เรื่องของเรื่อง เรารู้สึก ปวดจิตกับเจ้านายเก่ามาก อันเนื่องมาจากว่า เรายื่นวีซ่าให้เขาไม่ได้ เพราะสถานทูตมันปิดเป็นอาทิตย์ ด้วยเหตุผลนี้เขาเลยด่าว่า เราทำงานไม่ได้เรื่อง ทำไมทำงานให้เขาไม่ได้ โง่จริง ๆ แก ไม่รู้จักพลิกแพลง ไม่รู้จักใช้เงิน (อืม โง่หลายครั้งมาก วันแรก โอเค รู้สึกผิดแต่ในใจคิด สถานทูตมันปิด ฉันจะทำให้ยังไงว่ะ)
วันที่สอง ณ เวลาสถานทูตเปิด เราไม่สามารถดำเนินการขอวีซ่าด่วนให้ได้เพราะ สถานทูตไม่มีนโยบายนี้ เจ้านายมาถึง ด่า ด่า ด่า ทำไมแกโง่ อีกแล้ว ไม่รู้จักคิด โกหกไปสิ บลาๆๆๆ ซึ่งสถานทูตที่เราไปทำ ไม่จำเป็นต้องขอวีซ่า ถ้าเราต้องการใช้ด่วน สามารถไปขอที่นู่นได้เลย (อืม โดนด่า เจ็บใจ ประโยคเด็ดที่โดน คือ ฉันจะจ้างแกมาทำไม อะไรแกก็ทำไม่ได้ เสียดายเงินเดือน ((อืม ปริ๊ด เส้นอารมณ์ขาด กลับไปเก็บของที่ออฟฟิศ โทรไปบอกเจ้านายว่า ขอลาออก ไม่ทำงานแล้วนะคะ เกรงใจเพราะไม่สามารถทำงานให้คุณได้ เสียดายเงินเดือนคุณ))
สักพักเจ้านายคงคิดได้ ส่งข้อความ ส่งเมลล์มาง้อ ว่าให้กลับไปช่วยงานเหอะ เทอไม่อยู่พี่ทำงานไม่ได้ แต่อารมณ์เรา ไม่อยากกลับไป ไปสมัครงานที่ใหม่ ทันที ซึ่งก็ได้ทันทีเช่นกัน แล้วทีนี้ที่เก่า ก็ง้อๆๆๆๆๆ ให้เราสงสาร ก็ยอมรับว่าสงสารนิดหน่อย เพราะรู้สึกผิดนิด ๆ ว่าเราใจร้อนไปหรือเปล่า แต่เราก็ได้ที่ใหม่แล้ว แล้วเราก็ชัดเจนแล้วว่าเราไม่กลับไปทำงานกับเขาแล้ว ด้วยเหตุผลเดียว เขาบอกว่าเราทำงานไม่ได้เรื่องเสียดายเงินเดือน
เราผิดหรือเปล่า เราอยากรู้ แต่เราคิดว่า เราไม่ผิดนะ ยังไงเราก็ไม่ผิด ในเมื่อ มันทำไม่ได้จริง ๆ แล้วเขามาว่าเราอย่างนี้ หรือเราใจร้อนเกินไป
แค่อยากระบายเฉย ๆ คะ กับอยากรู้ความเห็น ว่า ถ้าสมมุติกรณีนี้ จะกลับไปทำที่เก่า หรือทำที่ใหม่ แล้วที่ใหม่ก็เงินเดือนเยอะกว่า มีโอกาสก้าวหน้าพอกัน แต่เงินเดือนเยอะกว่า ประมาณ 2000 ((แต่ใจเราเอนไปที่ใหม่แล้วเพราะในความรู้สึก ถ้ากลับไปที่เก่าก็เหมือนเดิม))
แล้วทุกสิ่งอย่างที่เรา ทำงานให้เขา ค่ารถ ค่าเอกสาร ค่านู๋นนี่นั่น เราไม่สามารถเบิกกับเขาได้เลย เขาทำเป็นลืม ทวงก็เออๆๆ
ส่วน เราก็มานั่งคิดว่า เราทำงานไม่ดีอย่างที่เขาพูดหรือเปล่า แต่เราก็มองว่า ถึงเราไม่เก่ง แต่เราก็รับผิดชอบงานเราได้นะ งานในความรับผิดชอบเราก็ไม่พลาด หรือเราจะ ใจร้อนเกินจริง ๆ
ส่วนที่ใหม่ เราก็ไม่รู้ว่าออกหัวหรือก้อย ใจหนึ่งก็เสียดายที่เก่า เพราะมันเป็นงานถนัดของเรา แต่เราก็ยอมรับว่ากลัวมาก กลัวกลับไปก็เหมือนเดิม โดนเอาเปรียบในเรื่องเดิม ๆ เงินเดือนเราไม่ใช่ว่าเยอะขนาดสองสามหมื่น แค่หมื่นถ้วน ส่วนเขาก็ให้เราทำงานให้เขาอย่างกับเงินเดือน สองแสน แถมให้เราสำรองค่าใช้จ่าย ต่าง ๆ เอง โดยที่เขาไม่ให้เราเพิ่มเลยแม้แต่บาทเดียว ((แย่เนอะ))
หลังจากที่เราอ่าน คห6 ซึ่งเราคิดว่าเขาน่าจะคิดเหมือนเจ้านายเราเป๊ะ และ เรามาคิดดูว่า เราผิดจริง ตรงที่เราไม่สามารถทำงานให้เขาได้ และเราก็ผิดที่ทำให้เขาเกิดความเสียหาย แต่ว่า ที่เราทำไม่ได้ เพราะเหตุผลเดียว สถานทูตปิด ถ้าเขายังไม่มีเหตุผล ในส่วนนี้เราก็ยังยืนยันคำเดิมว่าเราไม่ผิดนะคะ เพราะพอสถานทูตเปิดเราก็ทำให้เขาได้ตามเดิม แต่ที่เราทำให้เขาไม่ได้คือ เขายื่น 9 โมงจะรับ วีซ่า 10 โมงเราไม่สามารถทำให้ได้จริง และสถานทูตเองเขาก็ไม่รับเงินด้วย แล้วถ้าใครยืนยันกับเราได้ว่า สามารถใช้เงินในการทำแบบนี้ได้ รบกวนกรุณาบอกเราด้วยค่ะ เพราะเราทำงานมา 5 ปี บวกแม่เราอีก 25 ปี แม่เราเองก็ยังทำให้เราไม่ได้ ส่วนเรื่องที่ว่าเราทำเต็มที่หรือยัง เราทำงานเต็มที่แล้ว จนเราไม่รู้แล้วว่าคำว่าเต็มที่ของเขา (เจ้านายเรา เขาต้องการอะไร)
แล้วถ้าถามว่า เราสามารถพัฒนาได้อีกไหม งานในส่วนของเรามันจำเป็นต้องพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ เพราะถ้าเราไม่พัฒนา ไม่อัพเดท ส่วนงานของเราย่อมไม่สามารถทำได้ เพราะข้อมูลเราไม่มี ((เราทำบริษํททัวร์))
แม้แต่ตอนนี้เอง เจ้านายเรายังส่งข้อความ ส่งเมลมาให้เราบอกให้เรากลับไปทำ ไม่มีเราเขาทำงานไม่ได้ เราบอกจากใจเลย จะว่าเราทิฐิก็ยอม เราไม่กลับไปทำแน่นอน ต่อให้เรายังไม่ได้ที่ใหม่เราก็ไม่กลับไป เพราะคำเดียว ของเขาเลย เขาจะจ้างเราทำไมในเมื่อเราทำงานอะไรให้เขาไม่ได้สักอย่าง เราคิดว่า ถ้าเขาคิดว่าเขาทำงานคนเดียวได้ เขาเก่งมาก ก็ขอให้เขาทำเอง และงานทุกส่วนเราจัดการโอนคืนไปให้เขาแล้วเรียบร้อย ไม่มีติดค้างแน่นอน นี่คือความรับผิดชอบที่เราสามารถทำได้
อีกอย่างเขายังเมลงาน มาให้เราทำอยู่แล้วบอกให้เรากลับไปทำวันจัน ที่ผ่านมาถือว่าให้หยุด แล้วเราจะผิดไหมถ้าเราไม่ทำให้เขา เพราะเราถือว่าเราลาออกแล้ว ลาออกแบบไม่รับเงินเดือนด้วยซ้ำ เรายังจำเป็นไหมคะ ที่ต้องทำงานให้เขา
จะผิดไหม ถ้าเราออกจากงาน เพราะเขาบอกว่าเราไม่เก่งทำงานให้เขาไม่ได้
วันที่สอง ณ เวลาสถานทูตเปิด เราไม่สามารถดำเนินการขอวีซ่าด่วนให้ได้เพราะ สถานทูตไม่มีนโยบายนี้ เจ้านายมาถึง ด่า ด่า ด่า ทำไมแกโง่ อีกแล้ว ไม่รู้จักคิด โกหกไปสิ บลาๆๆๆ ซึ่งสถานทูตที่เราไปทำ ไม่จำเป็นต้องขอวีซ่า ถ้าเราต้องการใช้ด่วน สามารถไปขอที่นู่นได้เลย (อืม โดนด่า เจ็บใจ ประโยคเด็ดที่โดน คือ ฉันจะจ้างแกมาทำไม อะไรแกก็ทำไม่ได้ เสียดายเงินเดือน ((อืม ปริ๊ด เส้นอารมณ์ขาด กลับไปเก็บของที่ออฟฟิศ โทรไปบอกเจ้านายว่า ขอลาออก ไม่ทำงานแล้วนะคะ เกรงใจเพราะไม่สามารถทำงานให้คุณได้ เสียดายเงินเดือนคุณ))
สักพักเจ้านายคงคิดได้ ส่งข้อความ ส่งเมลล์มาง้อ ว่าให้กลับไปช่วยงานเหอะ เทอไม่อยู่พี่ทำงานไม่ได้ แต่อารมณ์เรา ไม่อยากกลับไป ไปสมัครงานที่ใหม่ ทันที ซึ่งก็ได้ทันทีเช่นกัน แล้วทีนี้ที่เก่า ก็ง้อๆๆๆๆๆ ให้เราสงสาร ก็ยอมรับว่าสงสารนิดหน่อย เพราะรู้สึกผิดนิด ๆ ว่าเราใจร้อนไปหรือเปล่า แต่เราก็ได้ที่ใหม่แล้ว แล้วเราก็ชัดเจนแล้วว่าเราไม่กลับไปทำงานกับเขาแล้ว ด้วยเหตุผลเดียว เขาบอกว่าเราทำงานไม่ได้เรื่องเสียดายเงินเดือน
เราผิดหรือเปล่า เราอยากรู้ แต่เราคิดว่า เราไม่ผิดนะ ยังไงเราก็ไม่ผิด ในเมื่อ มันทำไม่ได้จริง ๆ แล้วเขามาว่าเราอย่างนี้ หรือเราใจร้อนเกินไป
แค่อยากระบายเฉย ๆ คะ กับอยากรู้ความเห็น ว่า ถ้าสมมุติกรณีนี้ จะกลับไปทำที่เก่า หรือทำที่ใหม่ แล้วที่ใหม่ก็เงินเดือนเยอะกว่า มีโอกาสก้าวหน้าพอกัน แต่เงินเดือนเยอะกว่า ประมาณ 2000 ((แต่ใจเราเอนไปที่ใหม่แล้วเพราะในความรู้สึก ถ้ากลับไปที่เก่าก็เหมือนเดิม))
แล้วทุกสิ่งอย่างที่เรา ทำงานให้เขา ค่ารถ ค่าเอกสาร ค่านู๋นนี่นั่น เราไม่สามารถเบิกกับเขาได้เลย เขาทำเป็นลืม ทวงก็เออๆๆ
ส่วน เราก็มานั่งคิดว่า เราทำงานไม่ดีอย่างที่เขาพูดหรือเปล่า แต่เราก็มองว่า ถึงเราไม่เก่ง แต่เราก็รับผิดชอบงานเราได้นะ งานในความรับผิดชอบเราก็ไม่พลาด หรือเราจะ ใจร้อนเกินจริง ๆ
ส่วนที่ใหม่ เราก็ไม่รู้ว่าออกหัวหรือก้อย ใจหนึ่งก็เสียดายที่เก่า เพราะมันเป็นงานถนัดของเรา แต่เราก็ยอมรับว่ากลัวมาก กลัวกลับไปก็เหมือนเดิม โดนเอาเปรียบในเรื่องเดิม ๆ เงินเดือนเราไม่ใช่ว่าเยอะขนาดสองสามหมื่น แค่หมื่นถ้วน ส่วนเขาก็ให้เราทำงานให้เขาอย่างกับเงินเดือน สองแสน แถมให้เราสำรองค่าใช้จ่าย ต่าง ๆ เอง โดยที่เขาไม่ให้เราเพิ่มเลยแม้แต่บาทเดียว ((แย่เนอะ))
หลังจากที่เราอ่าน คห6 ซึ่งเราคิดว่าเขาน่าจะคิดเหมือนเจ้านายเราเป๊ะ และ เรามาคิดดูว่า เราผิดจริง ตรงที่เราไม่สามารถทำงานให้เขาได้ และเราก็ผิดที่ทำให้เขาเกิดความเสียหาย แต่ว่า ที่เราทำไม่ได้ เพราะเหตุผลเดียว สถานทูตปิด ถ้าเขายังไม่มีเหตุผล ในส่วนนี้เราก็ยังยืนยันคำเดิมว่าเราไม่ผิดนะคะ เพราะพอสถานทูตเปิดเราก็ทำให้เขาได้ตามเดิม แต่ที่เราทำให้เขาไม่ได้คือ เขายื่น 9 โมงจะรับ วีซ่า 10 โมงเราไม่สามารถทำให้ได้จริง และสถานทูตเองเขาก็ไม่รับเงินด้วย แล้วถ้าใครยืนยันกับเราได้ว่า สามารถใช้เงินในการทำแบบนี้ได้ รบกวนกรุณาบอกเราด้วยค่ะ เพราะเราทำงานมา 5 ปี บวกแม่เราอีก 25 ปี แม่เราเองก็ยังทำให้เราไม่ได้ ส่วนเรื่องที่ว่าเราทำเต็มที่หรือยัง เราทำงานเต็มที่แล้ว จนเราไม่รู้แล้วว่าคำว่าเต็มที่ของเขา (เจ้านายเรา เขาต้องการอะไร)
แล้วถ้าถามว่า เราสามารถพัฒนาได้อีกไหม งานในส่วนของเรามันจำเป็นต้องพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ เพราะถ้าเราไม่พัฒนา ไม่อัพเดท ส่วนงานของเราย่อมไม่สามารถทำได้ เพราะข้อมูลเราไม่มี ((เราทำบริษํททัวร์))
แม้แต่ตอนนี้เอง เจ้านายเรายังส่งข้อความ ส่งเมลมาให้เราบอกให้เรากลับไปทำ ไม่มีเราเขาทำงานไม่ได้ เราบอกจากใจเลย จะว่าเราทิฐิก็ยอม เราไม่กลับไปทำแน่นอน ต่อให้เรายังไม่ได้ที่ใหม่เราก็ไม่กลับไป เพราะคำเดียว ของเขาเลย เขาจะจ้างเราทำไมในเมื่อเราทำงานอะไรให้เขาไม่ได้สักอย่าง เราคิดว่า ถ้าเขาคิดว่าเขาทำงานคนเดียวได้ เขาเก่งมาก ก็ขอให้เขาทำเอง และงานทุกส่วนเราจัดการโอนคืนไปให้เขาแล้วเรียบร้อย ไม่มีติดค้างแน่นอน นี่คือความรับผิดชอบที่เราสามารถทำได้
อีกอย่างเขายังเมลงาน มาให้เราทำอยู่แล้วบอกให้เรากลับไปทำวันจัน ที่ผ่านมาถือว่าให้หยุด แล้วเราจะผิดไหมถ้าเราไม่ทำให้เขา เพราะเราถือว่าเราลาออกแล้ว ลาออกแบบไม่รับเงินเดือนด้วยซ้ำ เรายังจำเป็นไหมคะ ที่ต้องทำงานให้เขา