กรณีที่คนนึงป่วยแล้ว ไม่มีการตอบสนองทางร่างกาย ลูกหลานตัดสินใจให้ดึงออกซิเจนออก

เพื่อให้ไปอย่าสงบ  ถือว่าบาปไหมคับ แล้วผู้ตายจะได้ไปเกิดใหม่ไหมคับเพราะว่ายังไม่หมดอายุขัย ทาง กม นี่เขาอนุญาติ หรือไม่

เพราะญาติๆเขาให้เหตุผลว่าค่าห้องรักษาคืนนึง หมื่นกว่าบาท ถ้า4 เดือนนี่เขาไม่ไหวกัน
แก้ไขข้อความเมื่อ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 11
ของอย่างนี้ต้องเจอกับตัวตอนนั้น ถึงจะบอกได้ครับ
จากประสบการณ์ส่วนตัวนะ หลายปีก่อน ก่อนย่าจะเสีย ก็เข้า รพ เป็นปีๆ สภาพแห้งเป็นเนื้อหุ้มกระดูก นอนเป็นปีจนหลังช้ำเป็นแปลไปหมดแล้ว สอดท่อหายใจทางปากตลอด ต้องมัดมือด้วยเพราะถ้าแกรู้สึกตัวก็จะพยายามดึงท่อออก ดึงเข็มออก คนที่เคยอยู่ในสภาพแบบนั้นจะรู้ว่ามันคือที่สุดแห่งความทรมาน
ผมต้องให้เค้าอยู่ห้อง ฝน รพ รัฐแถวบ้าน จ้างคนมาดูแล24ชม เดือนๆนึงหมดไปหลายหมื่น
รวมกับจ้างมาดูแลปู่ด้วย ตกเดือนละครึ่งแสน (มีเหตุผลที่ต้องจ้างครับ ดูแลเองไม่ได้ แต่ไมาขอบอกในที่นี้)
จนสมองย่าตาย
หมอถามว่าจะดึงสายออกมั๊ย (จำไม่ได้ว่าใครพูดนะ หมอหรือพยาบาลหรือใคร)
ตอนนั้นน่ะ ใจจริงสงสารย่ามาก อยากให้ไปสบายจริงๆ อยู่แบบนี้มันไม่ใช่ชีวิตแล้ว มันไม่มีหวังอะไรแล้ว เราจะยื้อเค้าไปทำไมให้เค้าทรมาน
แต่ปู่ไม่กล้าเซ็น ไม่มีใครกล้าเซ็นทั้งๆที่ในใจทุกคนคิดเหมือนกันว่าทนเห็นสภาพแบบนั้นไม่ได้ อยากให้ย่าไปดี แต่ต้องมาเล่นเกมวัดใจกัน
พอพนักงานมาถามผม ผมอยากเซ็นนะ แต่ติดตรงที่มีลูกน้องปากเสียอยู่ข้างๆด้วย ถ้าผมบอกว่าเซ็น รับรองว่าห้ามเค้าเอาไปพูดไม่ได้ รู้กันทั้งเมืองแน่ๆ ยิ่งชาวบ้านส่วนใหญ่ทำตัวเป็นคนมีศีลธรรมสูงอยู่แล้ว มีโอกาสอ้างคุณธรรมเพื่อเหยียบใครได้ทำไมจะไม่ทำ ผมรู้นิสัยคนพวกนี้ดี
และเรื่องแบบนี้ ผมทำเองไม่ได้หรอก โดนผู้ใหญ่ด่าตาย
สุดท้ายก็ไม่เซ็น ให้ย่าอยู่ทรมานไปอีกหลายเดือน จนย่าจากไปเอง
การจากไปของย่าไม่มีใครไม่เสียใจ แต่ผมเสียใจที่ไม่สามารถทำให้ย่าต้องเสียไปอย่างไม่ทรมาน

ผมขอร้องเลยนะ ถ้าใครจะเซ็น อย่าไปห้าม ขอให้ให้กำลังใจเค้าด้วย มันคือความผิดที่สุดในชีวิตคาบเกี่ยวกับศีลธรรมกันจริงๆ
อย่าทำตัวเป็นฮีโร่ บอกว่าถ้าเป็นตัวเองจะไม่ทำ
คุณไม่รู้ถึงความเจ็บปวด คุณไม่เข้าใจสถานการณ์ คุณไม่ควรมาตัดสินหรือเอาตัวเองมาเปรียบเทียบเลย

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่