก่อนกลับแม่ก็ถามเราว่า "ที่ให้พี่ไปรับ หนูจะให้แม่จ่าย หรือหนูจะจ่ายเอง"
(จริงๆ เราตั้งใจจะให้เงินพี่เค้าอยู่แล้วนะ เพราะว่าพี่เค้าขับรถเกียร์ออโต้ของเราไม่ได้ เค้าจะใช้รถเค้าเอง เราก็ตั้งใจช่วยค่าน้ำมันอยู่แล้ว)
เราอึ้งไป 10 วินาที ก่อนหันไปหาแม่ว่า "เดี๋ยวหนูจ่ายเอง หนึ่งพันบาทพอไหม?" แม่บอกว่า "เอาแค่ห้าร้อยก็พอ"
เรารู้สึกอึดอัด ... เราไม่ได้ขอร้องพร่ำเพรื่อ เราดูแล้วว่า เราไป ร.พ. คนเดียวไม่ได้จริงๆ ... เราเป็นคนป่วย ... ทำไมต้องมาย้ำเรื่อง "ค่าตอบแทน" ... และความอึดอัดนั้น มันก็แปรเปลี่ยนเป็น "ความเสียใจ" ในขณะนี้
จะจ่ายเอง หรือจะให้แม่จ่าย
มันทำให้เราต้องหาญาติ ตอนแรกขอร้องเพื่อนไว้ แต่พอเห็นขั้นตอนการเตรียมตัวแล้ว เพื่อนคงไม่สะดวก เกรงใจพวกมัน
เพราะเราต้องดื่มแต่ของเหลว ดื่มน้ำผสมยา Niflec ให้ถ่าย แล้วก็มีให้สวนทวารเองด้วย FLEET ENEMA ล่วงหน้าก่อนไป ร.พ.
แล้ว ร.พ. กับบ้านก็ไกล๊ไกล หมอนัด 08:00 นั่นหมายความว่า เราต้องออกจากบ้าน 06:30 เป็นอย่างช้า
ที่สำคัญ เราเกรงว่า ถ้าให้เพื่อนมารับ ถ้ารถติดบนทางด่วน เราอาจทำรถเพื่อนเลอะเทอะได้ (ตอนนี้เตรียมผ้าอ้อมผู้ใหญ่ไว้แล้ว กรณีฉุกเฉิน)
คิดๆ ดูแล้ว ก็เลยโทรไปขอร้อง "พี่ชายต่างบิดา" ให้มารับ มาเป็นญาติ และช่วยพากลับบ้านให้หน่อย ซึ่งพี่ชายก็โอเค
(ย้อนกลับไปเมื่อ 8 ปีที่แล้ว เราไปกลืนกล้องที่ ร.พ. เพื่อตรวจดูหูรูดกระเพาะ พี่เราก็เบี้ยวไม่ยอมมารับ อ้างติดงาน ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านัดกันอย่างดิบดี เราต้องโทรเรียกเพื่อนให้มารับ และพาส่งบ้าน ครั้งนี้ก็ออกแนวระแวงๆ เลยโทรไปบอกแม่ให้ช่วยย้ำกับพี่ให้ที ว่าครั้งนี้ไม่เหมือนครั้งนั้นนะ งวดนี้น้องต้องอดข้าว ต้องทำความสะอาดลำไส้ น้องจะไม่มีแรง แล้วส่องกล้องลำไส้ใหญ่ อาจมีการวางยาให้คนไข้ช่วงสั้นๆ น้องทำเสร็จแล้วอาจเบลอๆ ได้)
วันนี้เราไปหาแม่เพื่อรับน้ำซุปสำหรับดื่มช่วงที่ต้องล้างลำไส้ ก่อนกลับแม่ก็ถามเราว่า "ที่ให้พี่ไปรับ หนูจะให้แม่จ่าย หรือหนูจะจ่ายเอง"
(จริงๆ เราตั้งใจจะให้เงินพี่เค้าอยู่แล้วนะ เพราะว่าพี่เค้าขับรถเกียร์ออโต้ของเราไม่ได้ เค้าจะใช้รถเค้าเอง เราก็ตั้งใจช่วยค่าน้ำมันอยู่แล้ว)
เราอึ้งไป 10 วินาที ก่อนหันไปหาแม่ว่า "เดี๋ยวหนูจ่ายเอง หนึ่งพันบาทพอไหม?" แม่บอกว่า "เอาแค่ห้าร้อยก็พอ"
เรารู้สึกอึดอัด ... เราไม่ได้ขอร้องพร่ำเพรื่อ เราดูแล้วว่า เราไป ร.พ. คนเดียวไม่ได้จริงๆ ... เราเป็นคนป่วย ... ทำไมต้องมาย้ำเรื่อง "ค่าตอบแทน" ... และความอึดอัดนั้น มันก็แปรเปลี่ยนเป็น "ความเสียใจ" ในขณะนี้