สูตรการคำนวณเงินชราภาพของมาตรา 33 และมาตรา 39 ที่ไม่เป็นธรรมนี้ มิได้เกิดจากกฎหมาย พรบ.ประกันสังคม พ.ศ.2533 และกฎกระทรวงฯ ข้อ 2. แต่อย่างใด แต่เกิดขึ้นจากการ "ตีความ" กฎหมายมาตรา 42 แห่งพระ

ไม่แน่ใจปรับไปยัง หรือแค่เสนอไอเดียครับ ที่บอกว่าให้เอา 20% ของค่าเฉลี่ยเงินเดือนทั้งหมดมาคำนวณ เหมือน บางกรณีได้เงินบำนาญลดลงป่าวครับ

ตอนนี้ว่างงาน อายุมากแล้ว ไม่แน่ใจอนาคตจะได้งานไหม และประกันสังคมเหลือส่ง 3 งวด จึงเกิดสิทธิบำนาญ คำถามคือ 1.จะส่งประกันสังคมต่ออีกสามงวดเพื่อรับบำนาญ หรือไม่ส่งต่อแล้วรับบำเหน็จดีกว่ากัน 2.นโยบายล่า

อยากรู้ว่ามีใครเป็นผู้ประกันตนมาตรา 39 ที่ส่งมาจนถึงได้บำนาญแล้วบ้าง ได้เท่าไหร่กันคะ เราส่งมาตรา 39 อยู่ อยากทราบเป็นข้อมูลค่ะ และคนที่ได้บำนาญแล้ว ยังมีสิทธิได้รับเบี้ยกับยังชีพคนชราด้วยหรือเปล่าค

มีญาติที่เป็นพนักงานฝ่ายผลิตทำงานมานานแล้ว ส่งเงินสมทบตามมาตรา 33 เกิน 180 เดือน  ต่อมาออกจากงาน เลยสมัครประกันสังคมตามมาตรา 39 ปัจจุบันอายุ 50 ปี  กรณีนี้บำนาญชราภาพ เมื่ออายุ 55 ปี จะคิดจา

พอดี เคยใช้ประกันสังคมมาตรา 33 มีโรคเบาหวาน และความดัน ที่หาหมอประจำ แต่เพิ่งจะเลืกทำงาน เลยไม่รู้ว่าควรจะต่อมาตรา 39 ดีไหม เนื่องจาก ได้ส่งครบ 15 ปีที่จะได้บำนาญแล้ว ขณะเดียวกันยังกังวลว่า หากเปลี่ยน

เขาจะให้เราเข้า ม39 ให้ได้ บอกว่า ไม่เข้าสิทธิต่างๆจะหายหมด ทุกคนเขาก็เข้ากันหมด เป็นแบบที่ จนท. เขาบอกไหมครับ ปล. เงินเดือนเราสูงอยู่

พระราชบัญญัติประกันสังคม มาตราที่ 77 ทวิ กล่าวไว้ว่า “มาตรา ๗๗ ทวิ ในกรณีที่ผู้ประกันตนจ่ายเงินสมทบมาแล้วไม่น้อยกว่า 180 เดือนให้มีสิทธิได้รับเงินบำนาญชราภาพตั้งแต่เดือนถัดจากเดือนที่อายุครบห้าส

เข้ารักษาตัวโควิด14วันแล้วจะได้เงินทดแทนเท่าไหร่ คิดยังไง คัยรุ้ช่วยตอบที