นายธรรมรัตน์ โชควัฒนา กรรมการผู้ช่วยผู้อำนวยการ บริษัท ไอ.ซี.ซี. อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องสำอาง สินค้าแฟชั่น เครื่องแต่งกายสุภาพบุรุษ สุภาพสตรี เครื่องแต่งกายและของใช้เด็ก ภายใต้ แบรนด์บีเอสซี, วาโก้, เพียซ, เซนต์ แอนดรูว์, กีลาโรช, แอลล์ และอื่นๆ เป็นต้น เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ระหว่างการพิจารณายกเลิกการผลิตและทำตลาดเสื้อผ้าแฟชั่นไม่เกิน 10 แบรนด์ ที่ไม่ทำเงินออกไป จากทั้งหมด 60 แบรนด์ เพื่อหันไปทุ่มเทเวลากับการทำตลาดในอีก 50 แบรนด์ที่เหลืออยู่ ซึ่งการยกเลิกการทำตลาดใน 10 แบรนด์ดังกล่าว จะไม่ส่งผลกระทบต่อรายได้การดำเนินงานของบริษัท
ขณะเดียวกันก็เป็นหนึ่งในแผนของปี 2556 ที่บริษัทจะเน้นเรื่องปรับสุขภาพภายใน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานทุกด้าน ตั้งแต่กระบวนการผลิตให้สั้นลง การออกสินค้าใหม่ ปรับปริมาณการผลิตให้เหมาะสม และเพิ่มความเร็วในการทำงานมากขึ้น
สำหรับผลการดำเนินงานเฉพาะผลิตภัณฑ์ชุดชั้นในสตรีวาโก้ ในช่วง 6 เดือนแรกที่ผ่านมา มียอดขายเติบโต 7-8% ต่ำกว่าเป้าหมายที่คาดว่าจะเติบโตได้ 10% และทั้งปีที่ 20% แต่ล่าสุดในเดือนก.ค. เดือนเดียวยอดขายลดลงถึง 30%
ส่วนหนึ่งอาจเพราะผู้บริโภคได้รับผลกระทบจากภาระค่าผ่อนรถในโครงการรถคันแรก และหากปัญหาการเมืองรุนแรงถึงขั้นมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองเกิดขึ้น คาดว่าจะมีผลให้ยอดขายวาโก้แย่สุดคาดว่าจะไม่ต่ำกว่า 3 พันล้านบาท จากเป้าหมาย 3.2 พันล้านบาท โดยบริษัทได้เตรียมแผนรับความเสี่ยงด้วยการระบายสินค้าในสต๊อก โดยเน้นกลยุทธ์ราคามากขึ้น พร้อมกับลดค่าใช้จ่ายภายในและมุ่งหาช่องทางจำหน่ายใหม่ คือ ขายตรง ผ่านทีวีไดเร็ค
http://www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TUROdFlYSXdNVEV5TURnMU5nPT0=§ionid=TURNeE5nPT0=&day=TWpBeE15MHdPQzB4TWc9PQ==
******************************************
สรุปว่า ชาวบ้านมีปัญญาผ่อนซื้อรถ แต่ไม่มีปัญญาซื้อยกทรงกางเกงในของบริษัทเมิงใช่ไหม ไม่ดูตัวเองเลย เจ๊งไปเหอะครับ
ไอ.ซี.ซี.เล็งโละ10แบรนด์แฟชั่น วาโก้วูบ-ลุยสงครามราคา
ขณะเดียวกันก็เป็นหนึ่งในแผนของปี 2556 ที่บริษัทจะเน้นเรื่องปรับสุขภาพภายใน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานทุกด้าน ตั้งแต่กระบวนการผลิตให้สั้นลง การออกสินค้าใหม่ ปรับปริมาณการผลิตให้เหมาะสม และเพิ่มความเร็วในการทำงานมากขึ้น
สำหรับผลการดำเนินงานเฉพาะผลิตภัณฑ์ชุดชั้นในสตรีวาโก้ ในช่วง 6 เดือนแรกที่ผ่านมา มียอดขายเติบโต 7-8% ต่ำกว่าเป้าหมายที่คาดว่าจะเติบโตได้ 10% และทั้งปีที่ 20% แต่ล่าสุดในเดือนก.ค. เดือนเดียวยอดขายลดลงถึง 30% ส่วนหนึ่งอาจเพราะผู้บริโภคได้รับผลกระทบจากภาระค่าผ่อนรถในโครงการรถคันแรก และหากปัญหาการเมืองรุนแรงถึงขั้นมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองเกิดขึ้น คาดว่าจะมีผลให้ยอดขายวาโก้แย่สุดคาดว่าจะไม่ต่ำกว่า 3 พันล้านบาท จากเป้าหมาย 3.2 พันล้านบาท โดยบริษัทได้เตรียมแผนรับความเสี่ยงด้วยการระบายสินค้าในสต๊อก โดยเน้นกลยุทธ์ราคามากขึ้น พร้อมกับลดค่าใช้จ่ายภายในและมุ่งหาช่องทางจำหน่ายใหม่ คือ ขายตรง ผ่านทีวีไดเร็ค
http://www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TUROdFlYSXdNVEV5TURnMU5nPT0=§ionid=TURNeE5nPT0=&day=TWpBeE15MHdPQzB4TWc9PQ==
******************************************
สรุปว่า ชาวบ้านมีปัญญาผ่อนซื้อรถ แต่ไม่มีปัญญาซื้อยกทรงกางเกงในของบริษัทเมิงใช่ไหม ไม่ดูตัวเองเลย เจ๊งไปเหอะครับ