(ภาค 4) เบสิค System Trade กับครึ่งแรกปี 2013

กระทู้สนทนา
กระทู้นี้แตกประเด็นจาก http://ppantip.com/topic/30176253

จากการพิสูจน์ทั้ง 3 ไตรภาคที่ผ่านมา ทำให้เราได้ทราบแล้วว่าสำหรับเด็กเทคนิค "การกระจายหุ้น ได้กำไรมากกว่าการจัดเต็ม"
การถือหุ้นเพียงแค่ไม่กี่ตัว จะทำให้ MaxDD และ Ulcer Index พุ่งขึ้นอย่างน่าตกใจ แล้ว %CAR ก็ลดลงอย่างน่าใจหาย
...อุตส่าห์จัดเต็ม แต่ตับเราแตกซะเอง แถมตังก็ได้น้อยลง...

ระบบที่ดีที่สุด กลับไม่ใช่ระบบที่ให้ %Win สูงสุด กลับไม่จำเป็นต้องเล่นสั้น
ดูอย่างกลุ่มเด็กแนวสิ
เขาเน้นซื้อเมื่อ RSI > 70, ขายเมื่อ RSI < 30 และกระจายความเสี่ยงถือหุ้นทีละ 20 ตัว
แต่ตลอดทั้ง 12 ปี เขาทำกำไรได้เฉลี่ยถึง 18.21% ต่อปี ทั้งๆที่โอกาสถูกต้อง %Win ของเขามีเพียงแค่ 46.45% เท่านั้น
เทียบกับ SET ที่ทำได้แค่ 8.23% ต่อปี ...ชนะขาดลอย
และที่สำคัญเขาถือหุ้นกันเฉลี่ยนานถึง 163 วันเลยนะ (ประมาณ 7-8 เดือนถึงจะขาย !)
กำไรเฉลี่ย 18.21% ต่อปี ยาวนานถึง 12 ปี ...โดยไม่จำเป็นต้อง Daytrade ด้วยซ้ำ !!

แต่

แล้วสำหรับปี 2013 ล่ะ เวลาเปลี่ยน ตลาดก็เปลี่ยนไปแล้ว
แก๊ง 4 โมงเย็นก็มาบ่อยขึ้น ...ทุบที -40 จุด ลากทีก็ +40 จุด ผันผวนมากขึ้น วอลุ่มก็สูงขึ้น
แล้วมันยังจะให้ผลเหมือนเดิมอยู่ไหม ? แล้วเราจะยังใช้มันได้อยู่หรอ ?

ระบบเทรดเนี่ย มันเชื่อได้จริงๆหรอ ?

มาดูกัน กับการทดสอบ เบสิค System Trade กับครึ่งแรกปี 2013

(ยืมรูปจากเน็ต)

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่