มาทำรถให้ประหยัดน้ำมันดีกว่า

กระทู้สนทนา
น้าหยอยมาแว้ววววววว......(ยอดจะไม่เจียมสังขารเลยนะน้าหยอย.....เสียงใครไม่รู้ดังแว่วๆมาหลายทิศ).......
อย่างที่บอกล่วงหน้าไป2-3วันแล้วนะครับว่าหากมีเวลาว่าง ผมจะเขียนวิธีทำรถมอเตอร์ไซค์ให้ประหยัด.เพื่อให้ใครก็ได้ที่สนใจ-มาเก็บเกี่ยวเอาความรู้นี้ไปใช้........(ที่จริงใครๆก็คงทำกันได้แหละ เพียงแต่ขี้เกียจเข้ามาเขียนกระทู้.......)

คงรู้กันแล้วว่า ราคาน้ำมันเชิ้อเพลิงในช่วงนี้ราคาจ่อลิตรละ40บาทเข้าไปแล้ว......ค่าแรงขั้นต่ำวันละ300บาทนั่น แทบจะไม่มีความหมายเมื่อเราต้องแบ่งเงินมาเติมน้ำมันวันละ100บาท.......สมมติว่าบ้านผมอยู่เตาปูนแล้วขับรถไปทำงานสำโรง.....ค่าน้ำมันทั้งไปและกลับก็หมดไปแล้ว100บาท.....ยังไม่ได้กินข้าวกลางวันเลยนะเนี่ย.....แล้วจะเหลืออะไรเก็บ-หากไม่ใช่หนี้

ในซอยบ้านผมมีมอเตอร์ไซค์เมล์อยู่30กว่าคัน.......เมื่อปีก่อนใครจะออกไปปากซอยก็ 5 บาท(ระยะทาง700เมตร) พอต้นปีก็เพิ่มเป็น7บาท...ปัจจุบันกลายเป็น10บาทไปแล้ว.......วิ่งรถทั้งวันจะเสียค่าน้ำมันไป100บาทกว่าๆ เขาบอกว่าแทบไม่เหลือกำไร....สรุปแล้ว ผมเลยคิดว่าจะทำรถให้ประหยัดน้ำมันเพื่อกระจายผลให้กับสังคมนำไปใช้ประโยชน์จะดีกว่าอะไรทั้งหมด....ใครคิดว่าพอจะมีความรู้ทางด้านช่างอยู่บ้างก็เชิญทำตามได้เลย.

แต่บอกเสียก่อนนะครับว่ารถต้นแบบที่ผมทำอยู่นี้เป็นรถระบบคาบูเรเตอร์.ไม่มีรถแบบหัวฉีดอยู่ในครอบครองก็เลยไม่รู้จะเอาข้อมูลมาจากไหน....ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจกันเสียก่อนว่า มันมีวิธีการทำอยู่3แบบ คือแบบ1.........ลดมุมองศาของเพลาราวลิ้นให้ป้อนน้ำมันเข้าห้องเผาไหม้ให้น้อยลง(อันนี้ต้องเป็นช่างจริงๆ).....แบบ2 คือลดขนาดของคาบูเรเตอร์ให้เล็กลง(อันนี้ต้องรู้จักเลือกขนาดของนมหนูให้สัมพันธ์กับตัวคาบิว(ต้องเฟ้นหากันเหนื่อยหน่อย-แต่ประหยัดจริงๆ)........และแบบ3 เป็นการทำคาบูเรเตอร์เดิมให้มีขนาดเล็กลง....(อันนี้สามารถทำเองได้ตามตัวอย่างที่ผมจะทำให้ดูนะครับ)

ตานี้มาทำความเข้าใจระดับพื้นๆ เพื่อให้เราเข้าถึงกึ๋นของคนที่ริจะทำรถประหยัดน้ำมัน(ท่านอื่นที่ไม่มีความรู้ทางช่างยนต์ก็สามารถนำหลักการไปใช้ได้ครับ).......คือโดยหลักการแล้ว เครื่องยนต์(ต่อไปผมจะเรียกสั้นๆว่ารถนะครับ เขียนคำว่าเครื่องยนต์เพื่อให้ถูกหลักไวยากรณ์แล้วมันยาวไป-เสียเวลาเปล่าๆ)......รถทั่วไปจะมีการเผาไหม้ได้สมบูรณ์ที่สุดจะต้องมีสัดส่วนของอากาศ15ส่วนและน้ำมัน1ส่วน เขียนง่ายๆว่า1/15

หากน้ำมันลงน้อยกว่าหรือมากไปกว่านั้นก็จะสตาร์ทยากหรือสตาร์ทติดแล้วไม่มีแรง นี่คือหลักการง่ายๆ......ตัวการสำหรับควบคุมอัตราการป้อนน้ำมันเชื้อเพลิงให้คงที่15/1จะประกอบไปด้วยอุปกรณ์ 3 ชิ้นดังนี้......1 นมหนูเดินเบา(บางคนเรียกนมหนูอากาศ).....2 เข็มเร่ง........3 นมหนูตัวใหญ่......ทั้ง3ชิ้นส่วนนี้รวมกันอยู่ในวัตถุชนิดหนึ่งที่เราเรียกกันว่าคาบูเรเตอร์(ท่านที่รู้แล้วก็ผ่านเลยไปนะครับ)

การที่รถจะวิ่งเร็ว/วิ่งช้าก็อยู่ที่เราจะเปิดอากาศ(บิดคันเร่ง).....คันเร่งก็จะไปดึงลูกเร่งให้เผยอตัวขึ้น อากาศก็จะเข้าไปในห้องเผาไหม้มาก.....ตัวเข็มเร่งนี้ถูกยึดติดอยู่กับลูกเร่ง....ก็จะถูกชักตามขึ้นมา....มันก็จะเปิดให้ัน้ำมันเบ็นซินให้เข้ามาผสมกับอากาสที่มากขึ้นไปตามสัดส่วน(พูดง่ายๆว่ามันเป็นก็อกก็แล้วกัน).....นี่คือการควบคุมให้น้ำมันและอากาศมีสัดส่วน1/15อยู่เสมอ-ตราบใดที่เครื่องยนต์ยังติดอยู่

หากเราจะหักด้ามพร้าฯด้วยการลดขนาดของรูนมหนูให้เล็กลงจะได้ไหม(มันจะได้ประหยัดลงไปไง)........ตอบว่าได้ครับ แต่อาการตอบสนองของมันจะแสดงผลให้เห็นอยู่ตลอดเวลาของการขับรถ คือเครื่องเร่งแบบกระชากบ้าง.เครื่องจะดับบ้าง......และไม่ได้อัตราการประหยัดอย่างที่เราต้องการ......คือยังไงก็ไปเปลี่ยนชิ้นส่วนทั้ง3นี้มิได้......

แล้วจะทำไงถึงจะทำให้รถประหยัดได้.........หากทั้ง3สิ่งนี้จะต้องพึ่งพิงซึ่งกันและกัน......คำตอบก็คือ 1 ลดองศาของเพลาราวลิ้นลง50% เพื่อให้ส่วนผสม1/15ของไอดีไหลเข้าห้องเผาไหม้สั้นลง(โดยเรามิได้ไปแตะอุปกรณ์ทั้ง3สิ่งที่กล่าว)....ซึ่งผมบอกไปแล้วว่าต้องมือระดับช่างมีระดับ...เราทำเองมิได้.......ตอนนี้ผมจะเอารูปที่ผมทำเพลาราวลิ้นองศาต่ำๆสำหรับทำให้รถประหยัดมาลงให้ดู (คุณจะได้เข้าใจ)

รูปตรงมีของแหลมๆชี้คือลูกเบี้ยวที่จะไปเตะวาล์วให้ไอดีไหลเข้าไปในเครื่องยนต์
รูป2 ตรงจุดที่ชี้ จะเห็นว่าลูกเบี้ยวถูกเจียร์ลดขนาดลงไปกว่า50%(แค่นี้ก็ทำให้รถวิ่งได้เกือบ100กม/ชม.นะครับ)
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่