((ผมขอโทษ)) วันนี้จิตตก รู้สึกบาปจริงๆ มีใครทำบุญแล้วรู้สึกบาปได้ขนาดนี้ไหม (วัดธรรมกาย)

กระทู้คำถาม
ผมได้ยินข่าว สหกรณ์ออมทรัพย์ฯคลองจั่น และก็ได้ฟังผู้เดือนร้อนหลายคน

ทั้งที่เอาเงินเก็บทั้งชีวิต หวังได้กินดอกเบี้ยดีๆ ตอนแก่ และเคสอื่นๆมากมาย

แต่วันนี้พึ่งมีเวลา มานั่งอ่านข้อมูลผ่านเว็บพันทิป เรา

พออ่านไปถึงความเห็นหลังๆ เริ่มเห็น วัดธรรมกายเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้อง

เนื่องจาก ปธ. ศุ เป็นหนึ่งใน "มหาเศรษฐีผู้ใจบุญ" ทำบุญแบบไม่อั่น มานับครั้งไม่ถ้วน

รวมทั้งวัดพิมพ์ประวัติ ปธ. ศุ ว่าแต่ก่อนเคยยากจน จนมาเจอวัดธรรมกาย อยากทำบุญมาก แต่มีเงินห้าพัน

สุดท้ายก็ตัดใจทำบุญ จนทุกวันนี้ ร่ำรวยขนาดนี้ เป็น "มหาเศรษฐีผู้ใจบุญ"

อีกทั้งทางวัดยังจัดตั้ง สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนมงคลเศรษฐี ให้สมาชิก กู้ยืมเงินจากสหกรณ์ไปใช้ทำบุญในวัดพระธรรมกาย

หลายคนคงสงสัยว่า ผมบาปตรงไหน

ตัวผมเอง เป็นคนหนึ่งที่ไปทำบุญที่วัดพระธรรมกาย ตั้งแต่ ชั้น ม.2 (ครับอายุสิบสามสิบสี่ ผ่านมาเกือบยี่สิบปี)

ตอนนั้น น้าผมเป็นคนมาชักชวนให้สร้างพระธรรมกายประจำตัว หนึ่งองค์ หนึ่งหมื่นบาท

ผมด้วยความใจปล่ำ และเชื่อตามที่วัดธรรมกาย ได้มีแผ่นพับ โฆษณาว่า พระธรรมกายและธรรมกายเจดีย์ จะยั่งยืน หนึ่งหมื่นปี

เหมือนกับ โบราณสถาน โบโรพุทโธ รวมถึงอาณิสงค์ผลบุญที่จะได้รับ ประมาณสิบข้อ

ผมก็เลยตัดสินใจ จ่ายทันที (แม่จ่าย และผมผ่อนแม่ โดยเก็บค่าขนม ผ่อนคืนเดือนละห้าร้อย)

และผมก็บริจาคประปราย แต่ก็มาหยุด ตรง แผ่นหินเหยียบไม่ร้อน ตรม.ละ สามหมื่น และ พระธรรมกายภายในเจดีย์ องค์ละสามหมื่น

ผมก็เริ่มไม่ไหวแล้ววววววววววววววววววววว

ทำไมผมจึงรู้สึกผิด..........................................................................................

ตอนนั้นผมบ้าบุญมาก อยากได้อาณิสงค์ อยากเกิดมารวย ยิ่งรวย มีบริวารลูกน้อง มีบ้านสวยๆเป็นวิมาน อยาก อยาก อยาก อยาก

แม้ทุกวันนี้ ผมก็ยังมีอารมณ์แบบนี้ แต่จะบริจาคให้วัดที่ผมคุ้นเคย และเห็นว่าวัดเค้ายังขาดสิ่งนี้จริงๆ

ผมไม่รู้ว่าวัด เอาเงินผมไปทำอะไร มูลค่าของพระธรรมกาย แต่ละองค์ มีมูลค่าตามนั้นจริงไหม

วัสดุที่ใช้อยู่ได้หมื่นปีจริงหรือ

ผมเป็น ส่วนร่วม เมื่อเกือบยี่สิบปีที่แล้ว ทำให้ "ธรรมกาย" โต และ โตจนใหญ่คับฟ้า แม้ มหาเถระสมาคม ก็ไม่ไปยุ่ง

ที่มาที่ไปของเงินไม่มีใครไปตรวจสอบ

จนวันนี้ เห็น ข่าว สหกรณ์เคหะฯ ส่วนตัวไม่ทราบว่า มีความเกี่ยวข้องมากน้อยแค่ไหน ระหว่าง วัด กับ "มหาเศรษฐีผู้ใจบุญ"ท่านนี

แต่วันนี้ จากข้อความที่โพสต์ ก็เริ่มมีคนเสียชีวิต เพราะ กลุ่มใจว่าจะได้เงินคืนไหม เงินเก็บทั้งชีวิต

ถ้าวันนั้น ผมไม่ "บ้าบุญ" ไม่ "หลงบุญ" ไม่ "อยากเกิดเป็นเทวดา" ไม่ "อยากเกิดมาร่ำรวยทุกภพทุกชาติ"

ไม่อยาก "เกิดมาหน้าตาดี" ก็คงไม่ทำบุญ ไม่เป็นส่วนร่วมทำให้วัดนี้ใหญ่โตมีอำนาจล้นฟ้า

ผมขอโทษ จากใจจริงๆ  

ลิงค์ ของ กระทู้สหกรณ์ที่มีปัญหา .......http://ppantip.com/topic/30331991/comment2373-4

คำถาม ต่อไปผมควรทำอย่างไรดี ตอนนี้ถ้าเอาเงินไปทำบุญ ก็รู้สึกไม่ดี ถ้าไม่ได้เอาเงินไปทำบุญ ก็ไม่รู้สึกว่าได้ทำบุญจริงๆ

ตอนนี้เดินเข้าวัด บางครั้งรู้สึกว่า หลวงพี่ บางรูป ท่านมีเงินมากกว่าเราเสียอีก

บางวัด กำลังหาปัจจัยสร้างโบสถ์ ก็อยากทำ แต่มองเห็นหลวงพี่บางรูป ใช้ สมาร์โฟนแพงกว่าเรา ใช้โน๊ตบุ๊คดีกว่าเรา

เราก็สงสัยว่า หลวงพี่ที่ได้ปัจจัย นำปัจจัยเหล่านั้นมาทำบุญบ้างไหม หรือ โครงการเหล่านี้ เป็นเพียงสิ่งที่ชักชวนคนเข้ามาทำบุญที่วัด
แก้ไขข้อความเมื่อ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 3
วัดนี้ผิดตั้งแต่สอนคนให้อยากแล้วครับ.  ศสสดาของเราสอนให้ละ สละ ตัด ครับ ถ้าสอนให้เพิ่ม ให้อยาก ถือว่าผิดคำสอนหมดครับ
ความคิดเห็นที่ 2
การทำบุญที่ดีที่สุดคือการปฏิบัติธรรม
ความคิดเห็นที่ 7
วัดธรรมกาย นำเอาคำสอนด้านเดียวของศาสนาพุทธมาใช้ รวมถึง ต่อยอดไปจนเกินหลักศาสนา

แต่ก็มีคนเชื่อกันมากมายเพราะว่า ส่วนใหญ่แล้วคิดเหมือนเจ้าของกระทู้ อยากได้ทุกอย่าง

อยากหล่อ อยากสวย อยากรวย อยากมีบารมี อยากทุกๆอย่าง ซึ่งทั้งหมดแล้ว มันเป็นแค่วิสัยของ โลกียะ มันไม่ใช่ โลกุตระ

ซึ่งแก่นแท้ของศาสนาพุทธ คือการทำให้มนุษย์หลุดพ้น หรือว่า โลกุตระนั่นเอง

การนำเสนอของธรรมกายเลยจะเป็นในมุมมองที่ ทำมากก็ได้มาก ทำแบบนี้แล้วจะได้แบบนั้น ซึ่งไม่มีใครพิสูจน์ว่าจริงไหม แต่คนก็เชื่อ

ซึ่งธรรมกายต่างกับเณรคำ อยู่อย่างเดียวตรงที่ ยังไม่เป็นข่าวและ Backup ส่วนใหญ่ก็เป็นนักการเมือง ผู้มีอำนาจทั้งหลาย ก็เลยผ่านมาได้

ถ้านำมาตรวจสอบจริงๆ แล้วคงรวยกว่า เณรคำ หลายเท่าตัวนัก
ความคิดเห็นที่ 9
ไปทำบุญกับคนพิการเด็กกำพร้าคนชรา แทนดีไหมครับ
ความคิดเห็นที่ 72
ทำแล้วรู้สึกดี นั้นแหละบุญ ก่อนออกจากบ้าน ทำบุญกับพระที่บ้านแล้วหรือยัง





แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่