ตามอ่านเรื่องนี้ของบงกชมาตั้งแต่เล่มแรกจนถึงเล่ม 7 ก็นับว่าถูกใจพอควร และพอเห็นแสกนอังกฤษออกส่วนของเล่ม 8 ก็ไปอ่านทันทีแล้วก็ประทับใจกับบทบาทของนายมัฟมูทในเล่มนี้จริงๆ
จากผลงานในเล่ม 7 ที่สามารถหยุดการก่อกบฎของแคว้นทั้ง 4 ได้ทำให้มัฟมูทได้กลับมาเป็นปาชาอีกครั้ง และได้รับตำแหน่งเป็นผู้นำกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งเมื่อเจ้าตัวได้รับตำแหน่งที่เสียไปตั้งแต่เล่มแรกคืนมาก็ตั้งมั่นว่าครั้งนี้จะไม่ยอมให้จักรวรรดิ์บัลไทน์เป็นฝ่ายโจมตีก่อนข้างเดียวอีกต่อไป แต่จะขอเป็นฝ่ายเปิดฉากรุกบ้าง ทว่าเขาจะทำได้อย่างไรในเมื่อเขาไม่มีกำลังทหารติดตัวเลยนอกจากผู้ติดตามที่ปุเลงๆผจญภัยกันมาอีกแค่ 2 เท่านั้น?
ก็ด้วย "การค้า" ยังไงล่ะครับ
ขอไม่เล่ารายละเอียดว่าไปยังไงมายังไงเพราะจากเรตการออกของเรื่องนี้ในไทยก็ไม่น่าจะต้องรอกันนานนัก แต่จะขอเล่าเฉพาะผลลัพธ์พอสังเขป ว่าด้วยความสามารถอ่านเหตุการณ์ขาดของทั่นรมต.ต่างประเทศ สามารถใช้การวางแผนทำให้ "ข้าวสาลี" กลายเป็นชนวนให้แคว้นเสือนอนกินประจำเรื่องอย่างเวเนดิคต้องเปิดศึกกับจักรวรรดิ์บัลไทน์ได้โดยที่เจ้าตัวไม่ได้แม้แต่จะก้าวเท้าเข้าไปในประเทศทั้งสองเลยด้วยซ้ำ แต่ใช้เพียง "การเจรจาการค้า" ก็สามารถทำให้
ับสิงห์กัดกันได้แล้ว ซึ่งก็ได้ผลสองต่อโดยต่อแรกนั้นคือการทำให้แผนการบุกเตอร์กีเย่ของบัลไทน์ต้องชะงักลง และต่อที่สองก็คือเมื่อทำให้เวเนดิคเกิดมีเรื่องกับบัลไทน์ไปแล้วก็เท่ากับการันตีได้เลยว่าทางเวเนดิคต้องกลายมาเป็นพันธมิตรกับเตอร์กีเย่ที่มีปัญหากับบัลไทน์ด้วยเช่นกันอย่างแน่นอน เรียกว่างานนี้ผลที่ได้นั้นคุ้มเกินคุ้ม
แถมที่เด็ดที่สุดก็คือสิ่งที่มัฟมูทเจรจาการค้าเพื่อใช้เป็นชนวนให้เกิดศึกนี้ขึ้นมานั้นไม่ใช่ข้าวสาลีด้วยซ้ำไป! เรียกว่างานนี้ทั่นรมต.ต่างประเทศโชว์เหนือสุดๆจนเห็นออร่าลาสบอสแผ่ออกมาเลยเชียว
สำหรับผู้ที่สนใจคาดว่าอีกไม่นานบงกชก็คงจะออกเล่ม 8 ที่มีเหตุการณ์ที่ผมว่ามานี้อย่างแน่นอน แต่ถ้าทนรอไม่ไหวก็ไปดูตามเวปสแกนอังกฤษได้ตามสะดวกครับ
Altair ดาวจรัสฟ้า อินทรีถลาลม 8 : ตาพระเอกนี่เข้าใกล้ความเป็นลาสบอสเข้าไปเรื่อยๆแล้วแฮะ (สปอย)
จากผลงานในเล่ม 7 ที่สามารถหยุดการก่อกบฎของแคว้นทั้ง 4 ได้ทำให้มัฟมูทได้กลับมาเป็นปาชาอีกครั้ง และได้รับตำแหน่งเป็นผู้นำกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งเมื่อเจ้าตัวได้รับตำแหน่งที่เสียไปตั้งแต่เล่มแรกคืนมาก็ตั้งมั่นว่าครั้งนี้จะไม่ยอมให้จักรวรรดิ์บัลไทน์เป็นฝ่ายโจมตีก่อนข้างเดียวอีกต่อไป แต่จะขอเป็นฝ่ายเปิดฉากรุกบ้าง ทว่าเขาจะทำได้อย่างไรในเมื่อเขาไม่มีกำลังทหารติดตัวเลยนอกจากผู้ติดตามที่ปุเลงๆผจญภัยกันมาอีกแค่ 2 เท่านั้น?
ก็ด้วย "การค้า" ยังไงล่ะครับ
ขอไม่เล่ารายละเอียดว่าไปยังไงมายังไงเพราะจากเรตการออกของเรื่องนี้ในไทยก็ไม่น่าจะต้องรอกันนานนัก แต่จะขอเล่าเฉพาะผลลัพธ์พอสังเขป ว่าด้วยความสามารถอ่านเหตุการณ์ขาดของทั่นรมต.ต่างประเทศ สามารถใช้การวางแผนทำให้ "ข้าวสาลี" กลายเป็นชนวนให้แคว้นเสือนอนกินประจำเรื่องอย่างเวเนดิคต้องเปิดศึกกับจักรวรรดิ์บัลไทน์ได้โดยที่เจ้าตัวไม่ได้แม้แต่จะก้าวเท้าเข้าไปในประเทศทั้งสองเลยด้วยซ้ำ แต่ใช้เพียง "การเจรจาการค้า" ก็สามารถทำให้ับสิงห์กัดกันได้แล้ว ซึ่งก็ได้ผลสองต่อโดยต่อแรกนั้นคือการทำให้แผนการบุกเตอร์กีเย่ของบัลไทน์ต้องชะงักลง และต่อที่สองก็คือเมื่อทำให้เวเนดิคเกิดมีเรื่องกับบัลไทน์ไปแล้วก็เท่ากับการันตีได้เลยว่าทางเวเนดิคต้องกลายมาเป็นพันธมิตรกับเตอร์กีเย่ที่มีปัญหากับบัลไทน์ด้วยเช่นกันอย่างแน่นอน เรียกว่างานนี้ผลที่ได้นั้นคุ้มเกินคุ้ม
แถมที่เด็ดที่สุดก็คือสิ่งที่มัฟมูทเจรจาการค้าเพื่อใช้เป็นชนวนให้เกิดศึกนี้ขึ้นมานั้นไม่ใช่ข้าวสาลีด้วยซ้ำไป! เรียกว่างานนี้ทั่นรมต.ต่างประเทศโชว์เหนือสุดๆจนเห็นออร่าลาสบอสแผ่ออกมาเลยเชียว
สำหรับผู้ที่สนใจคาดว่าอีกไม่นานบงกชก็คงจะออกเล่ม 8 ที่มีเหตุการณ์ที่ผมว่ามานี้อย่างแน่นอน แต่ถ้าทนรอไม่ไหวก็ไปดูตามเวปสแกนอังกฤษได้ตามสะดวกครับ