ให้ผู้อื่นเขียนวิทยานิพนธ์ให้บางส่วนมีโทษสถานใด?

ในกรณีที่มีหลักฐานบ่งชี้ว่าผู้ใดผู้หนึ่งให้คนอื่นเขียนวิทยานิพนธ์ให้ตนเองเป็นบางหัวข้อ เช่น ตนเองเขียนเอง 70% ผู้อื่นเขียน 30%  (ตัวอย่าง ตัวเองเขียนหัวข้อ 3.1 อีกคนเขียนหัวข้อ 3.2 แล้วเอามาผนวกรวมกันออกมาเป็นวิทยานิพนธ์) จะมีโทษสถานใดคะ ต้องริบคืนปริญญาบัตรหรือไม่ และคนที่เขียนให้จะมีโทษไปด้วยไหมคะ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 6
ที่ จขกท พูดใน คคห 4 ว่า

“พอมาเห็นคำตอบแล้วรู้สึกแย่จังค่ะ คนทุจริตลอยนวลกันง่ายจังเลยนะคะ  แม้แต่กฎหมายหรือสถานศึกษายังเอาผิดไม่ได้...สงสัยต้องรอกรรมตามสนองแล้วล่ะค่ะ”
^

คือเราอยากจะชี้ทางสว่างให้คุณว่าคุณลืมคิดถึงอะไรไป

คือโครงสร้างของสังคมไทยและความเชื่อของคนในสังคมไทยมันทำให้จำเป็นต้องมีการว่าจ้างเขียนวิทยานิพนธ์กัน  
^
เพราะอะไร?

ก่อนอื่นเราต้องเทียบสังคมอื่นในประเทศที่เจริญแล้วอย่างประเทศอังกฤษเป็นต้น เด็กฝรั่งเรียนไม่เก่งก็ไม่จำเป็นต้องดั้นด้นเรียนเอาปริญญาให้ได้เพราะไปทำงานใช้แรงงานหรืองานบางอย่างที่ไม่ต้องมีปริญญาอย่างเช่น คนขับแท็กซี่ คนขับรถbus คนเก็บขยะ กรรมกรก่อสร้าง ก็ได้ค่าตอบแทนไม่แพ้คนจบปริญญาตรีมา  โดยเฉพาะอย่างยิ่งเศรษฐีใหม่ในประเทศอังกฤษสมัยนี้ส่วนใหญ่มาจากกรรมกรก่อสร้างเพราะค่าแรงกรรมกรก่อสร้างที่นั่นแพงลิบลิ่ว

แต่ในเมืองไทยมีการกดขี่แรงงาน ดังนั้นจึงมีมหาลัยที่มีเกณฑ์การรับเข้าเรียน การเรียนการสอน และการทดสอบที่ต่ำกว่ามาตรฐานผุดขึ้นมาในเมืองไทยเป็นดอกเห็ดเพื่อเป็นอัศวินม้าขาวมาช่วยเด็กไทยที่เรียนไม่เก่งให้รอดพ้นจากการเป็นกรรมกร (การเป็นกรรมกรในเมืองไทยเท่ากับอนาคตดับวูบ!) เพราะระบบการศึกษาไทยล้างสมองคนไทยไปแล้วให้คิดว่า

“คนมีการศึกษาคือคนเรียนจบปริญญาเท่านั้น และคนไม่จบปริญญาคือคนที่มีการศึกษาต่ำ”

การมีมหาลัยที่ต่ำกว่ามาตราฐานตั้งมากมายผุดขึ้นมาทำธุรกิจด้านการศึกษา มันเข้าข่ายที่เรียกว่า

"เมื่อมี demand (demand for degrees) มันก็ต้องมี supply (สินค้าก็คือ degrees)"

แต่จะว่ากันไปนะ คือจริงๆแล้วอาจารย์ที่สอนในมหาลัยที่ต่ำกว่ามาตรฐานจะตรวจสอบว่าวิทยานิพนธ์รายไหนนักศึกษาไม่ได้เขียนเอง แล้วอาจารย์ลงโทษนักศึกษารายนั้นโดยการลงโทษปรับเป็นเรียนไม่จบ ก็ย่อมทำได้โดยง่ายดาย แต่คุณ จขกท เคยคิดไหมว่า

“นั่นเป็นการขุดหลุมฝังศพตัวอาจารย์เอง!”
^
เพราะอะไร?  
ตอบ
ถ้ามหาลัยที่ทำธุรกิจด้านการศึกษาเข้มงวดระดับนั้น ต่อไปเด็กที่เรียนไม่เก่งที่แห่กันไปเข้าเรียนมหาลัยที่ต่ำกว่ามาตรฐานก็จะไม่มีใครเรียนจบรับปริญญากัน  จนก็ไม่มีเด็กเรียนไม่เก่งที่ไหนเสียเวลาเสียเงินไปเข้าเรียนเพราะพวกเขารู้ว่า "เรียนไปไงก็ไม่ได้ปริญญา"  จนในที่สุดมหาลัยก็จะรับนักศึกษาไม่ได้  จนมหาลัยกลายเป็นไม่มีรายได้ จนต้องปิดไป แล้วอาจารย์ก็จะตกงานกันหมด!
^
มันเป็น straightforward logic
เหมือนๆกับที่เวลา Dr. Watson สงสัยว่า Sherlock Holmes สืบสวนคดีได้ด้วยกระบวนความคิดแบบไหน  Sherlock Holmes ก็จะตอบว่า

“It’s elementary, my dear Watson.”

และ straightforward logic อีกอย่างหนึ่งที่เป็น paradox ซึ่งมองเห็นยาก นั่นก็คือตอนเราไปอยู่ประเทศอังกฤษใหม่ๆแล้วเห็นเด็กฝรั่งเรียนไม่เก่งออกมาทำงานใช้แรงงานเยอะๆ (ไม่เหมือนเด็กไทยที่ต้องพยายามเรียนให้จบปริญญา) เราเคยหลงคิดว่า

“อีกหน่อยนะประเทศอังกฤษก็คงถอยหลังลงคลองเพราะจะมีคนจบปริญญาน้อยลงไปเรื่อยๆ”
^
แต่ที่ไหนได้มันตรงข้ามกับที่เราคิด เพราะอะไร?

1 ประเทศอังกฤษไม่ถอยหลังลงคลองเพราะการมีกรรมกรที่มีคุณภาพช่วยพัฒนาประเทศได้ดีกว่าการมีบัณฑิต มหาบัณฑิต และดุษฎีบัณฑิตที่เรียนไม่เก่งแต่ดันมีวุฒิสูงๆเป็นใบเบิกทางเพื่อเข้าไปทำงานในตำแหน่งใหญ่ๆ  ดังจะเห็นว่าสมัยหนึ่ง John Major ก็ยังได้รับเลือกตั้งให้เป็นนายกอังกฤษได้ทั้งๆที่เขาไม่มีปริญญาเลยสักใบ

2 แต่ในทางกลับกัน ประเทศไทยสิกลายเป็นถอยหลังลงคลองเพราะการมีมีบัณฑิต มหาบัณฑิต และดุษฎีบัณฑิตที่เรียนไม่เก่ง เป็นจำนวนตั้งมากมาย (ซึ่งเผลอๆโง่กว่ากรรมกรอังกฤษซะอีก) ซึ่งจบจากมหาลัยปลายแถว เข้าไปนั่งตำแหน่งใหญ่ๆในหน่วยงานสำคัญๆ เพราะประเพณีไทยโดยส่วนใหญ่แล้วจะจ้างคนตามวุฒิการศึกษา  และคนวุฒิสูงๆแต่โง่มากๆเหล่านี้นั่นแหละที่เข้าไปกำหนดนโยบายและทำการบริหารงานในหน่วยงานสำคัญๆให้พังพินาศย่อยยับไป จนกลายเป็นสาเหตุที่ทำให้ประเทศไทยล้าหลัง

ตอนนี้คุณ จขกท ก็น่าจะเห็นทางสว่างมากพอที่จะตอบคำถามในเรื่องที่คุณสงสัย ได้แล้วนะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่