สคบ. สั่งงดฉายโฆษณา เปปทีน แล้ว หลังพบ 4 ประเด็นทำผู้บริโภคเข้าใจผิด เตรียมเชิญ โอสถสภาฯ เข้าชี้แจง
หลังจากที่ สหพันธ์นิสิตนักศึกษาแพทย์แห่งประเทศไทยในพระอุปถัมภ์ศาสตราจารย์ ดร.สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณ์วลัยลักษณ์อัครราชกุมารี (สพท.) ได้เรียกร้องให้ บริษัท โอสถสภา จำกัด ในฐานะผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายเครื่องดื่ม "เปปทีน" ไม่ให้นำนิสิตหรือนักศึกษาแพทย์ มารับหน้าที่เป็นพรีเซ็นเตอร์โฆษณาเครื่องดื่มดังกล่าว เนื่องจากส่งผลให้เกิดภาพลักษณ์ที่ไม่เหมาะสม และเข้าข่ายละเมิดหลักจรรยาบรรณนิสิตนักศึกษาแพทย์ได้
นอกจากนี้ ยังมีการตรวจสอบพบว่า บริษัท โอสถสภาฯ เคยถูกสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เปรียบเทียบปรับเป็นจำนวน 5 ครั้ง เนื่องจากไม่ปฏิบัติตาม พ.ร.บ.อาหาร พ.ศ. 2522 ในความผิดฐานโฆษณาคุณประโยชน์ คุณภาพ หรือสรรพคุณของอาหารเพื่อประโยชน์ของการค้าโดยไม่ได้รับอนุญาต
อย่างไรก็ตาม ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อวานนี้ (29 กรกฎาคม 2556) นายจิรชัย มูลทองโร่ย เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ได้ทำหนังสือถึงบริษัท โอสถสภาฯ เพื่อขอความร่วมมือให้งดแพร่ภาพการโฆษณาเครื่องดื่ม "เปปทีน" แล้ว โดยระบุว่า โฆษณาดังกล่าวได้ระบุถึงการเตรียมสมองเพื่อพร้อมสอบ ซึ่งอาจจะทำให้เกิดความเข้าใจผิดต่อผู้บริโภคได้ ทาง สคบ. จึงได้หารือเรื่องดังกล่าวร่วมกันแพทยสภาและสำนักงาน อย. โดยพบประเด็นการโฆษณาที่อาจจะทำให้ผู้บริโภคเข้าใจผิด ดังนี้...
1. การโฆษณาเกี่ยวกับสรรพคุณของเครื่องดื่มที่มีผลต่อการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานสมอง เช่น ทำให้สมองปลอดโปร่ง ช่วยจัดระบบความจำ เติมความรู้ที่ขาด รวมทั้งการสื่อให้เข้าใจว่าเมื่อดื่มแล้วจะสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ อาทิ คณะแพทยศาสตร์ คณะทันตแพทยศาสตร์
2. การโฆษณาที่สื่อให้เข้าใจว่าเมื่อเข้าร่วมโครงการเตรียมสมองพร้อมสอบจะสอบติดทั่วประเทศ
3. ความเหมาะสมของการนำนักศึกษาที่เรียนอยู่ในมหาวิทยาลัยต่าง ๆ มาโฆษณา โดยไม่ได้รับอนุญาตจากมหาวิทยาลัยที่เกี่ยวข้อง
4. การสื่อให้เข้าใจว่าหากเข้าร่วมโครงการเตรียมสมองพร้อมสอบจะทำให้ได้เป็นแพทย์เกี่ยวกับสมองหรือแพทย์เกี่ยวกับตา ซึ่งการสอบเข้ามหาวิทยาลัยดังกล่าวเป็นเพียงสอบเข้าเรียนต่อในระดับปริญญาตรีเท่านั้น การที่จะเป็นแพทย์ซึ่งเชี่ยวชาญเกี่ยวกับสมองหรือตา หรืออื่น ๆ จะต้องเรียนต่อโดยสอบเข้าเฉพาะด้านที่สูงกว่าปริญญาตรี และการเข้ามหาวิทยาลัยตามปกติ
ท้ายนี้ ทาง สคบ. ขอความร่วมมือบริษัท โอสถสภาฯ งดแพร่ภาพการโฆษณาในประเด็นดังกล่าว รวมทั้งประเด็นอื่น ๆ ที่อาจก่อให้เกิดความเข้าใจผิดต่อผู้บริโภคได้ นอกจากนี้ สคบ. จะเชิญบริษัท โอสถสภาฯ มาชี้แจงต่อคณะอนุกรรมการติดตามสอดส่องและวินิจฉัยการโฆษณาต่อไป
กระปุกดอทคอม+ สำนักข่าวอิศรา
รอดูกันต่อไปครับว่าจะมาแนวไหนอีก สำหรับโฆษณาชุดต่อไป
เปปทีน เครื่องดื่มเทวดา โดน สคบ สั่งงดฉายโฆษณาแล้วครับ
หลังจากที่ สหพันธ์นิสิตนักศึกษาแพทย์แห่งประเทศไทยในพระอุปถัมภ์ศาสตราจารย์ ดร.สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณ์วลัยลักษณ์อัครราชกุมารี (สพท.) ได้เรียกร้องให้ บริษัท โอสถสภา จำกัด ในฐานะผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายเครื่องดื่ม "เปปทีน" ไม่ให้นำนิสิตหรือนักศึกษาแพทย์ มารับหน้าที่เป็นพรีเซ็นเตอร์โฆษณาเครื่องดื่มดังกล่าว เนื่องจากส่งผลให้เกิดภาพลักษณ์ที่ไม่เหมาะสม และเข้าข่ายละเมิดหลักจรรยาบรรณนิสิตนักศึกษาแพทย์ได้
นอกจากนี้ ยังมีการตรวจสอบพบว่า บริษัท โอสถสภาฯ เคยถูกสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เปรียบเทียบปรับเป็นจำนวน 5 ครั้ง เนื่องจากไม่ปฏิบัติตาม พ.ร.บ.อาหาร พ.ศ. 2522 ในความผิดฐานโฆษณาคุณประโยชน์ คุณภาพ หรือสรรพคุณของอาหารเพื่อประโยชน์ของการค้าโดยไม่ได้รับอนุญาต
อย่างไรก็ตาม ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อวานนี้ (29 กรกฎาคม 2556) นายจิรชัย มูลทองโร่ย เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ได้ทำหนังสือถึงบริษัท โอสถสภาฯ เพื่อขอความร่วมมือให้งดแพร่ภาพการโฆษณาเครื่องดื่ม "เปปทีน" แล้ว โดยระบุว่า โฆษณาดังกล่าวได้ระบุถึงการเตรียมสมองเพื่อพร้อมสอบ ซึ่งอาจจะทำให้เกิดความเข้าใจผิดต่อผู้บริโภคได้ ทาง สคบ. จึงได้หารือเรื่องดังกล่าวร่วมกันแพทยสภาและสำนักงาน อย. โดยพบประเด็นการโฆษณาที่อาจจะทำให้ผู้บริโภคเข้าใจผิด ดังนี้...
1. การโฆษณาเกี่ยวกับสรรพคุณของเครื่องดื่มที่มีผลต่อการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานสมอง เช่น ทำให้สมองปลอดโปร่ง ช่วยจัดระบบความจำ เติมความรู้ที่ขาด รวมทั้งการสื่อให้เข้าใจว่าเมื่อดื่มแล้วจะสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ อาทิ คณะแพทยศาสตร์ คณะทันตแพทยศาสตร์
2. การโฆษณาที่สื่อให้เข้าใจว่าเมื่อเข้าร่วมโครงการเตรียมสมองพร้อมสอบจะสอบติดทั่วประเทศ
3. ความเหมาะสมของการนำนักศึกษาที่เรียนอยู่ในมหาวิทยาลัยต่าง ๆ มาโฆษณา โดยไม่ได้รับอนุญาตจากมหาวิทยาลัยที่เกี่ยวข้อง
4. การสื่อให้เข้าใจว่าหากเข้าร่วมโครงการเตรียมสมองพร้อมสอบจะทำให้ได้เป็นแพทย์เกี่ยวกับสมองหรือแพทย์เกี่ยวกับตา ซึ่งการสอบเข้ามหาวิทยาลัยดังกล่าวเป็นเพียงสอบเข้าเรียนต่อในระดับปริญญาตรีเท่านั้น การที่จะเป็นแพทย์ซึ่งเชี่ยวชาญเกี่ยวกับสมองหรือตา หรืออื่น ๆ จะต้องเรียนต่อโดยสอบเข้าเฉพาะด้านที่สูงกว่าปริญญาตรี และการเข้ามหาวิทยาลัยตามปกติ
ท้ายนี้ ทาง สคบ. ขอความร่วมมือบริษัท โอสถสภาฯ งดแพร่ภาพการโฆษณาในประเด็นดังกล่าว รวมทั้งประเด็นอื่น ๆ ที่อาจก่อให้เกิดความเข้าใจผิดต่อผู้บริโภคได้ นอกจากนี้ สคบ. จะเชิญบริษัท โอสถสภาฯ มาชี้แจงต่อคณะอนุกรรมการติดตามสอดส่องและวินิจฉัยการโฆษณาต่อไป
กระปุกดอทคอม+ สำนักข่าวอิศรา
รอดูกันต่อไปครับว่าจะมาแนวไหนอีก สำหรับโฆษณาชุดต่อไป