แพทยสภาเล็งฟ้องอาญา "หมอบอนด์" อ้างเป็นผู้เชี่ยวชาญเวชศาสตร์ครอบครัว หลังตรวจสอบพบไม่เคยได้รับหนังสืออนุมัติ บัตรสาขาดังกล่าว
เว็บไซต์โพสต์ทูเดย์ รายงานว่า วันนี้ (8ส.ค.56) ศ.นพ.สมศักดิ์ โล่ห์เลขา นายกแพทยสภา ได้แถลงถึงกรณีสมาชิกแพทยสภาร้องเรียนสำนักงานเลขาธิการแพทยสภา ให้ตรวจสอบกรณี นพ.ปิยะวงศ์ เศรษฐวงศ์ หรือหมอบอนด์ แอบอ้างว่าจบเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญสาขาเวชศาสตร์ครอบครัวนั้น คณะกรรมการแพทยสภาได้ดำเนินการตรวจสอบข้อมูลแล้วพบว่า นพ.ปิยะวงศ์ จบการศึกษาแพทยศาสตร์บัณฑิต จากคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ เมื่อวันที่ 1 เม.ย.2554 โดยที่แอบอ้างว่าได้รับหนังสืออนุมัติบัตรสาขาเวชศาสตร์ครอบครัวนั้น จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าไม่เคยได้รับหนังสืออนุมัติบัตรสาขาดังกล่าว จึงเห็นควรส่งเรื่องของ นพ.ปิยะวงศ์ ให้คณะอนุกรรมการจริยธรรมดำเนินการทางคดีจริยธรรม
ทั้งนี้เนื่องจากเข้าข่ายความผิดตามมาตรา 28 แห่งพระราชบัญญัติวิชาชีพเวชกรรม 2525 ระบุว่า ห้ามมิให้ผู้ใด ใช้คำหรือข้อความที่แสดงให้ผู้อื่นเข้าใจว่าตนเป็นผู้มีความรู้ความชำนาญในการประกอบวิชาชีพเวชกรรมสาขาต่างๆ ทั้งนี้ รวมถึงการใช้ จ้าง วาน หรือยินยอมให้ผู้อื่นกระทำดังกล่าวให้แก่ตน เว้นแต่ ผู้ได้รับวุฒิบัตรหรือหนังสืออนุมัติเป็นผู้มีความรู้ความชำนาญในการประกอบวิชาชีพเวชกรม สาขานั้นๆ จากแพทยสภา หรือที่แพทยสภารับรอง หรือ ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม ผู้มีคุณสมบัติตามที่กำหนดในข้อบังคับแพทยสภาและคณะกรรมการอาจพิจารณาฟ้องทางคดีอาญาต่อไป
http://news.voicetv.co.th/thailand/78202.html
แพทยสภาเล็งฟ้องอาญา "หมอบอนด์" อ้างเป็นผู้เชี่ยวชาญเวชศาสตร์ครอบครัว
แพทยสภาเล็งฟ้องอาญา "หมอบอนด์" อ้างเป็นผู้เชี่ยวชาญเวชศาสตร์ครอบครัว หลังตรวจสอบพบไม่เคยได้รับหนังสืออนุมัติ บัตรสาขาดังกล่าว
เว็บไซต์โพสต์ทูเดย์ รายงานว่า วันนี้ (8ส.ค.56) ศ.นพ.สมศักดิ์ โล่ห์เลขา นายกแพทยสภา ได้แถลงถึงกรณีสมาชิกแพทยสภาร้องเรียนสำนักงานเลขาธิการแพทยสภา ให้ตรวจสอบกรณี นพ.ปิยะวงศ์ เศรษฐวงศ์ หรือหมอบอนด์ แอบอ้างว่าจบเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญสาขาเวชศาสตร์ครอบครัวนั้น คณะกรรมการแพทยสภาได้ดำเนินการตรวจสอบข้อมูลแล้วพบว่า นพ.ปิยะวงศ์ จบการศึกษาแพทยศาสตร์บัณฑิต จากคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ เมื่อวันที่ 1 เม.ย.2554 โดยที่แอบอ้างว่าได้รับหนังสืออนุมัติบัตรสาขาเวชศาสตร์ครอบครัวนั้น จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าไม่เคยได้รับหนังสืออนุมัติบัตรสาขาดังกล่าว จึงเห็นควรส่งเรื่องของ นพ.ปิยะวงศ์ ให้คณะอนุกรรมการจริยธรรมดำเนินการทางคดีจริยธรรม
ทั้งนี้เนื่องจากเข้าข่ายความผิดตามมาตรา 28 แห่งพระราชบัญญัติวิชาชีพเวชกรรม 2525 ระบุว่า ห้ามมิให้ผู้ใด ใช้คำหรือข้อความที่แสดงให้ผู้อื่นเข้าใจว่าตนเป็นผู้มีความรู้ความชำนาญในการประกอบวิชาชีพเวชกรรมสาขาต่างๆ ทั้งนี้ รวมถึงการใช้ จ้าง วาน หรือยินยอมให้ผู้อื่นกระทำดังกล่าวให้แก่ตน เว้นแต่ ผู้ได้รับวุฒิบัตรหรือหนังสืออนุมัติเป็นผู้มีความรู้ความชำนาญในการประกอบวิชาชีพเวชกรม สาขานั้นๆ จากแพทยสภา หรือที่แพทยสภารับรอง หรือ ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม ผู้มีคุณสมบัติตามที่กำหนดในข้อบังคับแพทยสภาและคณะกรรมการอาจพิจารณาฟ้องทางคดีอาญาต่อไป
http://news.voicetv.co.th/thailand/78202.html