จากประสบการณ์โดยตรง เจ้าของกระทู้พึ่งเคยตั้งกระทู้ เพราะไม่คิดว่าจะประสบกับตัวเอง แต่อยากจะแชร์ให้ได้อ่านกัน ผิดพลาดอะไรก็ขออภัยนะคะ
เริ่มจาก ... ไอโฟน 4 32 G มือ 1 ราคา 11,XXXบาท* *เป็นเครื่องที่เอามาปลดล็อคไม่ใช่เครื่องศูนย์
ซื้อจากห้างตึกคอมชลบุรี ร้านอยู่บริเวณทางออกไปที่จอดรถชั้นมือถือ ชื่อร้าน ด.... โมบาย ซึ่งมีสาขาที่เซ็นทรัล ชลบุรีด้วย
วันแรกที่ซื้อมา กลับมาจากร้านมีปัญหาเวลาตั้งสั่น เครื่องไม่สั่น สภาพเครื่องรอบๆเครื่องไม่ลาย หน้าจอปกติ ดูผิวเผินเครื่องดูใหม่และค่อนข้างสภาพดีทีเดียว แต่ดันมีปัญหาเลยตัดสินใจกลับไปให้ทางร้านเปลียนเครื่องให้ใหม่
(ระยะเวลารับประกัน 7 วันหลังจากวันที่ซื้อเครื่อง สามารถเปลี่ยนเครื่องใหม่)
วันที่ 2 ที่ไปเปลี่ยนเครื่องมีลูกค้าที่ซื้อไอโฟน4 สีดำไปก่อนหน้านี้ ได้กลับมาขอเคลมเครื่องใหม่เป็นครั้งที่ 2 เนื่องจากสาเหตุอะไรดิฉันก็ไม่ได้ยินแน่ชัด แต่ได้ยินแค่ว่าลูกค้าคนนั้นต้องการจะเปลี่ยนจากไอโฟนที่ซื้อมาจากร้านนั้น มาใช้ G-Net แทน เพราะเบื่อที่ ไอโฟนที่ซื้อไปมีปัญหาได้มาเคลมที่ร้านถึง 2 ครั้ง ทางร้านก็แจ้งว่าลูกค้าคนนั้นว่า มีพี่คนเดียวเนี่ยแหละที่เคลมเครื่องบ่อยที่สุด
ลูกค้าคนนั้นก็ตอบไปว่าถ้าเครื่องมันไม่มีปัญหาผมก็ไม่เสียเวลามาเคลมหรอก (เอ่อ... มันก็จริงค่ะ)
จากนั้นผู้ขายก็หันหน้ามาหาดิฉันแจ้งว่าอาจจะเป็นเพราะเครื่องหลุด QA ตรวจสอบ เลยทำให้มีปัญหานี้ แล้วให้ดิฉันรอถึงประมาณบ่าย 3 โดยอ้างว่าจะต้องเอาเครื่องจากศูนย์มาให้ (ศูนย์ไหนก็ไม่รู้ รู้แต่ว่าศูนย์น่าจะห่วยแตกมาก) จะได้ของประมาณบ่าย 3 ค่อยมารับที่ร้าน ดิฉันก็รอจนกระทั้งบ่าย 3 แล้วกลับไปที่ร้าน
ความรู้พื้นฐานอันน้อยนิดที่ดิฉันมีเคยดูผ่านตาจากเน็ตและเพื่อนเคยซื้อไอโฟน 4 มือ 2 มาเขาบอกให้ดูตรง Model ของเครื่อง
ถ้าเป็นเครื่องที่เคยถูกเคลมมาส่วนใหญ่จะลงท้ายด้วย LL (รึป่าวไม่แน่ใจ..แต่ส่วนใหญ่เข้าใจว่าอย่างนี้ค่ะ)
ปรากฏว่าเครื่องนั้นเป็นเครื่องที่มีโมเดลลงท้ายด้วย LL ทั้งที่เครื่องแรกที่เอาไปเคลมโมเดลไม่ได้ลงท้ายด้วย LL แต่เป็น k/a
ซึ่งเพื่อนดิฉันที่ซื้อเครื่องมือสองไปโมเดลก็เป็น LL ดิฉันเลยเอะใจ สอบถามกับทางผู้ขายว่าทำไมโมเดลเครื่องเป็น LL
ผู้ขายแจ้งว่าโมเดลมันเป็นของเครื่องนอกประเทศเกาหลี?? Model : MC319LL/A
ทางร้านไม่มีทางทำให้ร้านเสียชื่อเพราะขี้เกียจจะมา Service ลูกค้าบ่อยๆ จากนั้นดิฉันก็ตรวจสอบรอบๆเครื่องขอบๆ ไม่มีรอยขีดข่วน
และด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ เพราะพึ่งจะเคยซื้อโทรศัพท์ไอโฟนเครื่องแรก เลยไม่รู้วิธีการตรวจเช็คสภาพว่าควรเช็คจุดไหนบ้างที่สำคัญๆ
ก็เลยยอมกลับทั้งๆที่ยังติดใจกับปัญหานั้นอยู่
พอกลับมาดิฉันเข้าไปอ่านในเน็ตอีกครั้ง กลับมาดูโมลเดลที่เครื่องมันน่าจะเป็นของ US มากกว่า แต่ดิฉันก็ไม่รู้ว่ามันจะผ่านเกาหลีมาตามที่
ทางร้านแจ้งจริงรึป่าว..เพราะไม่รู้อะไรเลย ดูวิธีเช็คเครื่องมือ 2 สิ่งแรกที่เช็คไอโฟน 4 วิธีเช็คให้เช็คที่แผ่นวัดความชื้นที่อยู่ตรงแท่นชาร์ต
และที่เสียบหูฟัง ว่าแผ่นนั้นเปลี่ยนสีรึป่าวโดยเอาไฟฉายส่อง ปรากฎว่า..แถบที่อยู่ตรงแท่นชาร์ตเป็นสีแดง !!!
อันดับ 2 เช็คปุ่มโฮม แถวปุ่มโฮมดูหลวมๆผิดสังเกต พอแตะๆจะรู้สึกได้ (ตอนอยู่ที่ร้านก็ตงิดใจอยู่แต่ก็ไม่ได้เอะใจ)
จริงๆปุ่มกดต้องแน่นกว่านี้ !!!! อันดับที่ 3 เช็คกล้อง ดิฉันลองถ่ายเปรียบเทียบกับเครื่องมือ 2 ที่เพื่อนซื้อมาสเป็คเดียวกัน ปรากฏว่ากล้องไม่ชัด ดูมัวๆ ส่องดูที่ด้านหลังตัวกล้องลายนิดหน่อย (นั่งเล็งแล้วเห็นรอยหน่อยๆ) ข้างๆกล้องที่เป็นจุดสีเหลืองๆก็ไม่เหมือนกับเครื่องที่เพื่อนซื้อมาเหมือนมีไอน้ำเกาะ
สรุป... เครื่องมือ 1 ที่ทางร้านแจ้งดิฉันว่าเป็นมือ 1 เมื่อเปรียบเทียบกับของเพื่อนที่ซื้อมือ 2 สเป็คเดียวกัน เครื่องมือ 1 ดูเยินกว่ามากๆ
ถ้าบอกว่าเป็นมือสองดิฉันจะไม่เสียความรู้สึกขนาดนี้ เพราะซื้อในราคามือ 1 แบบงงๆมา วันที่ 3 เลยกลับไปที่ร้านแล้วแจ้งผู้ขายไปว่าเป็นสภาพตามที่กล่าวมา ผู้ขายก็แถไปเรื่อย บลาๆๆๆ บอกว่าความชื้นมันอาจจะเกิดจากตอนประกอบเครื่องบลาๆๆ ฝุ่นที่อยู่ตรงที่ชาร์ตมันอาจจะอย่างนั้นอย่างนี้ บลาๆๆๆ กล้องก็ปกติโฟกัสอาจมือสั่น.. ???? เยอะแยะจะแถ หลอกกันชัดๆ ดิฉันโง่จริงๆ โง่เองที่ไปซื้อร้านนี้ ผู้ขายเลยแจ้งว่าเดี๋ยวทางร้านจะเคลมให้อีกเป็นรอบที่ 3 แต่อีก 2 – 3 วันจะถึงได้ เพราะต้องส่งไปให้ที่ศูนย์เช็ค
โอ้วววแม่เจ้า..ถ้ารู้ว่ามันลำบากขนาดนี้ ดิฉันตัดสินใจซื้อที่ศูนย์ที่จับต้องได้ดีกว่า แกะออกจากกล่องต่อหน้ากันเลย เสียน้อยเสียยาก เสียมากเสียง่าย จริงๆดิฉันซื้อโทรศัพท์ก็ต้องการที่จะใช้งานได้เลยนี่มันผ่านมา 3 วัน ที่มาเคลมแล้วยังจะต้องไปเคลมใหม่อีก 3 วัน สรุปเกือบอาทิตย์ที่ดิฉันไม่ต้องทำอะไรเลยมาเคลมแต่โทรศัพท์ ทั้งๆที่จ่ายเงินไปครบแล้ว ระยะเวลารับประกันเครื่องทางร้านให้เคลมได้ 7 วัน นี่ก็เกือบครบแล้ว แล้วก็ไม่รู้ว่าเคลมมาจะเอาเครื่องไหนให้อีก ปวดหัวจริงๆค่ะ ดิฉันเลยยอมตัดสินใจขายเพราะใจไม่อยากได้ของร้านนี้แล้ว
ยอมขาดทุน 4,000 ถือว่าเป็นค่าโง่ที่โดนแบบนี้ เป็นบทเรียนราคาแพง เงินนั้นเอาไปบริจาคดิฉันจะได้บุญมากกว่านี้...
เตือนใจตัวเองและอยากจะเตือนคนอื่นให้ทราบว่าการเลือกซื้อโทรศัพท์ถ้าเจอร้านดีก็ดีไป แต่ถ้าเจอร้านห่วยแตก ย้อมแมว
ผู้ขายไม่มีจรรยาบรรณในการขายก็จะเป็นแบบนี้ เสียดายทั้งเวลา ทั้งเงิน เสียความรู้สึก โง่เอง...
สุดท้ายดิฉันตัดสินใจไปที่ศูนย์สีฟ้าซื้อไอโฟน 4S เครื่องใหม่ พนักงานแกะพลาสติกแกะกล่องต่อหน้า พนักงานที่ศูนย์ก็แนะนำให้ตรวจสอบ
ตรงนั้นตรงนี้ก่อนรับสินค้า บลาๆๆ สุดท้ายก็จ่ายตังค์ แพงกว่าแต่ดิฉันสบายใจกว่าค่ะ ไม่ต้องกลับไปพร้อมความกังวลต่างๆนาๆ
แต่ไม่ใช่ว่าเครื่องที่ร้านทุกร้านไม่ดีนะคะ เพื่อนดิฉันที่ซื้อมือ 2 ร้านที่เค้าซื้อดีมากค่ะ แต่วันที่ดิฉันไปเค้าปิดร้านเลยได้มาเจอร้านนี้
ร้านที่มีจรรณาบรรณซื่อสัตย์กับลูกค้า ไม่ย้อมแมวขายก็มีอีกเยอะค่ะ
ก่อนซื้อโทรศัพท์เพราะข้อมูลดิฉันไม่แน่นเอง คือไม่มีข้อมูลอะไร เลยเจอเหตุการณ์แบบนี้ ..
เตือนภัย !!! เป็นอุทาหรณ์สำหรับผู้ที่กำลังมองหาหรือต้องการจะซื้อโทรศัพท์มือถือ
เริ่มจาก ... ไอโฟน 4 32 G มือ 1 ราคา 11,XXXบาท* *เป็นเครื่องที่เอามาปลดล็อคไม่ใช่เครื่องศูนย์
ซื้อจากห้างตึกคอมชลบุรี ร้านอยู่บริเวณทางออกไปที่จอดรถชั้นมือถือ ชื่อร้าน ด.... โมบาย ซึ่งมีสาขาที่เซ็นทรัล ชลบุรีด้วย
วันแรกที่ซื้อมา กลับมาจากร้านมีปัญหาเวลาตั้งสั่น เครื่องไม่สั่น สภาพเครื่องรอบๆเครื่องไม่ลาย หน้าจอปกติ ดูผิวเผินเครื่องดูใหม่และค่อนข้างสภาพดีทีเดียว แต่ดันมีปัญหาเลยตัดสินใจกลับไปให้ทางร้านเปลียนเครื่องให้ใหม่
(ระยะเวลารับประกัน 7 วันหลังจากวันที่ซื้อเครื่อง สามารถเปลี่ยนเครื่องใหม่)
วันที่ 2 ที่ไปเปลี่ยนเครื่องมีลูกค้าที่ซื้อไอโฟน4 สีดำไปก่อนหน้านี้ ได้กลับมาขอเคลมเครื่องใหม่เป็นครั้งที่ 2 เนื่องจากสาเหตุอะไรดิฉันก็ไม่ได้ยินแน่ชัด แต่ได้ยินแค่ว่าลูกค้าคนนั้นต้องการจะเปลี่ยนจากไอโฟนที่ซื้อมาจากร้านนั้น มาใช้ G-Net แทน เพราะเบื่อที่ ไอโฟนที่ซื้อไปมีปัญหาได้มาเคลมที่ร้านถึง 2 ครั้ง ทางร้านก็แจ้งว่าลูกค้าคนนั้นว่า มีพี่คนเดียวเนี่ยแหละที่เคลมเครื่องบ่อยที่สุด
ลูกค้าคนนั้นก็ตอบไปว่าถ้าเครื่องมันไม่มีปัญหาผมก็ไม่เสียเวลามาเคลมหรอก (เอ่อ... มันก็จริงค่ะ)
จากนั้นผู้ขายก็หันหน้ามาหาดิฉันแจ้งว่าอาจจะเป็นเพราะเครื่องหลุด QA ตรวจสอบ เลยทำให้มีปัญหานี้ แล้วให้ดิฉันรอถึงประมาณบ่าย 3 โดยอ้างว่าจะต้องเอาเครื่องจากศูนย์มาให้ (ศูนย์ไหนก็ไม่รู้ รู้แต่ว่าศูนย์น่าจะห่วยแตกมาก) จะได้ของประมาณบ่าย 3 ค่อยมารับที่ร้าน ดิฉันก็รอจนกระทั้งบ่าย 3 แล้วกลับไปที่ร้าน
ความรู้พื้นฐานอันน้อยนิดที่ดิฉันมีเคยดูผ่านตาจากเน็ตและเพื่อนเคยซื้อไอโฟน 4 มือ 2 มาเขาบอกให้ดูตรง Model ของเครื่อง
ถ้าเป็นเครื่องที่เคยถูกเคลมมาส่วนใหญ่จะลงท้ายด้วย LL (รึป่าวไม่แน่ใจ..แต่ส่วนใหญ่เข้าใจว่าอย่างนี้ค่ะ)
ปรากฏว่าเครื่องนั้นเป็นเครื่องที่มีโมเดลลงท้ายด้วย LL ทั้งที่เครื่องแรกที่เอาไปเคลมโมเดลไม่ได้ลงท้ายด้วย LL แต่เป็น k/a
ซึ่งเพื่อนดิฉันที่ซื้อเครื่องมือสองไปโมเดลก็เป็น LL ดิฉันเลยเอะใจ สอบถามกับทางผู้ขายว่าทำไมโมเดลเครื่องเป็น LL
ผู้ขายแจ้งว่าโมเดลมันเป็นของเครื่องนอกประเทศเกาหลี?? Model : MC319LL/A
ทางร้านไม่มีทางทำให้ร้านเสียชื่อเพราะขี้เกียจจะมา Service ลูกค้าบ่อยๆ จากนั้นดิฉันก็ตรวจสอบรอบๆเครื่องขอบๆ ไม่มีรอยขีดข่วน
และด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ เพราะพึ่งจะเคยซื้อโทรศัพท์ไอโฟนเครื่องแรก เลยไม่รู้วิธีการตรวจเช็คสภาพว่าควรเช็คจุดไหนบ้างที่สำคัญๆ
ก็เลยยอมกลับทั้งๆที่ยังติดใจกับปัญหานั้นอยู่
พอกลับมาดิฉันเข้าไปอ่านในเน็ตอีกครั้ง กลับมาดูโมลเดลที่เครื่องมันน่าจะเป็นของ US มากกว่า แต่ดิฉันก็ไม่รู้ว่ามันจะผ่านเกาหลีมาตามที่
ทางร้านแจ้งจริงรึป่าว..เพราะไม่รู้อะไรเลย ดูวิธีเช็คเครื่องมือ 2 สิ่งแรกที่เช็คไอโฟน 4 วิธีเช็คให้เช็คที่แผ่นวัดความชื้นที่อยู่ตรงแท่นชาร์ต
และที่เสียบหูฟัง ว่าแผ่นนั้นเปลี่ยนสีรึป่าวโดยเอาไฟฉายส่อง ปรากฎว่า..แถบที่อยู่ตรงแท่นชาร์ตเป็นสีแดง !!!
อันดับ 2 เช็คปุ่มโฮม แถวปุ่มโฮมดูหลวมๆผิดสังเกต พอแตะๆจะรู้สึกได้ (ตอนอยู่ที่ร้านก็ตงิดใจอยู่แต่ก็ไม่ได้เอะใจ)
จริงๆปุ่มกดต้องแน่นกว่านี้ !!!! อันดับที่ 3 เช็คกล้อง ดิฉันลองถ่ายเปรียบเทียบกับเครื่องมือ 2 ที่เพื่อนซื้อมาสเป็คเดียวกัน ปรากฏว่ากล้องไม่ชัด ดูมัวๆ ส่องดูที่ด้านหลังตัวกล้องลายนิดหน่อย (นั่งเล็งแล้วเห็นรอยหน่อยๆ) ข้างๆกล้องที่เป็นจุดสีเหลืองๆก็ไม่เหมือนกับเครื่องที่เพื่อนซื้อมาเหมือนมีไอน้ำเกาะ
สรุป... เครื่องมือ 1 ที่ทางร้านแจ้งดิฉันว่าเป็นมือ 1 เมื่อเปรียบเทียบกับของเพื่อนที่ซื้อมือ 2 สเป็คเดียวกัน เครื่องมือ 1 ดูเยินกว่ามากๆ
ถ้าบอกว่าเป็นมือสองดิฉันจะไม่เสียความรู้สึกขนาดนี้ เพราะซื้อในราคามือ 1 แบบงงๆมา วันที่ 3 เลยกลับไปที่ร้านแล้วแจ้งผู้ขายไปว่าเป็นสภาพตามที่กล่าวมา ผู้ขายก็แถไปเรื่อย บลาๆๆๆ บอกว่าความชื้นมันอาจจะเกิดจากตอนประกอบเครื่องบลาๆๆ ฝุ่นที่อยู่ตรงที่ชาร์ตมันอาจจะอย่างนั้นอย่างนี้ บลาๆๆๆ กล้องก็ปกติโฟกัสอาจมือสั่น.. ???? เยอะแยะจะแถ หลอกกันชัดๆ ดิฉันโง่จริงๆ โง่เองที่ไปซื้อร้านนี้ ผู้ขายเลยแจ้งว่าเดี๋ยวทางร้านจะเคลมให้อีกเป็นรอบที่ 3 แต่อีก 2 – 3 วันจะถึงได้ เพราะต้องส่งไปให้ที่ศูนย์เช็ค
โอ้วววแม่เจ้า..ถ้ารู้ว่ามันลำบากขนาดนี้ ดิฉันตัดสินใจซื้อที่ศูนย์ที่จับต้องได้ดีกว่า แกะออกจากกล่องต่อหน้ากันเลย เสียน้อยเสียยาก เสียมากเสียง่าย จริงๆดิฉันซื้อโทรศัพท์ก็ต้องการที่จะใช้งานได้เลยนี่มันผ่านมา 3 วัน ที่มาเคลมแล้วยังจะต้องไปเคลมใหม่อีก 3 วัน สรุปเกือบอาทิตย์ที่ดิฉันไม่ต้องทำอะไรเลยมาเคลมแต่โทรศัพท์ ทั้งๆที่จ่ายเงินไปครบแล้ว ระยะเวลารับประกันเครื่องทางร้านให้เคลมได้ 7 วัน นี่ก็เกือบครบแล้ว แล้วก็ไม่รู้ว่าเคลมมาจะเอาเครื่องไหนให้อีก ปวดหัวจริงๆค่ะ ดิฉันเลยยอมตัดสินใจขายเพราะใจไม่อยากได้ของร้านนี้แล้ว
ยอมขาดทุน 4,000 ถือว่าเป็นค่าโง่ที่โดนแบบนี้ เป็นบทเรียนราคาแพง เงินนั้นเอาไปบริจาคดิฉันจะได้บุญมากกว่านี้...
เตือนใจตัวเองและอยากจะเตือนคนอื่นให้ทราบว่าการเลือกซื้อโทรศัพท์ถ้าเจอร้านดีก็ดีไป แต่ถ้าเจอร้านห่วยแตก ย้อมแมว
ผู้ขายไม่มีจรรยาบรรณในการขายก็จะเป็นแบบนี้ เสียดายทั้งเวลา ทั้งเงิน เสียความรู้สึก โง่เอง...
สุดท้ายดิฉันตัดสินใจไปที่ศูนย์สีฟ้าซื้อไอโฟน 4S เครื่องใหม่ พนักงานแกะพลาสติกแกะกล่องต่อหน้า พนักงานที่ศูนย์ก็แนะนำให้ตรวจสอบ
ตรงนั้นตรงนี้ก่อนรับสินค้า บลาๆๆ สุดท้ายก็จ่ายตังค์ แพงกว่าแต่ดิฉันสบายใจกว่าค่ะ ไม่ต้องกลับไปพร้อมความกังวลต่างๆนาๆ
แต่ไม่ใช่ว่าเครื่องที่ร้านทุกร้านไม่ดีนะคะ เพื่อนดิฉันที่ซื้อมือ 2 ร้านที่เค้าซื้อดีมากค่ะ แต่วันที่ดิฉันไปเค้าปิดร้านเลยได้มาเจอร้านนี้
ร้านที่มีจรรณาบรรณซื่อสัตย์กับลูกค้า ไม่ย้อมแมวขายก็มีอีกเยอะค่ะ
ก่อนซื้อโทรศัพท์เพราะข้อมูลดิฉันไม่แน่นเอง คือไม่มีข้อมูลอะไร เลยเจอเหตุการณ์แบบนี้ ..