ตีแผ่กลโกงธุรกิจจัดหาคู่

กระทู้คำถาม
สวัสดีนะครับ ผมชื่อบอยครับ(สมมตินะจ้ะ) ตอนนี้รู้สึกว่าบริษัทจัดหาคู่เริ่มบูมจริงๆเนอะ ลูกค้าหลายคนก็เข้าไปใช้กันเยอะ อาจจะเพราะว่าการที่คนเราเริ่มใช้เวลากับงานมากขึ้น คุยกันน้อยลงละมั้ง
                 
                 เมื่อราวๆเดือนก่อนผมได้มีโอกาสเข้าไปใช้บริการจัดหาคู่ในตัวเมื่อกรุงเทพครับ ก่อนหน้านี้ก็ทำการบ้านมาบ้าง เซริจมาบ้าง บริษัทที่คิดว่าอยากจะเข้าไปใช้บริการจริงๆ กลับปิดตัวไปแล้ว ชื่อไทยของบริษัทก็คงราวๆ "โชคชะตาแหงๆ" ซึ่งผมเคยได้ยินมาว่าบริษัทนี้จะไม่เก็บเงินจนกว่าทั้งสองฝ่ายจะทำการยื่นยันว่าจะไปเดทกัน ซึ่งผมเองนั้นก็เสียดายอย่างมาก เพราะคิดว่าเป็นบริษัทที่แฟร์ที่สุดแล้ว

                 ไหนๆมาถึง กทม แล้ว ไม่ไปใช้บริการเลยก็ไงๆอยู่ ผมก็เลยติดต่อไปอีกสองบริษัทที่เหลือ ผมก็เลยตัดสินใจว่า เฮ้ย เอาละ ใช้บริการบริษัทหนึ่งในสอง บริษัทนี้แหละ

                  เริ่มจากการโทรไปนัดวันสัมภาษณ์กับแม่สื่อ เครียมเอกสารเช่น สลิปเงินเดือน ทรานสคริปการศึกษา สำเนาทะเบียนบ้าน สำเนาบัตรประชาชน วันแรกเลยที่เดินทางไปออฟฟิตนี่ผมเตรียมตัวอย่างดีมาก แต่งตัวดีไปสุดๆๆ

ผม {ดีครับ ผมบอยที่นัดเอาไว้นะครับ }
แม่สื่อ{ โอ้ว ดีค่า (ส่งสายตาวาบวามสุดๆ) เข้ามาในห้องก่อนนะ }
.................
ผมส่งเอกสารให้เขาไปตรวจสอบ แล้วก็รอข้อสอบอะไรสักอย่างที่จะให้ผมทำ จากนั้นรออยู่ในห้องก็ได้เห็นหนังสือที่เจ้าของบริษัทเขียนแล้วโคตรเสียวสันหลัง ให้ความรู้สึกแนว feminist ซ้ำรัก ประสบการณ์สูงมั่กๆ
...............

แม่สื่อ{ โฮะๆๆ รอนานอ่ะป่าวค้า ( แม่สื่อเดินเข้ามาพร้อมแฟ้มอะไรสักอย่างหนาพอๆกับสมุดหน้าเหลือง }
ผม (เคาะประตูก่อนได้ไม่คับ ผมสะดุ้งไปแล้วสิบจังหวะตอนแอบถ่ายห้องสัมภาษณ์) {ก็แฮะๆ คือผมอยากถามว่าวันนี้ต้องถ่ายวีดีโอด้วยหรอ}
แม่สื่อ{ก็ถ้าไม่อายกล้องก็ถ่ายได้เลยไง เดี๋ยวถ่ายรอบๆนี้เลยไม๊ } ( เฮ้ย ในออฟฟิตมึดๆเนี่ยนะ)

..........................เวลาฝ่ายไป ผมเขียนข้อสอบขยุกขยิกแล้วก็ตรัสรู้ปรินิพพานได้ว่า ข้อสอบที่ทำมันไม่ได้วัดอะไรเลยนี่หว่า aptitude test ที่ทำตอนเข้าทำงานยังเจาะลึกกว่านี้อีก งี้มันเป็นการจับคู่โดยอคติของแม่สื่อเท่านั้น......หรอ............

ผม{ เอ่อ พี่ครับ คือ ผมขอลองเดทสักสองสามเดทก่อนได้ไหม }
แม่สื่อ{ ได้ค่ะ ขอแนะนำคอรสนี้ xxxxx บาท นะคะ ดูรูปได้xxxxx ระยะเวลา xxxxx เดือน}
ผม( เหวอรับประทาน เฮ้ยมันแพงขนาดนี้ ไปจีบสาวบอร์ดปาลมดีกว่าไหม ) {พี่ครับ คือถ้าผมอยากดูรูปตลอดต้องทำไงครับ }
แม่สื่อ { งั้นโอเคค่ะ แนะนำคอรสดูรูปไม่จำกัดเลยค่า ราคา XXXXXX } ( ราคาเพิ่มขึ้นอีกเกือบเท่าตัว แถมเป็นการบังคับให้เดทด้วยจำนวนที่มากขึ้น)
ผม {เอ่อ สมมติว่าถ้าคู่เดทรู้สึกว่าโอเคแล้ว ทำไงต่อหรอครับ } (เอาง่ายๆนะ สมมติเดทกันไปแล้วถ้าสาวหรือหนุ่มที่คุณชอบซื้อเดทไปหกครั้ง ถูกใจและล็อคไว้ที่สาวคนที่สาม แต่เสียดายเดทอีกสามครั้งที่ไม่ได้ใช้ละ จะเป็นไง)
แม่สื่อ{ถ้าทั้งคู่โอเคก็ฟรีซโปรไฟล์ไว้ได้เลยค่ะ หรือ จะเดทไปเรื่อยๆ จนหมด แพคเกจเลยก็ได้}

อ้าว เฮ้ย งี้สมมติถ้าเราถูกเอาไปจับคู่กับคนที่มีตัวเลือกในใจไว้แล้วแต่แค่อยากลองเดทให้ครบๆไปละ .......... มันเงินของเรานะเฟ้ย เอาไปซื้อ iphone 5 ทัวรเกาหลีได้เลยนะเฟ้ย แล้วถ้าคู่เดทของเราทุกคนเป็นแบบนี้ คือ มีคนล็อกคนที่ถูกใจอยู่แล้ว แต่อยากใช้โควต้าให้ครบไปซะทุกคนละ

.....................
ผม{ พี่ครับ ที่นี้อนุญาตให้ดูโปรไฟล์ก่อนป่าวครับ }
แม่สื่อ { เราไม่อนุญาติให้ดูโปรไฟล์ค่ะ แม่สื่อจะทำการเลือกและส่งไปให้ดูที่ละคน หลังจากที่คุณจ่ายตังแล้วเท่านั้น }
ผม ( เฮ้ย  ผมไม่รู้ว่าคุณมีฐานข้อมูลมากขนาดไหน อยู่ในกลุ่มที่ผมสนใจบ้างรึเปล่า แล้วคุณจะมาโฆษณาว่าขาว สวย น่ารัก อายุน้อย รึ ผู้บริหารประสบความสำเร็จ คุณชายหมอ รึ พริตตี้ MCเกาหลี มันมีอะไรพิสูจน์ได้บ้าง ถ้าผมไม่เห็น  คุณแค่อาศัยชื่อเสียงของคุณโดยโฆษณาว่ามีคนที่มีโปรไฟล์ดีๆมาใช้บริการ เพื่อล่อให้คนที่มีโปรไฟล์ดีๆจริงๆเข้ามาเรื่อยๆใช่ไหม  สรุปอะไรคือ asset ของ บริษัทคุณ แค่ว่ากั้กโปรไฟล์ที่ถูกใจต้องตาให้ลูกค้าที่มีชื่อเสียงสังคมเพื่อให้เขา ช่วยโปรโมทปากต่อปากให้บริษัทคุณได้ลูกค้ามากๆเท่านั้นใช่ไหม ? )

ผมเริ่มรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นเหยื่อตัวโต เหมือนกับนักพนันที่ยอมเอาแบงค์ใหญ่ไปแลกเหรียญเพื่อหยอดเล่นสล็อตแมซซีน เพื่อที่จะเสี่ยงว่าตัวเองจะได้รับเศษเงินเป็นรางวัลไหม  โดยมีเจ้าของคาสิโนอยู่หลังจอมอนิเตอร์ คอยนับดูว่าวันนี้ได้เงินจากนักพนันไปเท่าไรแล้ว

ผม { พี่ครับ คือผมทำข้อสอบตกไปสองสามข้อ ข้อแก้แป๊ปนะพี่ พี่ออกไปหาอะไรกินก่อนก็ได้น้า }

.........................

สุดท้ายเราจะได้แฟนก็ต่อเมื่อ
1.ไปเดทกับโปรไฟล์ที่อยากไปเดทกับเราเหมือนกัน (ถูดตัดจำนวนการเดทไปครั้งนึง)
2.เราถูกใจเขาและเขาถูกใจเรา
3.เขาดีที่สุดเมือนเปรียบเทียบกับทุกคนที่เราไปเดท และเราก็ดีที่สุดเมื่อเปรียบเทียบกับคนทุกคนที่เขาไปเดท
4.ความสัมพันธ์ไปได้ดีไม่มีปัญญา
5.ตกลงคบกัน

ยังไม่พูดถึงเรื่องได้คู่หรือแต่งงานนะ  ซึ่งคุณเริ่มมองออกไหม ว่ามันคือสนามรบแบบ battle royal พอๆกับการสอบตรงแพทย์ กสทพ เลย
แต่บริษัทหาคู่รับเงินก้อนโตไปแล้วนะ รวยแบบไม่ต้องลงทุน แค่อาศัยโปรไฟล์ลูกค้าไม่กี่คน


ผมเริ่มนึกถึงเกม ที่ผมเคยเล่นตอนเด็กๆ ที่เราต้องเป็นผู้ชนะในเกม รึในช่วงต้นของการทำงานที่เราต้องเดินเข้าหาบริษัทจัดหางาน
งานเองก็หาคน คนเองก็หางาน บริษัทจัดหางานอาจจะมีแนวทางการทำงานที่ชัดเจนและเป็นไปเพื่อประโยชนของบริษัทและคนหางาน เปิดเผย และเชื่อถือได้มากกว่า พอมาเป็นบริษัทจัดหาคู่ เงินของเราก้อนใหญ่ถูกนำไปหมุนใช้ก่อนเพื่อเป็นการโฆษณารึใช้จ่ายเพิ่ม ตั้งยอดเป้าแม่สื่อให้พยายามอัดเกลี่ยกล่อมให้ลูกค้าซื้อเดทเยอะๆเพื่อที่จะได้ยอด ซึ่งการ match และการได้คบมันเป็นเรื่องของความพอใจของทั้งสองฝ่ายล้วนๆ อีกทั้งมันยังขึ้นกับการนำเสนอโปรไฟลให้ลูกค้าด้วย สาวๆส่วนใหญ่ก็คงชอบผู้ชายที่หน้าที่การงานดี ซึ่งมีตัวโปรโมทของเจ้าของบริษัทอย่างดี ในทางตรงข้าม ลูกค้าสาวๆสวยๆอายุน้อยก็เป็นตัวโปรโมทล่อลูกค้าหนุ่มๆมนุษย์เงินเดือนโปรไฟล์กลางๆค่อนไปทางล่างๆ ให้เข้ามาควักเงินก้อนโตให้แม่สื่อ ( ซึ่งบริษัทจะนำเสนอโปรไฟล์ของเราให้เขา หรือนำเสนอโปรไฟล์เข้าให้เรา หรือจะจับคู่ให้เราหรือไม่ หรือทางฝ่ายนุ่นรึฝ่ายเราตกลงโอเคไปเดทแล้ว ทางบริษัทก็อาจกั้ก ดัดแปลงให้การสื่อสารระหว่างลูกค้าผิดแปลกออกไป ตัวลูกค้าเองนั้นไม่มีสิทธิรู้ เพราะลูกค้าไม่มีช่องทางที่จะทำการสื่อสารโดยตรง มีแต่เพียงแม่สื่อที่เป็นสื่อกลางเท่านั้น )

Asset ของบริษัทมันก็คือ โปรไฟล์ลูกค้าดีๆนั้นเอง ซึ่งถ้าบังเอิญมีลูกค้าโปรไฟล์ดีๆ เข้ามาแค่หนึ่งราย ( จากการแจกเดทฟรีๆเพื่อผลประโยชน์ที่ได้จากโปรไฟล์ลูกค้า)บริษัทก็อาจโฆษณาไปสิบชาติ หรือการที่แม้แต่การที่บริษัทแกล้งทำเป็นส่งโปรไฟล์พร้อมรูปลูกค้าสุดสวยเอ๊าะๆใสปิ๊งซึ่งอาจเป็นรูปใครโปรไฟล์ใครที่เมคขึ้นมาเองเพื่อโชว์ว่าตูมีของดีนะ แต่เขาไม่เอาแก ไปโชว์ลูกค้าที่ยอมควักเงินก้อนโตไปแล้ว แต่สุดท้ายแกล้งบอกไปว่าลูกค้าโปรไฟล์อุปโลกน์นั้นไม่ถูกใจเรา ไม่ขอไปเดท ก็ด้วย

สรุปคือ ถ้าคุณไม่สวยหล่อจริง หรือโปรไฟล์ดีจริงๆ จนประมาณการได้ว่าดีที่สุดในกลุ่มลูกค้าที่ไปใช้บริการ การใช้บริการบริษัทจัดหาคู่ คุณจะไม่มีทางชนะ เงินก้อนโตที่คุณควักให้บริษัทจัดหาคู่ก็ถูกนำไปใช้ในการโฆษณาโปรโมทให้มีเหยื่อรายต่อไปเข้ามาอีก

ผม( พี่ครับ คือ ผมมีธุระเข้ามาอ่า เด๋วผมเข้ามาวันหลังน้าาา)
แม่สื่อ ( เอ่อ จ่ายก่อนมัดจำนิดนึงได้ไหมละ แบบว่าพี่ต้องปิดยอดปลายเดือนอ่ะค่ะ )
ผม( แบบว่า เงินไม่พอครับ แฮะๆ ขอตัวก่อนน้า )

ตราบใดที่คนเราอายที่จะทำความรู้จักกันด้วยวิธีปกติแล้วมองว่าการทักทายคนแปลกหน้าเป็นสิ่งที่แปลกประหลาด บริษัทจัดหาคู่ก็ยังสามารถหลอกหาเงินคนโสดได้เรื่อยๆ.......
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 9
จริงๆเราว่าไม่ใช่ "กลโกง" นะคะ

คือถ้า"กลโกง" สำหรับเราน่าจะหมายถึงหลอกเอาเงิน

แต่นี่คือ "ราคาแพง" และไม่การันตีผล เท่านั้นเอง ซึ่งหลายธุรกิจก็เป็นแบบนี้

น่าจะแฟร์ๆ กันนะคะ คือถ้าเห็นว่าราคาแพงๆไป ไม่คุ้ม ก็ไม่ใช้บริการ ถูกต้องแล้วค่ะ เพราะเขาก็ไม่ได้หลอกขาย ตื๊อ หรือหลอกให้จ่ายแพคเกจแพงๆแต่มาตุกติกเก็บเพิ่มทีหลังไม่ใช่เหรอคะ (แบบนั้นมันพวกเวดดิ้งสตูดืโอที่เราแสนเกลียด)

ส่วนตัวเราไม่รู้ว่าธุรกิจหาคู่นั้นได้ผลจริงแค่ไหน อย่างไร แต่เท่าที่อ่านกระทู้ก็ยังไม่พบกลโกงใดๆนะคะ

การทำข้อทดสอบ เท่าที่เคยทราบ (เพื่อนเราพึ่งไปลองใช้บริการมาหนึ่งแพคเกจ แต่น่าจะคนละบริษัทกับจขกท.) ไม่ใช่ข้อสอบ แต่เป็นการวัดบุคลิกลักษณะนิสัย ความชอบไม่ชอบ และข้อมูลทางจิตวิทยาของลูกค้า เพื่อหาคู่ที่เหมาะสมนะคะ และขั้นตอนที่คุณเล่ามา ก็เหมือนที่เพื่อนเราไปลอง คือจ่ายก่อน เดททีหลัง อะไรแบบนี้

(ไว้วันหลังจะเล่าให้ฟังว่าของเพื่อนเราป็นอย่างไร ชียินดีให้ถ่ายทอดค่ะ)

อีกอย่างที่เขาไม่ให้ดูโพรไฟล์ เราว่าก็ดีแล้วนะคะ ไม่ว่าจะธนาคารหรือธุรกิจใดๆที่มีการเก็บข้อมูลส่วนบุคคล ไม่ควรเปิดเผยทั้งนั้น หรือคุณว่ามันจะดีหากเขาเอาข้อมูลของคุณไปเปิดเผยให้ลูกค้าคนอื่น

จริงๆถ้าหากจะให้ดี ไม่เสียเวลา ควรโทรสอบถามอัตราค่าบริการ และการชำระ (เ่ช่นจ่ายก่อนหรือหลัง หรือถ้าอยากเห็นรูปต้องจ่ายเงินเพิ่ม ฯลฯ)

เรื่องราคาและการจ่ายแพคเกจ อันนี้เราเดาเองว่าเป็นการคะดกรองข้อมูลลูกค้าว่าใช่ target ที่จะจับคู่ได้กับลูกค้าอื่นๆในฐานข้อมูลหรือไม่ เช่นสมมติว่าบริษัทเน้นลูกค้าระดับรายได้หลักแสนขึ้นไป หรือบางทีเน้นคนทำงานรายได้เริ่มต้นแบบคนจบใหม่ๆ อะไรแบบนี้

สรุปว่าเราว่าเคสนี้ไม่ใช่กลโกลค่ะ แต่เป็นความคาดหวังที่ไม่ตรงกันระหว่างลูกค้าและผู้ให้บริการมากกว่า
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่