ที่เลือกเมนูนี้  เพราะคิดว่าจะแบ่งไปให้ลุงพัฒน์กับคนแถวๆหัวลำโพงซักนิดหน่อย  เนื่องจากลุงพัฒน์แกเป็นมุสลิมครับ  เลยเลือกไก่ทอด  เพราะวิธีทำไม่ยุ่งยาก  เลยไปซื้อปีกบนไก่หรือก็คือน่องไก่เล็ก 6กิโล  ส่วนข้าวเหนียวผมไปสั่งร้านที่ขายข้าวที่หุงแล้วครับ  สั่งข้าวเหนียวแบบ10บาท สั่งไป50ถุงครับ  เจ้าของร้านใจดีแถมมาให้หลายถุงเลยครับ  

วิธีทำก็ไม่ยากครับ  หมักไก่ด้วยซีอิ๋ว  น้ำตาลปีบ  น้ำตาลทราย  น้ำมันหอย  รากผักชี  กระเทียม  พริกไทย  แล้วก็เข้าตู้เย็นซักประมาณ1ชั่วโมง  


แป้งทอดกรอบ  ไว้คลุกไก่ แล้วนำไปทอดครับ  วันนี้ผมทอดแบบหนังกรอบ  ดังนั้นแป้งเราจะไม่ผสมน้ำครับ



น้ำมันสำหรับทอด  เอาให้มากพอท่วมไก่ที่เราจะทอดครับ  ไฟที่ใช้เป็นไฟกลางค่อนไปทางอ่อนครับ  เราจะไม่ใช้ไฟแรง  เพราะข้างนอกจะไหม้ก่อนที่ข้างในจะสุกครับ  



เวลาทอดเราก็คอยคน คอยพลิกไก่ในกะทะ  ไก่จะได้สุกเหลืองทั่ว  ไม่ไหม้  พอไก่เริ่มลอยให้ทอดต่อไปอีกซักพักครับ อย่าเพิ่งตักขึ้น  เพราะข้างในยังไม่สุก  พอคิดว่าสุกเหลืองทั่วแล้ว  ให้เราเร่งไฟแรง  แล้วคอยคน คอยพลิกไก่  เราจะเริ่มสังเกตว่าหนังไก่จะดูกรุบกรอบเลยครับ  แล้วก็ตักขึ้นพักไว้  พร้อมกับหรี่ไฟลงมา  จากนั้นเราจะใช้กระชอนตาถี่ๆ  ตักพวกเศษแป้ง ตะกอนต่างๆในกะทะขึ้นมาครับ  เพื่อไม่ให้ไก่ชุดต่อไปที่จะลงทอดมีเศษดำๆติดมาครับ





อันนี้เป็นข้าวเหนียวที่ไปซื้อมาครับ  เพราะผมหุงข้าวเหนียวไม่เป็นครับ  ไม่เคยหุงเลย  ก็เลยคิดว่าไปซื้อเอาดีกว่า  ตอนแรกสั่งแบบ5บาทไป  แม่ผมบอกว่ามันน้อยนะ  กลัวเค้าจะกินไม่อิ่ม  ผมเลยชะโงกหน้าไปดูในกล่องโฟมที่เค้าใช้ใส่ข้าวขาย  เห็นเลยว่าน้อยจริงๆ  แล้วแบบสิบบาท  ปริมาณจะเท่ากับเมื่อก่อนที่ขายกัน5บาทอ่ะครับ  แค่นี้ก็เห็นแล้วว่าข้าวของสมัยนี้แพงกว่าเมื่อ2-3ปีก่อนอย่างเห็นได้ชัดเลยครับ  นี่ขนาดว่าร้านนี้เจ้าของร้านขายถูกกว่าร้านอื่นๆแล้วด้วยนะครับ  และยังใจดีแถมให้อีกหลายถุงด้วยครับ



ชุดพร้อมแจกครับ  ปีกบนไก่สามชิ้น  ข้าวเหนียว1ถุง  แต่บางถุงจะได้ไก่แค่2ชิ้นครับ  เพราะข้าวเหนียวเหลือ  เลยเอาน่องไก่มาเฉลี่ยๆไปครับ


วันนี้ทำได้ประมาณเกือบๆ60ชุดครับ


ข้าวเหนียว ไก่ทอดมันจะแห้งๆ  แม่ผมกลัวว่าจะติดคอ  แม่ผมเลยขอเป็นเจ้าภาพซื้อน้ำขวดไปแจกด้วยครับ  ซื้อแค่4โหล  เพราะวันนี้ผมไปแจกคนเดียว  สามารถบรรทุกใส่มอเตอร์ไซด์ได้แบบสุดๆแค่นี้ครับ  มากกว่านี้ก็เอาไปไม่ไหวแล้ว


มีหลายคนถามว่าทำไมผมต้องไปแจกดึกๆ  เพราะว่าทุกวันจันทร์  ที่ศาลพระวิษณุ ตรงข้างๆวัดสุทัศน์  จะมีคนมาแจกเงินคนละ20ครับ  กว่าจะเดินกันมาถึงก็จะประมาณห้าทุ่ม  วันนี้ผมไปถึง  ลุงซาเล้งยังไม่มาเลยครับ  ยืนแกะพลาสติก แพคน้ำดื่ม  ซักพัก  ลุงกับป้าซาเล้งก็มาพอดีครับ

วันนี้ไปแจก  ผมไม่ต้องไปเดินแจกเลยครับ  เพราะคนแถวนั้นเค้ามานั่งรออยู่แล้ว



วันนี้ตอนแจกก็เลยวุ่นวายนิดนึง  ได้พี่คนนี้มาช่วยจัดคิวให้ครับ  ชื่อพี่เอ  พี่เอบอกว่าแกออกมาเร่ร่อนตั้งแต่เด็กๆแล้ว  ปัจจุบันอายุ40กว่า  เดินทางมาแล้วเกือบจะทั่วประเทศ  กลางวันแกจะเก็บขวดเก็บกระดาษไปขาย  บางวันก็จะไปยืนโบกธง ถือป้าย ตามหน้าโครงการคอนโด บ้านจัดสรรต่างๆ  ได้เงินวันละ350  ยืนตั้งแต่เก้าโมงเช้าถึงห้าโมงเย็น มีพักกลางวันหนึ่งชั่วโมงครับ  
พี่เอเล่าให้ฟังว่าช่วงนี้จะเป็นช่วงเวลาทองของพวกเค้าครับ  เพราะจะเป็นช่วงที่ศาลเจ้าจีนต่างๆจะจัดงานเทกระจาด  จะมีข้าวสาร  อาหารแห้งมาแจกให้มากมาย  และเกือบทุกคนจะมีลายแทงที่มีคนหัวใสทำมาขายแผ่นละ5บาทครับ  ลายแทงที่ว่านี้จะบอกว่าวันไหน ศาลเจ้าอะไร จะมีงานเทกระจาด  ซึ่งจะเน้นเฉพาะศาลเจ้าใหญ่ๆ  เอาแค่นี้ก็มีรายชื่อศาลเจ้าเต็มทั้งสองหน้าของกระดาษA4เลยครับ


ลุงซาเล้งบอกว่าไก่ทอดผมอร่อยมากครับ    


คนแถวนี้จะกินเก่งกันทุกคนเลยครับ  เผลอแป๊บเดียวกินกันหมดเกลี้ยงเลย  


ช่วงที่กำลังจะกลับ  ผมสังเกตเห็นลุงคนนึง  แกนั่งเอามือจับเท้า ก้มๆเงยๆ มาซักพักแล้ว  ผมเลยเดินไปคุยกับแกครับ  ถามว่าได้ของกินรึยัง  ลุงแกบอกว่าได้แล้ว  พี่เอเค้าหิ้วมาให้  ผมเลยถามต่อว่า  เท้าเป็นอะไร  แกเลยเอามือออก  ผมแทบช็อกเลย  คราบเลือดแห้งๆเต็มเท้าแกเลย  ลุงแกบอกว่าขากลับจากที่เดินไปรับเงิน20บาท  แกเดินเตะเหล็กอะไรไม่รู้  เพราะมันมืด  มองไม่เห็น  แล้วเลือดก็ออกมาเยอะ  แกก็พยายามเดินมาให้ถึงที่ตรงนี้  



ทีแรกที่ผมเห็น  ผมกะว่าจะโทรเรียกศูนย์นเรนทร 1669 แล้วครับ  ศูนย์นี้ขอชื่นชม  เพราะเค้าไม่รังเกลียดเพื่อนมนุษย์ด้วยกันครับ  แต่ลุง(ชื่อลุงปัญญาครับ)  แกไม่ให้โทรเรียก  แกบอกว่าแผลเล็กนิดเดียว  แต่เท่าที่ผมดู นิ้วโป้งเท้าแกบวมเป่งเลยครับ  ผมก็บอกแกว่าอย่างน้อยก็ต้องล้างแผลแล้วใส่ยาฆ่าเชื้อ  ไม่งั้นอาจจะได้ตัดเท้านะลุง  ผมเลยไปซื้อน้ำกับยาที่เซเว่น  ต้องปากทางที่จะเลี้ยวเข้ามาครับ



เอาน้ำล้างๆ  แล้วให้แกเอาทิชชู่  ซับๆเช็ดๆ  จึงได้เห็นแผลจริงๆ ก็ค่อยโล่งอกหน่อย  เพราะแผลไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด  


พอแห้งแล้วก็ใส่ยาให้แก  ตอนใส่ยานี่แกร้องใหญ่เลย  เสร็จแล้วก็เอาพาราให้แกกินสองเม็ด  แกบอกว่าแกมีบัตรทองอยู่เกษมราษฎร์บางแค  ผมเลยบอกว่าให้แกไปหาหมอ  เพราะอย่างน้อยก็ต้องฉีดยากันบาดทะยักก่อน  

วันนี้ขอจบเพียงเท่านี้ก่อนนะครับ  ขอให้ทุกท่านมีความสุขมากๆนะครับ

ปล.  ผมขอฝากแฟนเพจของผมไว้ด้วยนะครับ  https://www.facebook.com/pages/Kindness_to_Homeless/324141314388092