Review BGH สบายๆ...

กระทู้สนทนา
ผมเขียนความเห็นเกี่ยวกับ BGH เอาไว้ในกระทู้หนึ่ง...
"นักวิเคราะห์บอก BGH กำไร Q2 ลดลง -36 % QoQ.."
http://ppantip.com/topic/30775771

การโตของ BGH โต 2 ด้านครับ โตด้านasset ที่เกิดจากการซื้อโรงพยาบาลอื่นที่ดำเนินงานได้ทันที ไม่ได้ต้องไปก่อสร้างใหม่มากมาย ย่อมสะท้อนไปที่ส่วนของผู้ถือหุ้นย่อมโตตามไปด้วย และโตด้านกำไรจากการดำเนินงานแม้ Q จากลดก็ตาม แต่ Y ก็ยังทำงานได้ดี การร่วงของราคากลับเป็นผลดีต่อการลงทุนปรับ port ส่วนบุคคลมากกว่า

นำอัตราค่าห้องมาให้ดู..


จากเวปของโรงพยาบาลเอง...
http://www.bangkokhospital.com/index.php?p=th/roomrates_bgh&lang=TH

พาผบ.ทบ.ไปรพ. BGH ทุกอาทิตย์ เห็นความคึกคักของลูกค้า(ผู้ป่วย+ญาติผู้ป่วย) บอกผบ.ทบ.ว่า ได้มาเยี่ยมชมกิจการ เดินทั่วโรงพยาบาล ไปทางไหนก็สะดวก เชื่อมโยงระหว่างตึกใหม่ ตึกเก่า ดูพี่ยามที่ยืนโบกรถบนแท่นปูนทรงกลมโบกซ้ายขวาหน้าหลังคนเดียวกลางสี่แยก พอจะเห็นความคึกคักของผู้มาใช้บริการได้ส่วนหนึ่ง

ใกล้แผนกกายภาพบำบัด ก็มีแผนกแผนจีน ฝังเข็ม นวดแผนจีน ยาสมุนไพรจีน ลูกค้ามาใช้บริการก็มากจริงๆ ดูจากโหงวเฮ้งแล้ว แต่ละคนมีความสามารถในการจ่ายสูงมาก แต่ละครั้งไม่ต่ำกว่า 5,000 ขนาดของผบ.ทบ.ผมแค่ค่าหมอก็ปาเข้าไป 900 บาท อื่นรวมๆกัน 5,000 ยาที่ให้มามีแค่ viartril เท่านั้น

ที่จอดรถกว่าจะหาที่จอดได้ แต่ละชั้นมีตัวเลข Digital บอกจำนวนช่องจอดที่ว่างเหลือแต่ละชั้น จำนวนรถแต่ละวัน แต่ละเดือน แต่ละปี คงประมาณรายได้ว่ามากมายขนาดไหน อาทิตย์ก่อนได้จอดชั้น 6 อาทิตย์นี้ได้จอดชั้น 8 ทั้งค่าเช่าร้านค้าภายในอีก เขามาเช่าร้านเรา เราก็อุดหนุน Fuji เขาเหมือนกัน มีหลายร้านที่น่าสนใจ

เวลาใดที่นึกอยากขายหุ้นขึ้นมา ก็มานั่งๆนอนๆโรงพยาบาล มาดูกิจการของเราแล้วก็ไม่อยากขายอ่ะครับ ตัวนี้ขายไปทุกรอบต้องรับกลับมาราคาสูงทุกครั้ง...

อาจจะเป็นข้อมูลให้เห็นว่า ราคาที่ถือว่าสูงนี้ ผู้ใช้บริการยังเห็นว่ามีความจำเป็น สูงยังไงก็ยังมีความสามารถในการจ่าย เพราะส่วนมากมีประกันทั้งนั้น ซึ่ง cover อยู่ในเบี้ยประกันชีวิตอยู่แล้ว หรือส่วนมากก็เป็นระดับผบห.ตามบริษัทต่างๆมีงบให้สามารถเบิกได้ การปรับราคาเพื่อชดเชยกำไรรายไตรมาสที่ลดลงได้อีกอาจจะนำมาพิจารณาก็ได้

โดยส่วนตัว อยากได้ราคาถูกกว่านี้มากๆ รวมเหตุการณ์ ชะลอQE และกีฬาสีในเดือนหน้า อาจจะสมหวังก็ได้ ลุ้นเห็นต่ำร้อยยิ่งชอบ อยากได้ราคาช่วง panic แรงๆ...

เพื่อนท่านหนึ่งได้แย้งในคห.ที่ 7 ว่า...
การที่ไปซื้อกิจการอื่นๆ  ก็บอกโต้งๆว่า ซื้อมา  ไม่ได้มาฟรีๆสักหน่อย  
assets เพิ่ม   เงินสดก็ลดตาม + หนี้เพิ่มขึ้น  ในจำนวนเท่ากัน  
สรุปคือ   ส่วนของผู้ถือหุ้น  ไม่ได้เพิ่มแต่อย่างใด

แต่ที่เห็นเพิ่มขึ้น นั่นเป็นเพราะมีการตีราคาสินทรัพย์ใหม่ทั้งหมด  ทำให้มีมูลค่าเพิ่มมากในส่วนของที่ดิน
ซึ่งหลังจากนี้ก็จะทรงตัว ไม่ได้กำไรส่วนเกินมูลค่าแล้ว  

นอกจากนั้น เงินที่กู้มา ปีแรกๆดอกเบี้ยจะต่ำมากเป็นพิเศษ และยังไม่ต้องคืนเงินต้น
แต่หลังจากนี้ จะต้องทยอยคืน


ผมก็ทั้งเห็นด้วยว่าจริง แต่อีกส่วนหนึ่งเห็นว่า ไม่เสมอไปหากเรามองกันที่"เชิงปริมาณ" หากแต่ได้ซ่อนความนัยบางอย่างใน"เชิงคุณภาพ"อยู่ด้วย ตัวอย่างในเชิงคุณภาพ คือความรู้สึกของผถห.ที่ถือจนได้เงินปันผล และส่วนต่างราคาทุนกับราคาตลาด  หากเรายึดถือตามนโยบายการจ่ายเงินปันผลที่ยื่นต่อตลาดหลักทรัพย์ในวันที่จดทะเบียน คือ บริษัทฯ ได้กำหนดนโยบายการจ่ายเงินปันผลอย่างเป็นรูปธรรม โดย “บริษัทฯ จะจ่ายเงินปันผลเป็นจำนวนไม่ต่ำกว่าร้อยละ 50 ของกำไรทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับการขยายธุรกิจและความต้องการใช้เงินทุนของบริษัทในแต่ละปีด้วยโดยต้องได้รับอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้น” ยกเว้นการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลซึ่งสามารถอนุมัติจ่ายได้โดยคณะกรรมการบริษัท หากคณะกรรมการบริษัทเห็นว่า บริษัทฯ มีผลประกอบการที่ดีและมีสภาพคล่องเพียงพอ...."

ในปีที่ผ่านมา(2556) บ.มีกำไรต่อหุ้น 5.14 บาท/หุ้น บ.ต้องจ่าย 2.57 บาท/หุ้น ครับ ไม่ใช่ 1.80 บาท/หุ้น  เท่ากับว่าบ.จ่ายเพียง 35% ไม่ใช่ 50% บ.กันกำไรเอาไว้อยู่ในส่วนของผถห.เพื่อเป็นทุนซื้อสินทรัพย์บ.อื่นเพิ่มในราว 0.77 บาท/หุ้น นี่ยังไงครับ  asset เพิ่ม แต่ไม่มีหนี้สิน และเงินสดไม่ได้ไหลออกแต่ประการใด ผถห.ต่างหากที่ลงขันกันซื้อกิจการอื่นๆเพิ่ม ดังนั้น เท่ากับว่า หากผถห.ท่านใดที่เคยได้รับเงินปันผล 1.80 บาท/หุ้น ของงวดผลการดำเนินงานปี 2556 ที่จ่ายเข้าบัญชีผถห.ในวันที่ 3 พฤษภาคม 2556 แล้วขายออกไปตั้งแต่วันขึ้นเครื่องหมาย XD ย่อม สูญเสียส่วนของตนเองอีก 0.77 บาท/หุ้น ที่ควรได้รับไปเปล่าๆต่างหาก!!!!

BGH ตอบความต้องการของผมได้หลายข้อ ทั้งเรื่องของกระแสเงินสดจาก 3 แหล่ง ซึ่งกิจการส่วนมากมีเพียง 1 หรือ 2 แหล่งหลักๆเท่านั้น เท่ากับว่าบ.ไม่ได้นิ่งนอนใจกับรายได้หลักจากการดำเนินงานเพียงเท่านั้น ยังมีหุ้นกู้ให้เล่น มีการลงทุนในบ.จดทะเบียนอื่นที่เราเห็นเรื่องการซื้อๆขายๆกิจการนั่นเอง บ.นี้เห็นหนี้สินระยะยาวมากก็จริงอยู่ แต่เมื่อลองแกะงบมาดู ก็จะพบว่า หนี้สินระยะยาวมี 21,482 ล้านบาท ขณะที่มีประมาณการกำไรสุทธิไตรมาสละ 2,000 ล้าน เท่ากับว่า ใช้เวลาในการล้างหนี้สินระยะยาวเพียง 2.7 ปี ถือว่ากำลังดี และนี่ถือเป็นจุดดีแบบที่เพื่อนท่านนั้นกล่าวไว้ข้างต้นว่า "..เพิ่มขึ้น นั่นเป็นเพราะมีการตีราคาสินทรัพย์ใหม่ทั้งหมด.." ขณะที่หนี้สิน ถูก fixed เอาไว้ ไม่มีใครไปตีราคาหนี้สินลด หรือเพิ่มได้....

BGH มี fixed income ในรูปของค่าเช่าร้านค้า อยากให้ผู้ซื้อขายหุ้นได้มองประเด็นนี้บ้าง จุดนี้ต่างจากโรงพยาบาลทั่วไปมาก เห็นผู้ป่วยที่โรงพยาบาลจุฬาฯ โรงพยาบาลศิริราช โรงพยาบาลรามาฯ โรงพยาบาลพระมงกุฏฯ จำนวนมาก ใครๆก็อยากถือหุ้นโรงพยาบาลรัฐฯแบบนี้กันทั้งนั้น แต่ใครเขาจะให้คุณๆไปถือละครับ อ่าว..แล้วทำไมโรงพยาบาลเอกชนแถบกล้วยน้ำไท หรือโรงพยาบาลใกล้วัดธาตุทอง คุณไม่ไปขอถือหุ้นละครับ โรงพยาบาลพวกนี้ไม่มีกระแสเงินสดจาก 3 แหล่งยังไงละครับ ยิ่งไม่ค่อยจะมีพื้นที่ร้านค้าเช่าที่เป็น fixed income ของโรงพยาบาลอีก นั่นก็เป็นอีกเหตุผลของผู้สนใจธุรกิจโรงพยาบาล คงไม่ใช่โรงพยาบาลอะไรก็ได้ แต่คงต้องเลือกโรงพยาบาลชั้นนำที่ได้เปรียบทางการแข่งขันตามหลักเกณฑ์การเลือกหุ้นที่ลงทุนตาม style ของปู่ warren ข้อหนึ่ง

วันนี้ผมก็พาผบ.ทบ.ไปทำกายภาพบำบัดที่"โรงพยาบาลของเรา"อีก ผมคงไม่ได้กล่าวผิด เพราะเรื่องอะไรจะไปรักษาที่โรงพยาบาลอื่นที่ผมไม่ได้ประโยชน์ อีกทั้งบ.ที่ผบ.ทบ.ทำงานอยู่ก็มีสวัสดิการค่ารักษาพยาบาล เธอทำงานใช้คอมฯมาก มีปวดเมื่อยเป็นธรรมดา ก็ไปใช้บริการหน่อย ไปใช้บริการหมอนวดแผนไทยก็เบิกค่ารักษาพยาบาลไม่ได้(อันนี้ช่วยไม่ได้ครับ เพราะสภาวิชาชีพแพทย์แผนไทยที่กำลังเป็นรูปเป็นร่าง ก็มีหมอแผนปัจจุบันเข้าไปมีบทบาทควบคุมอยู่) เพราะไหนๆบ.ก็ต้องจ่ายอยู่แล้ว ก็ให้มาจ่ายที่"โรงพยาบาลของเรา"ไม่ดีกว่าหรือ?

ไหนๆก็มา"โรงพยาบาลของเรา"แล้ว(สัปดาห์นี้มาใช้บริการ 2 ครั้ง) มาชมกิจการ"โรงพยาบาลของเรา" ผมก็เก็บภาพมาให้ดูความคึกคักของร้านค้าช่วงวันจันทร์บ่ายๆกันดู ก่อนเวลานัดแพทย์ ก็review ร้านอาหารญี่ปุ่น Fuji(มาที่ไร ต้องมา review อาหารญี่ปุ่นร้านนี้ ก็เขาอุดหนุนเรา เราก็อุดหนุนเขา เขาจะได้เช่าพื้นที่จาก"โรงพยาบาลของเรา"เรื่อยๆ)


มี 3 โต๊ะที่มีmovement  และใกล้โต๊ะผมมากที่สุด ผมเลยเก็บภาพมาให้ดูว่าร้านค้าที่เช่าพื้นที่"โรงพยาบาลของเรา"อยู่ได้ เขาก็ยังคงเช่าต่อ หากนั่งตบยุง อาจจะกระเทือนรายได้ค่าเช่า"โรงพยาบาลของเรา"ในอนาคตได้

ภาพที่ 1 โต๊ะ 2 และ 3 ว่าง


5 นาทีผ่านไป...
ภาพที่ 2 โต๊ะ 2 และ 3 ไม่ว่างแล้ว!


25 นาทีผ่านไป...
ภาพที่ 3 โต๊ะ 2 ลูกค้ายังสั่งทานต่อเนื่อง แต่โต๊ะ 3 เช็คบิลแล้ว


ผมใช้เวลา review อาหารอยู่ 30 นาที ช่วง 25 นาที โต๊ะเต็มครับ!!!

เดินชมร้านค้าส่วนที่เรียกว่า"บางกอกพลาซา" ร้านค้าเช่ามากมาย ทั้งธนาคาร 3 แห่ง BBL...TMB...KBANK


Black Canyon...
เพียงครู่เดียว ลูกค้าก็เข้ามาใช้บริการ


Au Bon Pain และ Dunkin' Donuts หรือเครือของ SST นั่นเอง
          

บูธเช่ารอบๆก็ไม่ให้เสียพื้นที่ อาทิตย์ที่ผ่านมาเป็นการขายพื้นที่เพื่อเตียงอเนกประสงค์พับได้ทั้งนั่ง และนอน ตัวละ 2,700.- วันนี้ขายพื้นที่ให้ TOYOTA กำลังทำตลาดรถกระบะ และ VIOS รุ่นใหม่ พื้นที่เล็กแบบนี้วันละหมื่น!!

  
"โรงพยาบาลของเรา" ทางเชื่อมระหว่างตึกเก่า และใหม่ การปรับภูมิทัศน์ยังดำเนินการไปเรื่อย...


ตั้งใจว่าจะเขียนแบบม้วนเดียวจบไม่มีแก้ไขข้อมูล แต่ดันลืมข้อมูลหนึ่งไป อุตส่าห์ถ่ายภาพเอาไว้เป็นหลักฐานว่า ลูกค้ามาใช้บริการแน่นยังไง ก็ที่จอดรถที่มีเครื่องหมาย Digital บอกช่องจอดรถจำนวนที่ว่างอยู่(Vacant) ผมลงจากที่จอดรถวันจันทร์ที่ 29 เวลาประมาณ 6 โมงเย็น พระเจ้าช่วยกล้วยทอด ทั้งตึกจอดรถมีจำนวนชั้นจอดรถรวม 9 ชั้น และมีชั้น A อยู่ด้วย จึงถือว่าสามารถจัดพื้นที่จอดรถได้รวมทั้งหมด 18 ชั้น แต่ว่างอยู่เพียง 17 ช่องจอดเท่านั้น นอกนั้น FULL ...FULL...!!!! พอจะบอกปริมาณลูกค้าของ"โรงพยาบาลของเรา" ได้ไม๊ว่ามากมายขนาดไหน อีกทั้งรถก็ติดระหว่างชั้นอย่างที่เห็น "โรงพยาบาลของเรา" ไม่ใช่โรงพยาบาลร้าง แต่มี movement ไปทั่วบริเวณ


บทความนี้ไม่ได้แนะนำ หรือ เชียร์ให้ซื้อ หรือขายหุ้น BGH ซึ่งผมเพียงรู้สึกเหมือนเป็น "โรงพยาบาลของเรา" ซึ่งครั้งหนึ่งเจ้านายผมเคยเอ่ยถึงคุณหมอท่านหนึ่งคือคุณหมอปราเสริฐ ท่านเป็นเพื่อนกับเจ้านายผม จนวันนี้ผมยังระลึกถึงเจ้านายผมท่านนั้นอยู่ ท่านเคยให้โอกาสผมได้ทำงานเต็มความสามารถ จนวันนี้ได้มาเป็นหุ้นส่วนกับคุณหมอเพื่อนของท่าน ผมว่าผมโชคดีนะ 55555 แม้วันนี้ หุ้น"โรงพยาบาลของเรา" ตกติดอันดับ top losser กับเขาด้วยก็ตาม ก็บอกแล้วไง สบายๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่