โลกตะลึง!! เรือยามาโตะ แท้จริงเป็นเรือดำน้ำ!!!!!

โลกตะลึง!! เรือยามาโตะแห่งลูกพระอาทิตย์ แท้จริงเป็นเรือดำน้ำ!!!!!

คำกล่าวที่ว่า "ญี่ปุ่นต่อเรือไม่เป็น" เรื่องนี้ทำให้ดูเหมือนเป็นความจริงมากขึ้น!!


เรือประจัญบานยะมะโตะ หรือ เรือยามาโตะที่เรารู้จักกันดีว่าเป็น
"เรือรบประจัญบาลที่ใหญ่ที่สุดในโลก" ในปัจจุบัน (เพราะไม่มีใครสร้างเรือประจัญบาลอีกต่อไปแล้ว)
ถูกต่อขึ้น  อู่ทหารเรือคุเระ เมืองฮิโระชิมะ ในวันที่ 4 พฤศจิกายน ค.ศ. 1937
โดยแต่เดิมที่แท้จริงแล้ว เรือยามาโตะวางพิมพ์เขียวไว้ให้เป็นเรือดำน้ำ!!





นับว่าเป็นการพลิกโฉมประวัติศาตร์ทางทหารหน้าใหม่ของโลกก็ว่าได้ ที่เรือประจัญบาลที่ใหญ่ที่สุดในโลกนั้น
แท้จริงถูกวางตัวให้เป็นเรือดำน้ำ!

เรื่องมันเกิดขึ้นจากว่า หลังถอนตัวจากสนธิสัญญารัฐนาวีวอชิงตันซึ่งเป็นสนธิสัญญาที่จำกัดขนาดเรือและอำนาจการยิงของเรือหลวง กองทัพเรือจักรวรรดิญี่ปุ่นได้เริ่มคิดออกแบบเรือดำน้ำประจัญบานหนักชั้นใหม่ ชั้นยะมะโตะ การออกแบบเรือได้เสร็จสิ้นในปี ค.ศ. 1937


ปืนหลักขนาด 46 ซม. บนเรือดำน้ำยามาโตะ

แต่ถว่าก่อนการออกแบบจะเสร็จสิ้นนั้น มีการถกเถียงในเรื่องแบบของเรือมากมาย เพราะการที่จะทำปืนขนาด 46 ซม. 1 แท่น 3 กระบอก และหอบังคับการรูปทรงหมวก "ซามูไร" ที่นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น "โตโจ" มั่นหมายประดับเพื่อแสดงความเกรียงไกรของนักรบแดนอาทิตย์อุทัยแห่งตะวันออกไว้บนเรือดำน้ำที่ใหญ่ที่สุดในโลกนี้ มิใช่เรื่องง่ายๆที่จะทำกัน จึงต้องทำการเพิ่มขนาดของถังอับเฉาขึ้น พร้อมทั้งเปลี่ยนรูปทรงของกราบซ้ายของเรือที่แต่เดิมจะถูกยึดหมุด 1,712 ตัวที่ยึดไว้ ต้องเพิ่มเป็น 4,037 ตัว ซึ่งเป็นภาระใหญ่หลวงของรูปทรงกระดูกงู


ผู้ออกแบบเรือ ผศตร.มิยาซาวะ ยามาซา  (ทางซ้ายแถวล่างที่ 2 จากทางขวาที่ 4)

เป็นเรื่องใหญ่ให้กับผู้ออกแบบ และคุมงานการต่อเรือนี้ ผศตร.มิยาซาวะ ยามาซากิ ให้จำเป็นจะต้องรื้อแบบใหม่ทั้งหมดนั่นเองจนรูปร่างนั้น
เริ่มเปลี่ยนไปคล้ายๆกับทรงเรือประจัญบาล  ผศตร.มิยาซาวะ ก็เริ่มที่จะเห็นเค้าแววที่ผลงานชิ้นโบแดงของเขา จะดำน้ำไม่ลง (งานเข้าแล้ว!)

เมื่อปล่อยเรือลงน้ำ 8 สิงหาคม ค.ศ. 1940 โดยอยู่ในช่วงกลางสงคราม มันก็ไม่ทันแล้วที่จะทดสอบความพร้อมการดำน้ำของเรือ มันก็ต้องเข้าสู่สงครามที่มันได้ถูกสร้างมาเพื่อเสียแล้ว...

ปฏิบัติการเท็งโง
เรือยามาโตะออกปฏิบัติการอีกครั้งในวันที่ 1 มกราคม ค.ศ. 1945 ประวัติศาตตร์ว่ามันคือ "ภารกิจฆ่าตัวตาย" แต่ไม่ใช่ เพราะแท้จริงแล้วมันคือการทดสอบการดำน้ำอีกครั้งหนึ่ง (หลังจากผ่านมานับไม่ถ้วน)
และด้วยการช่วยเหลือของ ของวิศวะกรกองทัพเรือสหรัฐ (ที่ช่วยออกแบบ Hellcat) ประมาณ 12.30น. ได้ทดลองใช้ระเบิดขนาด 1000bls จาก และตอปิโดอีกหลายรายการ จากเครื่องบินทดสอบ ทิ้งลงไปบนลำตัวเรือ เพื่อกระตุ้นการดำลงของ ยามาโตะ

13.00 เป็นเวลาแห่งชัยชนะอีกครั้งหนึ่งแห่งความสำเร็จของวิศวกรรมศาสตร์ของมนุษย์ เรือดำน้ำยามาโตะ ได้ดำลงไปกินเวลาตราบปัจจุบัน...

ภาพประวัติศาสตร์ การดำลงน้ำของ ยามาโตะ

คำกล่าวที่ว่า "ญี่ปุ่นต่อเรือไม่เป็น" เรื่องนี้ทำให้ดูเหมือนเป็นความจริงมากขึ้น!! นั้นส่งผลถึงปัจจุบัน
หลังจากที่ ญี่ปุ่น ได้ทดลองต่อเรือพิฆาตแบบใหม่ ซึ่งหน้าตาไม่เหมือนเรือพิฆาตอย่างที่ประกาศไว้ซักเท่าไหร่นั่นเอง...

Hyūga-class Destroyer
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่