ทั้งๆที่ชื่อก็บอกอยู่ว่า ไฟฉุกเฉิน คือเปิดได้ในกรณีฉุกเฉินเท่านั้น คือเปิดในสถานการณ์ที่ไม่คาดคิด หรือปัจจุบันทันด่วนจริงๆ
ส่วนมากก็จะอยู่สภาวะที่ "รถจอดอยู่หรือกำลังจะต้องจอด" เพื่อเตือนรถคันอื่นที่อยู่บนถนน
หรือถ้ากรณีที่รถวิ่งอยู่ เช่นรถเราอยู่ในสถาวะที่เสียฉุกเฉิน ต้องการจอดฉุกเฉิน

รถที่เปิดไฟฉุกเฉินวิ่งได้ตลอด เท่าที่เห็นคือรถนำขบวนเสด็จและรถฉุกเฉินของโรงพยาบาล

เห็นในห้องรัชดาตั้งมาก็หลายที แต่ก็ยังเห็นคนเปิดไฟฉุกเฉินพร่ำเพื่อ ตลอดเวลาที่ขับรถอยู่บนท้องถนน
แสดงว่า "คนไทย ยังมีความเชื่อผิดๆอยู่มากเกี่ยวกับฉุกเฉิน" เลยอยากตั้งอีกซักกระทู้มาแชร์ๆกันค่ะ


จากประสบการณ์ตรงที่ขับรถอยู่บนท้องถนนเกือบสิบปี
สิ่งที่เราเจอ ทั้งคนใกล้ตัว แท็กซี่ที่เคยนั่ง หรือรถบนถนน ทำไมถึงได้ชอบเปิดไฟฉุกเฉินกันขนาดนั้นก็ไม่รู้
เรามาลองดูกันค่ะ ว่าที่เจอมามีกรณีไหนบ้าง อยากให้ทุกคนลองแชร์กันค่ะ ทั้งที่เจอ หรือว่าตัวเองทำอยู่


1)เปิดไฟฉุกเฉิน เปิดเพื่อบอกว่าจะวิ่งทางตรง (หรือเรียกว่าเปิดเพื่อขอทาง)
= อันนี้ผิดแน่นอน เพราะจริงๆแล้ววิธีนี้อันตรายมาก เพราะรถที่อยู่ข้างทางอีกฝั่งจะเห็นรถเราแค่ฝั่งเดียว ก็จะคิดว่าเราจะเลี้ยว ทำให้ชนกันได้ง่าย

2)เปิดไฟฉุกเฉิน เพื่อจอดข้างถนน (จอดชิดไหล่ทาง แต่รถไม่ได้เสีย ลงจากรถทำธุระเฉยๆ)
= อันนี้เรากำ้กึ่งนะคะ บางครั้งไหล่ทางที่เป็นไหล่เขา หรือถนนโล่งๆ การเปิดแค่ไฟเลี้ยวซ้าย อาจจะทำให้รถที่ตามหลังมาเร็วๆไม่เห็น
แต่ปกติขับในเมือง เราเปิดแค่ไฟเลี้ยวค่ะ ถ้าลงแป๊บเดียว เช่นจอดเอาของ จอดให้คนลง
แต่ถ้าลงนานกว่า5นาที เราหาที่จอดดีๆแล้วเดินมามากกว่า

3)เปิดไฟฉุกเฉิน เพื่อถอยรถ
= กรณีเดียวที่เราทำคือถอยเข้าซองในห้างค่ะ นอกนั้นเวลาถอยไม่ค่อยกด

4)เปิดไฟฉุกเฉิน เพื่อขอโทษ หรือ ด่า คันข้างหลัง
= อันนี้ตลกมาก เพราะว่าวันนี้เอง ช่วงพักกลางวันน้องที่ทำงานชวนไปทานข้าวร้านๆนึงที่ลุงอ้วนเคยแนะนำ
ด้วยความที่ไม่เคยไป ก็กะกันไม่ถูกว่าร้านอยู่ช่วงไหน ขับขวามาดีๆ น้องเขาปาดเข้าเลนกลาง รถข้างหลังบีบแตรด่าเล็กน้อย
น้องเขารีบเอามือไปกดไฟฉุกเฉินให้ดังต๊อกแต๊กๆ ประมาณ4-5วิ แล้วกดปิด เราก็ถาม รถไม่ได้เบรคกระทันหันกดไฟฉุกเฉินกดทำไม
(เกิดเรามีเหตุกาณ์ที่กระทันหันเช่น อะไรวิ่งตัดหน้า เราสามารถกดไฟฉุกเฉินได้ รถคันหลังก็จะเบรกได้เต็มที่)
เขาบอกกดเพื่อขอโทษ เราก็งงว่าโรงเรียนขับรถสอนมาเหรอ หรือว่าขนส่งไหนสอนมา
น้องเขาบอกว่าเขากดประจำ เราก็เลยต้องร่ายยาวว่า ถ้าเกิดเขาคิดว่าเรากดด่าล่ะ เราจะทำยังไง
เขาบอกใครๆก็คงรู้แหละ เป็นมารยาทในการขับรถ

เราเลยบอกว่า ถ้ามารยาทในการขับรถเป็นแบบนี้ พี่ว่าเราขับเข้าขั้นแย่แล้วแหละ  แต่ก็ขำๆกันไปนะเพราะจริงๆมันไม่มีหรอกมารยาทแบบนี้
เขาบอกว่าเขาก็จำๆคนอื่นมาอีกทีเหมือนกัน เพราะว่าเขาขับรถไม่แข็ง เวลาเปลี่ยนเลนก็ยึกๆยักๆ มีคนบอกเขาเลยกดตั้งแต่นั้น
แต่จริงๆแล้ว ไม่ควรกดด้วยประการทั้งปวงเวลารถวิ่งด้วยความเร็วปกติอยู่ เพราะว่าจะทำให้เกิดการเข้าใจผิดได้

5)เปิดไฟฉุกเฉิน ตอนฝนตก
=อันนี้จำได้ว่าเป็นดราม่าดังจนจ่าต้องเอาไปเขียน เราเจอประสบการณ์มากับตัวคือขับไปแถวๆเพชรบุรี
ฝนตกหนักมาก จนแทบมองถนนไม่เห็น เราขับมาเจอรถคันหน้าจู่ๆก็เปิดไฟฉุกเฉิน ทำให้เราต้องเบรกกระทันหัน เพราะคิดว่ารถเขาเสียจอดอยู่
แต่จริงๆแล้วรถเขาเปิดไฟฉุกเฉินวิ่ง ในใจฉุนมาก เพราะว่าถ้าเกิดเราเบรกแล้วรถเราเสียหลักถนนลื่น หรือว่าคันหลังตามมาชนท้ายเราเราจะทำยังไง ส่วนตัวเรารณรงค์ไม่ได้เปิดค่ะ
ถ้าฝนตกหนังจนคุณมองรถคันหน้าไม่เห็นแล้วคุณก็จอดพักซักพักเถอะค่ะ
แสดงว่ารถข้างหลังคุณก็คงมองไม่เห็นรถคุณเหมือนกัน
แต่ถ้าตราบใด คุณยังมองรถคันหน้าเห็นอยู่โดยที่คันหน้าคุณไม่ได้เปิดไฟฉุกเฉิน แสดงว่ารถข้างหลังคุณเขาก็มองเห็นคุณเหมือนกันค่ะ
ส่วนประเภทที่ว่า เห็นเขาเปิดไฟฉุกเฉินขับต่อๆกันบนมอเตอร์เวย์นั้น ที่เราเห็นมาคือ เขามาแรลลี่ค่ะ หรือพวกที่มาด้วยกันเป็นหมู่คณะ

เท่านี้แหละค่ะ ที่เราพบเจอมา อยากให้เพื่อนๆช่วยแชร์ความคิดเห็นกันค่ะ



ป.ล.จำสั้นๆง่ายๆคือ ฉุกเฉินไว้เตือน ถ้ามีเหตุ ถ้านอกเหนือนี้ไม่จำเป็นต้องกดค่ะ
แล้วอะไรก็ตามที่เวลาไปสอบใบขับขี่ ในหนังสืออบรมเขาไม่ได้สอนก็ไม่ต้องไปทำ อย่ามาอ้างว่า กฎหมู่ คอมมอนเซ้นส์ หรือว่ามารยาทเลยค่ะ มันไม่มี และไม่ควรเพราะว่ามันช่วยเพิ่มอัตราการเกิดอุบัติเหตุในท้องถนน ถ้ามันทำได้และถูกต้อง หลักสูตรการเรียนขับรถคงบรรจุไปแล้วค่ะ


อย่าเป็นพวกรู้ไม่จริง เอารถมาวิ่งบนถนนให้คนอื่นลำบากเลยค่ะ


*แก้ไขเพิ่มเติม กรณีฝนตกค่ะ