ผมอายที่จะพิมพ์เรื่องนี้ แต่บางทีก็ไม่ไหวจริง ๆ
ผมพูดติดอ่าง เท่าที่จำความได้ก็เป็นมาตั้งแต่เด็ก
มันเคยหายจากชีวิตผมไปช่วงนึง แล้วมันก็กลับมา
ผมอยากให้มันหายไปตลอดกาล
ทุกวันนี้ผมเหนื่อยมาก เวลาติดก็ติดแบบหนักเลย
งานของผมบางทีก็ต้องไปเจอลูกค้า คุยงาน
ไป present ถึงเวลาติดบางคำพูดไม่ออก
ผมต้องพูดอ้อมเพื่อหาคำใกล้เคียง หรือบางครั้งติดแบบ
ต้องหยุดพูดเลย ออกเสียงไม่ได้ ต้องทำเป็นนึกคำพูดแทน
มันทำให้ผมทุกวันนี้ แทบไม่อยากเจอผู้คน ใช้ชีวิตอยู่คนเดียว
ผมปิดตัวไม่เข้าสังคม เกลียดการคุยโทรศัพท์
ทุกครั้งที่มีงานที่ต้องออกไปคุยกับลูกค้า มีแต่ความกลัว
ซึ่งตอนเรียนมหาลัยปี 4 ผมถือว่าการ present เป็น skill
ที่ผมถนัดที่สุด และชอบมากที่สุด
ตอนนี้การพูดติดอ่าง มันเหมือนทำลายชีวิตส่วนตัว
การทำงาน มันทำให้ผมย้ำอยู่กับที่ ไม่กล้าจะเปลี่ยนงานใหม่
ที่ต้องไปสัมภาษณ์ ไม่อยากไปเจอคนใหม่ ๆ แล้วเขาจะรู้ว่าผมติดอ่าง
บางครั้งก็ทำให้ผมรู้สึกว่า มันเคยทำลายความรักผมไปด้วย
คนที่ผมชอบ เมื่อก่อนผมเราเจอเธอเกือบทุกวัน ช่วงเวลาสั้น ๆ แต่จะคุยไม่กี่ประโยค
ซึ่งเป็นประโยคเดิม ๆ และผมเตรียมไว้แล้ว
ปกติก็คุย msn กัน (สมัยก่อน) วันนึงเธอโทรมาหาผม
เพราะผมไม่เคยโทรไปหาเลย แม้จะมีเบอร์ได้แต่ส่ง sms mms ไปหา
คุยกันไปเรื่อย ๆ กับเจอประโยค
"พี่พูดติดอ่างหรือ" บรรยายความรู้สึกไม่ถูกเลย แล้วสุดท้ายก็...
เครียดครับ ไปหาจิตแพทย์เพื่อรักษาอาการนี้
กลับกลายไปเจออีกอาการนึงเพิ่มมาอีก
ทุกวันนี้เลยได้จิตแพทย์เป็นเพื่อนคุย
หัวหน้าก็พยายามช่วยผม โดยผลักผมไปเผชิญหน้ากับมัน
ให้ผมไปคุยงานกับลูกค้า คนเดียวดูแลคนเดียว
ได้งานก็ดี ไม่ได้งานก็ช่างมัน ตอนนี้ผมอยู่ในอาการกลัวมาก
ทุกวันนี้สังคมเดียวของผมคือ pantip ก็ไม่ต้องพูด พิมพ์อย่างเดียว
ถ้ามันยังเป็นแบบนี้ต่อไป ชีวิตการงานผมคงจมปลักอยู่แค่นี้แน่
แต่นั้นไม่สำคัญ เท่ากับความรัก ที่ชาตินี้ได้เป็นโสดตลอดชาติแน่
เพราะกลัวที่จะเข้าไปจีบ
แค่นี้แหละครับ อยากระบายมันออกมาบ้าง แต่จะพูดกับใครก็ติดอ่างอีก
ปล.อยากถามคนที่พูดติดอ่างนิดนึงครับ คุณร้องเพลงติดอ่างกันไหม
ผมร้องเพลงไม่เคยติดอ่างเลย และเป็นอีกหนึ่ง skill ที่ทำได้ดี
ปล.2 ตอนนี้อยากมีแฟน(คนแรก)มาก ซีรี่ย์เกาหลีเริ่มเอาไม่อยู่
แม่ถึงกลับเคยประกาศว่า ถ้าพาแฟนเข้าบ้านรับทองไปเลย 2 บาท
น้องผมพาเข้าบ้านเปลี่ยนหน้ามาไม่ต่ำกว่า 5 คนแล้ว
พูดติดอ่าง มันทำลายชีวิตส่วนตัวและชีวิตการงาน T^T
ผมพูดติดอ่าง เท่าที่จำความได้ก็เป็นมาตั้งแต่เด็ก
มันเคยหายจากชีวิตผมไปช่วงนึง แล้วมันก็กลับมา
ผมอยากให้มันหายไปตลอดกาล
ทุกวันนี้ผมเหนื่อยมาก เวลาติดก็ติดแบบหนักเลย
งานของผมบางทีก็ต้องไปเจอลูกค้า คุยงาน
ไป present ถึงเวลาติดบางคำพูดไม่ออก
ผมต้องพูดอ้อมเพื่อหาคำใกล้เคียง หรือบางครั้งติดแบบ
ต้องหยุดพูดเลย ออกเสียงไม่ได้ ต้องทำเป็นนึกคำพูดแทน
มันทำให้ผมทุกวันนี้ แทบไม่อยากเจอผู้คน ใช้ชีวิตอยู่คนเดียว
ผมปิดตัวไม่เข้าสังคม เกลียดการคุยโทรศัพท์
ทุกครั้งที่มีงานที่ต้องออกไปคุยกับลูกค้า มีแต่ความกลัว
ซึ่งตอนเรียนมหาลัยปี 4 ผมถือว่าการ present เป็น skill
ที่ผมถนัดที่สุด และชอบมากที่สุด
ตอนนี้การพูดติดอ่าง มันเหมือนทำลายชีวิตส่วนตัว
การทำงาน มันทำให้ผมย้ำอยู่กับที่ ไม่กล้าจะเปลี่ยนงานใหม่
ที่ต้องไปสัมภาษณ์ ไม่อยากไปเจอคนใหม่ ๆ แล้วเขาจะรู้ว่าผมติดอ่าง
บางครั้งก็ทำให้ผมรู้สึกว่า มันเคยทำลายความรักผมไปด้วย
คนที่ผมชอบ เมื่อก่อนผมเราเจอเธอเกือบทุกวัน ช่วงเวลาสั้น ๆ แต่จะคุยไม่กี่ประโยค
ซึ่งเป็นประโยคเดิม ๆ และผมเตรียมไว้แล้ว
ปกติก็คุย msn กัน (สมัยก่อน) วันนึงเธอโทรมาหาผม
เพราะผมไม่เคยโทรไปหาเลย แม้จะมีเบอร์ได้แต่ส่ง sms mms ไปหา
คุยกันไปเรื่อย ๆ กับเจอประโยค
"พี่พูดติดอ่างหรือ" บรรยายความรู้สึกไม่ถูกเลย แล้วสุดท้ายก็...
เครียดครับ ไปหาจิตแพทย์เพื่อรักษาอาการนี้
กลับกลายไปเจออีกอาการนึงเพิ่มมาอีก
ทุกวันนี้เลยได้จิตแพทย์เป็นเพื่อนคุย
หัวหน้าก็พยายามช่วยผม โดยผลักผมไปเผชิญหน้ากับมัน
ให้ผมไปคุยงานกับลูกค้า คนเดียวดูแลคนเดียว
ได้งานก็ดี ไม่ได้งานก็ช่างมัน ตอนนี้ผมอยู่ในอาการกลัวมาก
ทุกวันนี้สังคมเดียวของผมคือ pantip ก็ไม่ต้องพูด พิมพ์อย่างเดียว
ถ้ามันยังเป็นแบบนี้ต่อไป ชีวิตการงานผมคงจมปลักอยู่แค่นี้แน่
แต่นั้นไม่สำคัญ เท่ากับความรัก ที่ชาตินี้ได้เป็นโสดตลอดชาติแน่
เพราะกลัวที่จะเข้าไปจีบ
แค่นี้แหละครับ อยากระบายมันออกมาบ้าง แต่จะพูดกับใครก็ติดอ่างอีก
ปล.อยากถามคนที่พูดติดอ่างนิดนึงครับ คุณร้องเพลงติดอ่างกันไหม
ผมร้องเพลงไม่เคยติดอ่างเลย และเป็นอีกหนึ่ง skill ที่ทำได้ดี
ปล.2 ตอนนี้อยากมีแฟน(คนแรก)มาก ซีรี่ย์เกาหลีเริ่มเอาไม่อยู่
แม่ถึงกลับเคยประกาศว่า ถ้าพาแฟนเข้าบ้านรับทองไปเลย 2 บาท
น้องผมพาเข้าบ้านเปลี่ยนหน้ามาไม่ต่ำกว่า 5 คนแล้ว