ข่าวเศรษฐกิจ 29 ก.ค. 56
PTTGC ขอรับผิดชอบฟื้นฟู-เยียวยา น้ำมันรั่วลงทะเลระยอง
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร PTTGC ยอมรับ คราบน้ำมันที่รั่วไหลไปถึงอ่าวพร้าว เกาะเสม็ด เป็นเรื่องเหนือความคาดหมาย สั่งระดมกำลังแก้ปัญหาด่วน
นายอนนท์ สิริแสงทักษิณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พีทีที โกลบอล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTGC เปิดเผย "ไทยรัฐออนไลน์" ว่า ได้ระดมทีมงานไปสำรวจความเสียหายและแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น บริเวณอ่าวพร้าว เกาะเสม็ด จังหวัดระยองแล้ว โดยส่วนตัวไม่คาดคิดมาก่อนว่าจะมีคราบน้ำมันหลุดรั่วไปบริเวณดังกล่าว ปัญหาที่เกิดขึ้นเกินความคาดหมายของบริษัท เนื่องจากก่อนหน้านี้ได้ใช้สารเคมีเพื่อควบคุมคราบน้ำมันที่รั่วไหล
นายอนนท์ ยอมรับว่า ครั้งนี้เป็นบทเรียนสำคัญของบริษัท และยินดีรับผิดชอบทั้งหมด ด้วยการทำความสะอาด ฟื้นฟู เยียวยา และส่งเสริมภาพลักษณ์ ทั้งสิ่งแวดล้อม และการท่องเที่ยวอย่างเต็มที่ ส่วนงบประมาณที่ใช้ยังไม่ได้ประเมินตัวเลข เพราะอยากจะแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นให้เต็มที่ก่อน ส่วนกรณีที่มีหน่วยงานเตรียมฟ้องร้องบริษัท นายอนนท์ กล่าวว่า พร้อมพูดคุยเจรจา แต่ขณะนี้ขอเร่งแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นให้เต็มที่ก่อน
สำหรับสาเหตุความผิดพลาดของเหตุการณ์น้ำมันรั่วไหล กำลังเร่งตรวจสอบสาเหตุว่า เกิดจากอุปกรณ์ชำรุดหรือไม่ เพราะก่อนหน้านี้เปลี่ยนท่อใหม่ไม่นาน ต้องเร่งพิสูจน์ข้อเท็จจริง ส่วนแผนการทำงานจากนี้ไปจะต้องวางแผนให้รัดกุมกว่านี้ พร้อมยืนยันว่า อยากให้มั่นใจในบริษัทว่าจะแก้ไขปัญหานี้ด้วยดี และจะไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก ครั้งนี้เป็นครั้งเดียว และครั้งสุดท้าย
ด้าน ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ นักวิชาการทรัพยากรทางทะเล เปิดเผยว่า สิ่งที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรดำเนินการควบคู่ไปกับการกำจัดคราบน้ำมัน โดยการบอกถึงขั้นตอนการแก้ไขให้สังคมได้รับรู้ เช่นขั้นตอนและวิธีการป้องกันการกระจายของน้ำมัน ทิศทางการกระจายของน้ำมัน และผลกระทบที่จะตามมา เพื่อให้ทุกฝ่ายช่วยกันเตรียมพร้อมรับมือ ซึ่งรวมถึงประชาชนที่อาจเจอผลกระทบด้วย
แม้ล่าสุดจะมีการใช้สารเคมีเพื่อให้น้ำมันเกาะตัวจมลงสู่ท้องทะเลแล้ว แต่การใช้สารเคมีดังกล่าวก็อาจจะส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมทางทะเลด้วยเช่นกัน จึงจำเป็นอย่างมากที่หน่วยงานผู้เกี่ยวข้องต้องบอกต่อสังคมว่า ทำไมถึงเลือกใช้วิธีนี้ และมีผลอย่างไรต่อการแก้ไขปัญหาดังกล่าว เพราะการใช้สารเคมีให้น้ำมันเกาะตัวกันควรใช้ในพื้นที่น้ำลึกมากๆ ไม่ใช้ในพื้นที่น้ำลึกเพียง 20 เมตร
ไทยรัฐออนไลน์
โดย ไทยรัฐออนไลน์
29 กรกฎาคม 2556, 15:30 น.
http://www.thairath.co.th/content/eco/360055
'เพ้ง'สั่งเร่งแก้ไขน้ำมันรั่ว CEO PTTGCรับให้ข้อมูลสับสนพร้อมชดเชยค่าเสียหาย
รมว.พลังงาน สั่งเร่งแก้ปัญหาท่อส่งน้ำมันรั่ว คาด 3 วันขจัดคราบน้ำมันเสร็จ ด้าน CEO PTTGC ขอรับผิดให้ข้อมูลสร้างความสับสนต่อสาธารณชน พร้อมชดเชยค่าเสียหายเต็มที่...
นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า เหตุท่อส่งน้ำมันดิบรั่วกลางทะเลจังหวัดระยอง ขณะนี้ ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด แต่ได้สั่งการให้บริษัท พีทีที โกลบอล เคมีคอล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTGC เร่งดูแลช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่และขจัดมลพิษที่เป็นพิษต่อสิ่งแวดล้อม โดยจะต้องดำเนินการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว พร้อมสั่งการให้นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ ประธานกรรมการบริษัท พีทีที โกลบอล เคมีคอล จำกัด (มหาชน) ตั้งคณะกรรมการสอบสวนสาเหตุที่เกิดขึ้น เพื่อหาแนวทางป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ในลักษณะนี้ขึ้นอีก เพราะครั้งนี้ถือว่าเป็นการเกิดเหตุครั้งที่ 4 แล้วและมีปริมาณน้ำมันมากกว่าทุกครั้ง
ส่วนการดูแลคราบน้ำมันที่รั่วไหล ได้กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ดำเนินการตามมาตรฐานสิ่งแวดล้อม และเชื่อว่า จะดำเนินการขจัดคราบน้ำมันแล้วเสร็จภายใน 3 วัน
"น้ำมันที่ยังเล็ดลอดอยู่บริเวณชายฝั่งนั้น เดิมที่ประมาณ 4 ทุ่ม เจ้าหน้าที่คิดว่าควบคุมสถานการณ์ได้แล้ว จึงสั่งยกเลิกขบวนเรือที่ออกไปตระเวนสังเกตและสกัดคราบน้ำมัน แต่ช่วงเที่ยงคืนของวันที่ 28 กรกฎาคม มีคราบน้ำมันออกมาใหม่ จึงต้องไปตรวจสอบดูว่าเกิดจากสาเหตุใด และคาดว่าพรุ่งนี้จะรายงานข้อเท็จจริงๆ ได้"
ทั้งนี้ ยังไม่อยากสรุปว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เกิดจากความประมาทของเจ้าหน้าที่หรือไม่ โดยอยากให้รอผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงจากบริษัทก่อน ส่วนกรณีที่ สมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน เตรียมยื่นศาลปกครองฟ้องคณะกรรมการขจัดคราบน้ำมันละเว้นการปฏิบัติหน้าที่นั้น มองว่าเป็นสิทธิ์ที่จะดำเนินการ แต่อยากให้รอการตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นให้ชัดเจนก่อน
ด้านนาย ประเสริฐ บุญสัมพันธ์ ประธานกรรมการ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด(มหาชน) หรือ พีทีทีจีซี กล่าวว่า เสียใจต่อเหตุการณ์เกิดขึ้น และในฐานะที่เป็นประธานกรรมการบริษัท จะเร่งทำการตรวจสอบสาเหตุว่าทำไมท่ออ่อน ที่ใช้ถ่ายน้ำมันจากเรือไปยังท่อเหล็กใต้ทะเลจึงเกิดการรั่วขึ้น ทั้งที่ใช้งานแค่เพียง 1 ปี จากปกติท่ออ่อนจะมีอายุการใช้งานได้ถึง 2 ปี
ทั้งนี้ คาดว่าภายใน 1 สัปดาห์นี้จะทราบสาเหตุว่าเกิดจากการปฏิบัติงานของพนักงาน หรือ เกิดจากวัสดุอุปกรณ์ชำรุด โดยหากสาเหตุเกิดจากวัสดุอุปกรณ์ชำรุด จะต้องใช้เวลานานในการตรวจสอบว่าผลิตจากบริษัทใด และได้มาตรฐานหรือไม่ ซึ่งท่ออ่อนที่เกิดรั่วดังกล่าว บริษัท ได้สั่งนำเข้าจากต่างประเทศ โดยภายหลังจากตรวจสอบสาเหตุแน่ชัดแล้วจะเร่งรายงานต่อหน่วยงานราชการที่ เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงพลังงาน กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงอุตสาหกรรมและการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ต่อไป
สำหรับ ความเสียหายที่เกิดขึ้นนั้น นายประเสริฐ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถประเมินความเสียหายได้ แต่เบื้องต้นบริษัทฯ มีการทำประกันไว้แล้วกับทั้งบริษัทประกันในไทยและต่างประเทศ ส่วนการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากน้ำมันรั่วครั้งนี้ บริษัทฯ จะไปรวบรวมรายชื่อผู้ได้รับผลกระทบทั้งหมดก่อน และบริษัทยืนยันว่าจะรับผิดชอบทุกกรณี และจะต้องแก้ไขไม่ให้เกิดขึ้นอีก
ขณะที่นายอนนต์ สิริแสงทักษิณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) ยอมรับว่า เหตุการณ์น้ำมันรั่วในครั้งนี้ ส่งผลกระทบต่อภาคลักษณ์ของบริษัท และเหตุการณ์นี้เกิดจากตัวบริษัทเอง ดังนั้น บริษัทพร้อมรับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นทั้งหมดและจะดูแลผู้ได้รับผลกระทบเต็มที่ ส่วนความเสียหายจะครอบคลุมอยู่ในวงเงินประกับภัยที่บริษัททำไว้ที่ 1.5 พันล้านบาท
ส่วนการที่บริษัทได้ออกแถลงการณ์ ระบุว่า สามารถควบคุมสถานการณ์ขจัดคราบน้ำมันรั่วไหลได้แล้วนั้น นายอนนต์ กล่าวว่า ตนในฐานะผู้บริหาร PTTGC ขอยอมรับผิดต่อสาธารณชนที่สร้างความสับสนในข้อมูล เพราะเดิมที่เจ้าหน้าที่เข้าใจว่าทุกอย่างจบลงแล้ว แต่เกิดเหตุเกินความคาดหมาย ซึ่งเรื่องนี้จะต้องเร่งตรวจสอบต่อไป ส่วนที่มีกระแสข่าวว่าหลายภาคส่วนเตรียมยื่นฟ้องร้องบริษัทนั้น ทางบริษัทฯ ได้เร่งทำความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่แล้ว พร้อมทั้งตั้งศูนย์เยียวยาแก้ไขปัญหาดังกล่าวให้เสร็จโดยเร็ว
สำหรับ สาเหตุของท่อรับน้ำมันรั่วในครั้งนี้ ยังไม่ทราบแน่ชัดต้องรอผลการตรวจสอบอีกครั้ง แต่ประเมินเบื้องต้นมีปริมาณน้ำมันดิบที่ไหลลงทะเล 5 หมื่นลิตร เป็นน้ำมันดิบโอมาน ซึ่งบริษัทได้ใช้บูมล้อมน้ำมันเพื่อไม่ให้กระจายออกไป โดยในวันที่ 28 กรกฎาคมที่ผ่านมาเชื่อว่าสามารถควบคุมน้ำมันดิบได้แล้ว แต่ก็ได้รับรายงานตอนเที่ยงคืนว่าน้ำมันดิบเล็ดลอดไปยังชายฝั่งเกาะเสม็ด ซึ่งบริษัทได้เข้าไปตรวจสอบและใช้เครื่องบิน ซี130 ฉีดพ้นสารเคมี รวมทั้งใช้เรือตรวจสอบคราบน้ำมันด้วย เพื่อให้มั่นใจว่าจะสามารถกำจัดคราบน้ำมันได้หมด 100% นอกจากนี้ บริษัทได้วางบูมที่หัวและท้ายอ่าวพร้าวเพื่อป้องกันไม่ให้น้ำมัน กระจายออกไปนอกอ่าว พร้อมทั้งให้เรือฉีดน้ำยายสลายคราบน้ำมันเพื่อเติมที่ลอยหน้าอ่าวขาม และอ่าวน้อยหน้าด้วยแล้ว.
ไทยรัฐออนไลน์
โดย ทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์
29 กรกฎาคม 2556, 23:30 น.
http://www.thairath.co.th/content/eco/360132
ข่าวการเมือง 30 ก.ค. 56
'กรณ์'โพสต์ จี้ นายกฯเร่งแก้ น้ำมันรั่ว'อ่าวไทย' ถาม รออะไรอยู่
นายกรณ์ จาติกวณิช รองหัวหน้า ปชป. ทนไม่ไหว โพสต์เฟซฯ จี้ นายกฯ เร่งแก้ปัญหาน้ำมันรั่วใน"อ่าวไทย" ขออย่าเมินเฉย ถามเจ็บ รออะไรอยู่...
วันที่ 29 ก.ค. นายกรณ์ จาติกวณิช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว “KornChatikavanij” เรียกร้อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี รีบแสดงท่าที ในการแก้ปัญหาน้ำมันรั่วในอ่าวไทย ตอนหนึ่งว่า จากเหตุการณ์ที่เริ่มเป็นปัญหาตั้งแต่ เวลา 18.00 น. วันที่ 26 ก.ค. ที่ผ่านมา จนกระทั่ง ถึงขณะนี้ ยัง ไม่ปรากฏว่า นายกรัฐมนตรี หรือ รัฐบาล มีท่าทีแม้แต่น้อย ต่อสถานการณ์นํ้ามันรั่วในอ่าวไทย เดิมทีหน่วยงานราชการอ้างว่า จะไม่กระทบชายหาดไทย แต่ขณะนี้ หาดเกาะเสม็ด บางส่วนถือว่า ยับเยินแล้ว
"ท่านนายกฯ จะไม่มีบทบาทจริงๆ หรือครับ กับเรื่องนี้ ยังไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่เกษตรกร ที่เลือกท่านให้เป็นนายกฯ มารอยื่นร้องเรียนปัญหาหนี้สินกับท่านอยู่ หรือ เรื่องราคาผลไม้ภาคเหนือของท่าน ที่ตกตํ่าจน ส.ส.ประชาธิปัตย์ ต้องออกมา เรียกร้องให้ท่านไปช่วย ท่านรอเรื่องอะไรอยู่ครับ ถึงจะสนใจ ?! ปกติผมไม่เคยออกมาว่า อะไรท่าน แต่ตอนนี้ ผมข้องใจจริงๆ และเสียดายแทนกับโอกาสที่ท่านมี” นายกรณ์ ระบุ
ไทยรัฐออนไลน์
โดย ไทยรัฐออนไลน์
30 กรกฎาคม 2556, 00:10 น.
http://www.thairath.co.th/content/pol/360144
น้ำมันรั่วลงทะเลระยอง : เศรษฐกิจ - PTTGCขอรับผิดชอบฟื้นฟูเยียวยา VS การเมือง - กรณ์โพสต์จี้นายกฯเร่งแก้ ถามรออะไรอยู่
PTTGC ขอรับผิดชอบฟื้นฟู-เยียวยา น้ำมันรั่วลงทะเลระยอง
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร PTTGC ยอมรับ คราบน้ำมันที่รั่วไหลไปถึงอ่าวพร้าว เกาะเสม็ด เป็นเรื่องเหนือความคาดหมาย สั่งระดมกำลังแก้ปัญหาด่วน
นายอนนท์ สิริแสงทักษิณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พีทีที โกลบอล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTGC เปิดเผย "ไทยรัฐออนไลน์" ว่า ได้ระดมทีมงานไปสำรวจความเสียหายและแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น บริเวณอ่าวพร้าว เกาะเสม็ด จังหวัดระยองแล้ว โดยส่วนตัวไม่คาดคิดมาก่อนว่าจะมีคราบน้ำมันหลุดรั่วไปบริเวณดังกล่าว ปัญหาที่เกิดขึ้นเกินความคาดหมายของบริษัท เนื่องจากก่อนหน้านี้ได้ใช้สารเคมีเพื่อควบคุมคราบน้ำมันที่รั่วไหล
นายอนนท์ ยอมรับว่า ครั้งนี้เป็นบทเรียนสำคัญของบริษัท และยินดีรับผิดชอบทั้งหมด ด้วยการทำความสะอาด ฟื้นฟู เยียวยา และส่งเสริมภาพลักษณ์ ทั้งสิ่งแวดล้อม และการท่องเที่ยวอย่างเต็มที่ ส่วนงบประมาณที่ใช้ยังไม่ได้ประเมินตัวเลข เพราะอยากจะแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นให้เต็มที่ก่อน ส่วนกรณีที่มีหน่วยงานเตรียมฟ้องร้องบริษัท นายอนนท์ กล่าวว่า พร้อมพูดคุยเจรจา แต่ขณะนี้ขอเร่งแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นให้เต็มที่ก่อน
สำหรับสาเหตุความผิดพลาดของเหตุการณ์น้ำมันรั่วไหล กำลังเร่งตรวจสอบสาเหตุว่า เกิดจากอุปกรณ์ชำรุดหรือไม่ เพราะก่อนหน้านี้เปลี่ยนท่อใหม่ไม่นาน ต้องเร่งพิสูจน์ข้อเท็จจริง ส่วนแผนการทำงานจากนี้ไปจะต้องวางแผนให้รัดกุมกว่านี้ พร้อมยืนยันว่า อยากให้มั่นใจในบริษัทว่าจะแก้ไขปัญหานี้ด้วยดี และจะไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก ครั้งนี้เป็นครั้งเดียว และครั้งสุดท้าย
ด้าน ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ นักวิชาการทรัพยากรทางทะเล เปิดเผยว่า สิ่งที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรดำเนินการควบคู่ไปกับการกำจัดคราบน้ำมัน โดยการบอกถึงขั้นตอนการแก้ไขให้สังคมได้รับรู้ เช่นขั้นตอนและวิธีการป้องกันการกระจายของน้ำมัน ทิศทางการกระจายของน้ำมัน และผลกระทบที่จะตามมา เพื่อให้ทุกฝ่ายช่วยกันเตรียมพร้อมรับมือ ซึ่งรวมถึงประชาชนที่อาจเจอผลกระทบด้วย
แม้ล่าสุดจะมีการใช้สารเคมีเพื่อให้น้ำมันเกาะตัวจมลงสู่ท้องทะเลแล้ว แต่การใช้สารเคมีดังกล่าวก็อาจจะส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมทางทะเลด้วยเช่นกัน จึงจำเป็นอย่างมากที่หน่วยงานผู้เกี่ยวข้องต้องบอกต่อสังคมว่า ทำไมถึงเลือกใช้วิธีนี้ และมีผลอย่างไรต่อการแก้ไขปัญหาดังกล่าว เพราะการใช้สารเคมีให้น้ำมันเกาะตัวกันควรใช้ในพื้นที่น้ำลึกมากๆ ไม่ใช้ในพื้นที่น้ำลึกเพียง 20 เมตร
ไทยรัฐออนไลน์
โดย ไทยรัฐออนไลน์
29 กรกฎาคม 2556, 15:30 น.
http://www.thairath.co.th/content/eco/360055
'เพ้ง'สั่งเร่งแก้ไขน้ำมันรั่ว CEO PTTGCรับให้ข้อมูลสับสนพร้อมชดเชยค่าเสียหาย
รมว.พลังงาน สั่งเร่งแก้ปัญหาท่อส่งน้ำมันรั่ว คาด 3 วันขจัดคราบน้ำมันเสร็จ ด้าน CEO PTTGC ขอรับผิดให้ข้อมูลสร้างความสับสนต่อสาธารณชน พร้อมชดเชยค่าเสียหายเต็มที่...
นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า เหตุท่อส่งน้ำมันดิบรั่วกลางทะเลจังหวัดระยอง ขณะนี้ ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด แต่ได้สั่งการให้บริษัท พีทีที โกลบอล เคมีคอล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTGC เร่งดูแลช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่และขจัดมลพิษที่เป็นพิษต่อสิ่งแวดล้อม โดยจะต้องดำเนินการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว พร้อมสั่งการให้นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ ประธานกรรมการบริษัท พีทีที โกลบอล เคมีคอล จำกัด (มหาชน) ตั้งคณะกรรมการสอบสวนสาเหตุที่เกิดขึ้น เพื่อหาแนวทางป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ในลักษณะนี้ขึ้นอีก เพราะครั้งนี้ถือว่าเป็นการเกิดเหตุครั้งที่ 4 แล้วและมีปริมาณน้ำมันมากกว่าทุกครั้ง
ส่วนการดูแลคราบน้ำมันที่รั่วไหล ได้กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ดำเนินการตามมาตรฐานสิ่งแวดล้อม และเชื่อว่า จะดำเนินการขจัดคราบน้ำมันแล้วเสร็จภายใน 3 วัน
"น้ำมันที่ยังเล็ดลอดอยู่บริเวณชายฝั่งนั้น เดิมที่ประมาณ 4 ทุ่ม เจ้าหน้าที่คิดว่าควบคุมสถานการณ์ได้แล้ว จึงสั่งยกเลิกขบวนเรือที่ออกไปตระเวนสังเกตและสกัดคราบน้ำมัน แต่ช่วงเที่ยงคืนของวันที่ 28 กรกฎาคม มีคราบน้ำมันออกมาใหม่ จึงต้องไปตรวจสอบดูว่าเกิดจากสาเหตุใด และคาดว่าพรุ่งนี้จะรายงานข้อเท็จจริงๆ ได้"
ทั้งนี้ ยังไม่อยากสรุปว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เกิดจากความประมาทของเจ้าหน้าที่หรือไม่ โดยอยากให้รอผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงจากบริษัทก่อน ส่วนกรณีที่ สมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน เตรียมยื่นศาลปกครองฟ้องคณะกรรมการขจัดคราบน้ำมันละเว้นการปฏิบัติหน้าที่นั้น มองว่าเป็นสิทธิ์ที่จะดำเนินการ แต่อยากให้รอการตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นให้ชัดเจนก่อน
ด้านนาย ประเสริฐ บุญสัมพันธ์ ประธานกรรมการ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด(มหาชน) หรือ พีทีทีจีซี กล่าวว่า เสียใจต่อเหตุการณ์เกิดขึ้น และในฐานะที่เป็นประธานกรรมการบริษัท จะเร่งทำการตรวจสอบสาเหตุว่าทำไมท่ออ่อน ที่ใช้ถ่ายน้ำมันจากเรือไปยังท่อเหล็กใต้ทะเลจึงเกิดการรั่วขึ้น ทั้งที่ใช้งานแค่เพียง 1 ปี จากปกติท่ออ่อนจะมีอายุการใช้งานได้ถึง 2 ปี
ทั้งนี้ คาดว่าภายใน 1 สัปดาห์นี้จะทราบสาเหตุว่าเกิดจากการปฏิบัติงานของพนักงาน หรือ เกิดจากวัสดุอุปกรณ์ชำรุด โดยหากสาเหตุเกิดจากวัสดุอุปกรณ์ชำรุด จะต้องใช้เวลานานในการตรวจสอบว่าผลิตจากบริษัทใด และได้มาตรฐานหรือไม่ ซึ่งท่ออ่อนที่เกิดรั่วดังกล่าว บริษัท ได้สั่งนำเข้าจากต่างประเทศ โดยภายหลังจากตรวจสอบสาเหตุแน่ชัดแล้วจะเร่งรายงานต่อหน่วยงานราชการที่ เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงพลังงาน กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงอุตสาหกรรมและการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ต่อไป
สำหรับ ความเสียหายที่เกิดขึ้นนั้น นายประเสริฐ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถประเมินความเสียหายได้ แต่เบื้องต้นบริษัทฯ มีการทำประกันไว้แล้วกับทั้งบริษัทประกันในไทยและต่างประเทศ ส่วนการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากน้ำมันรั่วครั้งนี้ บริษัทฯ จะไปรวบรวมรายชื่อผู้ได้รับผลกระทบทั้งหมดก่อน และบริษัทยืนยันว่าจะรับผิดชอบทุกกรณี และจะต้องแก้ไขไม่ให้เกิดขึ้นอีก
ขณะที่นายอนนต์ สิริแสงทักษิณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) ยอมรับว่า เหตุการณ์น้ำมันรั่วในครั้งนี้ ส่งผลกระทบต่อภาคลักษณ์ของบริษัท และเหตุการณ์นี้เกิดจากตัวบริษัทเอง ดังนั้น บริษัทพร้อมรับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นทั้งหมดและจะดูแลผู้ได้รับผลกระทบเต็มที่ ส่วนความเสียหายจะครอบคลุมอยู่ในวงเงินประกับภัยที่บริษัททำไว้ที่ 1.5 พันล้านบาท
ส่วนการที่บริษัทได้ออกแถลงการณ์ ระบุว่า สามารถควบคุมสถานการณ์ขจัดคราบน้ำมันรั่วไหลได้แล้วนั้น นายอนนต์ กล่าวว่า ตนในฐานะผู้บริหาร PTTGC ขอยอมรับผิดต่อสาธารณชนที่สร้างความสับสนในข้อมูล เพราะเดิมที่เจ้าหน้าที่เข้าใจว่าทุกอย่างจบลงแล้ว แต่เกิดเหตุเกินความคาดหมาย ซึ่งเรื่องนี้จะต้องเร่งตรวจสอบต่อไป ส่วนที่มีกระแสข่าวว่าหลายภาคส่วนเตรียมยื่นฟ้องร้องบริษัทนั้น ทางบริษัทฯ ได้เร่งทำความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่แล้ว พร้อมทั้งตั้งศูนย์เยียวยาแก้ไขปัญหาดังกล่าวให้เสร็จโดยเร็ว
สำหรับ สาเหตุของท่อรับน้ำมันรั่วในครั้งนี้ ยังไม่ทราบแน่ชัดต้องรอผลการตรวจสอบอีกครั้ง แต่ประเมินเบื้องต้นมีปริมาณน้ำมันดิบที่ไหลลงทะเล 5 หมื่นลิตร เป็นน้ำมันดิบโอมาน ซึ่งบริษัทได้ใช้บูมล้อมน้ำมันเพื่อไม่ให้กระจายออกไป โดยในวันที่ 28 กรกฎาคมที่ผ่านมาเชื่อว่าสามารถควบคุมน้ำมันดิบได้แล้ว แต่ก็ได้รับรายงานตอนเที่ยงคืนว่าน้ำมันดิบเล็ดลอดไปยังชายฝั่งเกาะเสม็ด ซึ่งบริษัทได้เข้าไปตรวจสอบและใช้เครื่องบิน ซี130 ฉีดพ้นสารเคมี รวมทั้งใช้เรือตรวจสอบคราบน้ำมันด้วย เพื่อให้มั่นใจว่าจะสามารถกำจัดคราบน้ำมันได้หมด 100% นอกจากนี้ บริษัทได้วางบูมที่หัวและท้ายอ่าวพร้าวเพื่อป้องกันไม่ให้น้ำมัน กระจายออกไปนอกอ่าว พร้อมทั้งให้เรือฉีดน้ำยายสลายคราบน้ำมันเพื่อเติมที่ลอยหน้าอ่าวขาม และอ่าวน้อยหน้าด้วยแล้ว.
ไทยรัฐออนไลน์
โดย ทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์
29 กรกฎาคม 2556, 23:30 น.
http://www.thairath.co.th/content/eco/360132
ข่าวการเมือง 30 ก.ค. 56
'กรณ์'โพสต์ จี้ นายกฯเร่งแก้ น้ำมันรั่ว'อ่าวไทย' ถาม รออะไรอยู่
นายกรณ์ จาติกวณิช รองหัวหน้า ปชป. ทนไม่ไหว โพสต์เฟซฯ จี้ นายกฯ เร่งแก้ปัญหาน้ำมันรั่วใน"อ่าวไทย" ขออย่าเมินเฉย ถามเจ็บ รออะไรอยู่...
วันที่ 29 ก.ค. นายกรณ์ จาติกวณิช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว “KornChatikavanij” เรียกร้อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี รีบแสดงท่าที ในการแก้ปัญหาน้ำมันรั่วในอ่าวไทย ตอนหนึ่งว่า จากเหตุการณ์ที่เริ่มเป็นปัญหาตั้งแต่ เวลา 18.00 น. วันที่ 26 ก.ค. ที่ผ่านมา จนกระทั่ง ถึงขณะนี้ ยัง ไม่ปรากฏว่า นายกรัฐมนตรี หรือ รัฐบาล มีท่าทีแม้แต่น้อย ต่อสถานการณ์นํ้ามันรั่วในอ่าวไทย เดิมทีหน่วยงานราชการอ้างว่า จะไม่กระทบชายหาดไทย แต่ขณะนี้ หาดเกาะเสม็ด บางส่วนถือว่า ยับเยินแล้ว
"ท่านนายกฯ จะไม่มีบทบาทจริงๆ หรือครับ กับเรื่องนี้ ยังไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่เกษตรกร ที่เลือกท่านให้เป็นนายกฯ มารอยื่นร้องเรียนปัญหาหนี้สินกับท่านอยู่ หรือ เรื่องราคาผลไม้ภาคเหนือของท่าน ที่ตกตํ่าจน ส.ส.ประชาธิปัตย์ ต้องออกมา เรียกร้องให้ท่านไปช่วย ท่านรอเรื่องอะไรอยู่ครับ ถึงจะสนใจ ?! ปกติผมไม่เคยออกมาว่า อะไรท่าน แต่ตอนนี้ ผมข้องใจจริงๆ และเสียดายแทนกับโอกาสที่ท่านมี” นายกรณ์ ระบุ
ไทยรัฐออนไลน์
โดย ไทยรัฐออนไลน์
30 กรกฎาคม 2556, 00:10 น.
http://www.thairath.co.th/content/pol/360144