“ น้องข้าวตังตื่นได้แล้วลูกเดี๋ยวไปโรงเรียนไม่ทันนะค่ะ ”
“ ขออีก 5 นาทีไม่ได้เหรอค่ะแม่ขวัญจ๋า ”
ขวัญข้าวได้แต่ทอดถอนในใจแม่ลูกสาวตัวน้อยของเธอช่างต่อรองได้ทุกวันไม่รู้เบื่อ
“ อีกนาทีเดียวก็ไม่ได้ค่ะตื่นได้แล้วค่ะคนเก่งของแม่ขวัญ ”
กว่าที่จะจัดการกับลูกสาวตัวน้อยเสร็จก็เล่นเอาขวัญข้าวเหงื่อตกเลยที่เดียว แต่ถึงจะเหนื่อยซักแค่ไหนพอดวงตากลมโตใสแจ๋ว กับแก้มสีชมพูแดงปลั่ง และรอยยิ้มสดใสออดอ้อนฉอเลาะก็ทำให้หายเหนื่อยแล้ว
“ ถึงแล้วค่ะคนเก่งตั้งใจเรียนนะค่ะ” ขวัญข้าวหอมแก้มยุ้ยๆ นั่นอย่างแสนรัก เด็กหญิงก็ไม่ยอมน้อยหน้าหอมแก้มมารดากลับคืนเช่นกัน
“ ค่ะแม่ขวัญ ”
“ แล้วเจอกันตอนเย็นค่ะ”
ตอนนี้งานของขวัญข้าวยุ่งมากเพราะเป็นช่วงปลายเดือนและใกล้จะปิดงบดุลบัญชี หลังจากส่งน้องข้าวตังที่โรงเรียน ขวัญข้าวก็ตรงไปที่บริษัททันที ST กรุ๊ปเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์อันดับต้นๆของประเทศเลยก็ว่าได้ นอกจากนั้นยังมีบริษัทในเครืออีกมากมาย ขวัญข้าวเป็นหัวหน้าแผนกบัญชี ด้วยวัยเพียงแค่ 28 ปี เท่านั้น เพราะเธอเป็นคนเก่งและขยันจึงมีความก้าวหน้าในหน้าที่การงานอย่างรวดเร็ว
ณ ชั้น 35 ของตึก ST กรุ๊ป
“ ได้เรื่องว่ายังไงบ้าง กร ”
“ ยังคงไม่มีความคืบหน้าเลยครับบอส ”
“ อะไรนะยังไม่มีความคืบหน้า ”
“ นักสืบที่เราจ้างบอกว่ายังหาตัวผู้หญิงคนนั้นไม่พบครับ ”
“ แต่นี่มัน 4 ปีแล้วนะ ฉันยังจะต้องรอไปอีกถึงเมื่อไร ไปบอกพวกนั้นว่าฉันให้เวลาอีกหนึ่งเดือนถ้ายังไม่มีเบาะแสฉันจะไปจ้างบริษัทอื่น ”
ธนากรรีบรับคำและออกไปจากห้องของคนที่เป็นเจ้านายอย่างรวดเร็วหลังจากนี้คงได้เกิดพายุลูกใหญ่แน่ โธ่เว้ย จอมทัพ สถบอย่างหัวเสีย
“ เป็นอะไรรึเปล่าภา ” ขวัญข้าวเอ่ยถามชุตาภาลูกน้องในแผนกดูจากสีหน้าที่ไม่ค่อยดี
“ พ่อโทรมาบอกว่าแม่ลื่นล้มในห้องน้ำตอนนี้อยู่โรงพยาบาล ”
“ งั้นก็รีบไปเถอะ ”
“ แต่ว่าภายังทำงบปิดบัญชีไม่เสร็จเลย พรุ่งนี้ก็ต้องเอาเข้าที่ประชุมแล้ว ”
“ ไม่เป็นไรหรอกเดี๋ยวทางนี้พี่จัดการเอง ”
“ งั้นฝากด้วยนะค่ะ ”
“ รีบไปเถอะจ๊ะ ”
เพราะต้องอยู่ทำงานให้ลูกน้องทำให้ขวัญข้าวไปรับลูกสาวคนสวยช้า ป่านนี้คนเก่งของแม่ขวัญคงงอนตุ้บป่องเป็นแน่แท้ เธอได้แต่มาดมาตรอยู่ในใจ กว่าจะมาถึงโรงเรียนก็ปาเข้าไป 6 โมงครึ่ง แต่เธอก็รีบจนถึงที่สุดแล้วก็จะทำยังไงได้ก็กรุงเทพตอนเย็นรถติดใช่ย่อยเสียที่ไหน ถ้าลูกสาวคนเก่งจะงอนเธอคงต้องง้อไปตามระเบียบ ก็เธอเองที่ผิด
“ ขอโทษทีนะค่ะคุณครูลูกปัดที่มารับน้องข้าวตังช้า ”
“ ไม่เป็นไรหรอกค่ะคุณแม่ ”
“ น้องข้าวตังคุณแม่มารับแล้วค่ะ ”
“ เย้ๆแม่ขวัญจ๋ามารับน้องข้าวตังแล้ว ”
“ สวัสดีค่ะแม่ขวัญ ”
ขวัญข้าวอดจะแปลกใจอยู่ไม่ได้ที่ลูกสาวตัวน้อยไม่มีการแง่งอนเธอซักนิดเดียวทั้งที่เพิ่งอายุ 4 ขวบ แต่ก็ไม่มีอาการแง่งอนหรือว่าแสดงความไม่พอใจออกมา กลับส่งยิ้มร่าเริงมาให้ทั้งที่เธอมารับช้ากว่าเวลาปกติเป็นชั่วโมง
“ น้องข้าวตังกลับบ้านก่อนนะค่ะคุณครูลูกปัด สวัสดีค่ะ”
“ ค่ะ คนสวยแล้วพรุ่งนี้เจอกันนะค่ะ ”
หลังจากร่ำลาคุณครูเสร็จสองแม่ลูกก็เดินมาที่รถซึ่งจอดอยู่ในลานจอดรถที่ทางโรงเรียนจัดไว้ให้ผู้ปกครองที่มารับส่งบุตรหลาน
“ ทำไมวันนี้แม่ขวัญจ๋ามารับน้องข้าวตังช้าจังเลยล่ะค่ะ ”
“ แม่ขวัญขอโทษนะค่ะคนเก่งที่มาช้า ”
“ พอดีว่าน้าภาต้องรีบไปโรงพยาบาลเพราะคุณแม่ของน้าภาไม่สบาย แม่ขวัญก็เลยต้องทำงานแทน ”
“ อย่างนั้นเหรอค่ะ แล้วคุณยายเป็นอะไรมากรึเปล่าค่ะ ”
“ แม่ขวัญเองก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะ เอาไว้เดี๋ยวเราไปเยี่ยมคุณยายกันนะค่ะ ”
ขวัญข้าวรู้สึกดีใจไม่น้อยที่รู้สาวเข้าใจเหตุผลและรับฟังเธอแถมยังเป็นห่วงเป็นใยผู้อื่น
“ เพื่อเป็นไถ่โทษวันนี้หลังจากกินข้าวเย็น แม่ขวัญจะให้น้องข้าวตังทานไอศกรีมได้หนึ่งถ้วยดีไหมค่ะ”
“ ดีที่สุดเลยค่ะ ” หนูน้อยยิ้มร่าที่วันนี้คุณแม่คนสวยของเธออนุญาตให้ทานไอศกรีมซึ่งเป็นของโปรดของเธอ
ณ คฤหาสน์ตระกูล สุรสิฐ
“ ตาทัพกลับมาพอดีเลยแม่กำลังจะให้เด็กโทรถามอยู่เชียวว่าจะกลับมากินข้าวเย็นรึเปล่า ว่าแต่ได้ข่าวหลานของแม่บ้างหรือเปล่า ”
“ ยังเลยครับคุณแม่ ”
“ เพราะความผิดของแม่เอง ”
“ อย่าโทษตัวเองเลยครับคุณแม่ คุณแม่ไม่ผิดผู้หญิงตนนั้นต่างหากที่ผิด”
“ เราไปกินข้าวเถอะครับ ผมว่าอีกไม่นานเราต้องได้เจอแกแน่ คุณแม่อย่างกังวลไปเลย”
ถึงลูกชายของนางจะบอกไม่ใช่ความผิดของผู้เป็นแม่แต่คุณประไพศรีก็อดที่จะคิดไม่ได้ว่าถ้าหากเมื่อ 4 ที่แล้วนางไม่ทำแบบนั้นตอนนี้นางคงจะมีความสุขที่ได้มีหลานสาวตัวน้อยๆอยู่ใกล้ ป่านนี้จะเป็นอย่างไรก็สุดจะรู้โถยายหนูของย่า
กามเทพร่ายรัก บทที่ 1 บังเอิญโลกกลม พรหมลิขิต
“ ขออีก 5 นาทีไม่ได้เหรอค่ะแม่ขวัญจ๋า ”
ขวัญข้าวได้แต่ทอดถอนในใจแม่ลูกสาวตัวน้อยของเธอช่างต่อรองได้ทุกวันไม่รู้เบื่อ
“ อีกนาทีเดียวก็ไม่ได้ค่ะตื่นได้แล้วค่ะคนเก่งของแม่ขวัญ ”
กว่าที่จะจัดการกับลูกสาวตัวน้อยเสร็จก็เล่นเอาขวัญข้าวเหงื่อตกเลยที่เดียว แต่ถึงจะเหนื่อยซักแค่ไหนพอดวงตากลมโตใสแจ๋ว กับแก้มสีชมพูแดงปลั่ง และรอยยิ้มสดใสออดอ้อนฉอเลาะก็ทำให้หายเหนื่อยแล้ว
“ ถึงแล้วค่ะคนเก่งตั้งใจเรียนนะค่ะ” ขวัญข้าวหอมแก้มยุ้ยๆ นั่นอย่างแสนรัก เด็กหญิงก็ไม่ยอมน้อยหน้าหอมแก้มมารดากลับคืนเช่นกัน
“ ค่ะแม่ขวัญ ”
“ แล้วเจอกันตอนเย็นค่ะ”
ตอนนี้งานของขวัญข้าวยุ่งมากเพราะเป็นช่วงปลายเดือนและใกล้จะปิดงบดุลบัญชี หลังจากส่งน้องข้าวตังที่โรงเรียน ขวัญข้าวก็ตรงไปที่บริษัททันที ST กรุ๊ปเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์อันดับต้นๆของประเทศเลยก็ว่าได้ นอกจากนั้นยังมีบริษัทในเครืออีกมากมาย ขวัญข้าวเป็นหัวหน้าแผนกบัญชี ด้วยวัยเพียงแค่ 28 ปี เท่านั้น เพราะเธอเป็นคนเก่งและขยันจึงมีความก้าวหน้าในหน้าที่การงานอย่างรวดเร็ว
ณ ชั้น 35 ของตึก ST กรุ๊ป
“ ได้เรื่องว่ายังไงบ้าง กร ”
“ ยังคงไม่มีความคืบหน้าเลยครับบอส ”
“ อะไรนะยังไม่มีความคืบหน้า ”
“ นักสืบที่เราจ้างบอกว่ายังหาตัวผู้หญิงคนนั้นไม่พบครับ ”
“ แต่นี่มัน 4 ปีแล้วนะ ฉันยังจะต้องรอไปอีกถึงเมื่อไร ไปบอกพวกนั้นว่าฉันให้เวลาอีกหนึ่งเดือนถ้ายังไม่มีเบาะแสฉันจะไปจ้างบริษัทอื่น ”
ธนากรรีบรับคำและออกไปจากห้องของคนที่เป็นเจ้านายอย่างรวดเร็วหลังจากนี้คงได้เกิดพายุลูกใหญ่แน่ โธ่เว้ย จอมทัพ สถบอย่างหัวเสีย
“ เป็นอะไรรึเปล่าภา ” ขวัญข้าวเอ่ยถามชุตาภาลูกน้องในแผนกดูจากสีหน้าที่ไม่ค่อยดี
“ พ่อโทรมาบอกว่าแม่ลื่นล้มในห้องน้ำตอนนี้อยู่โรงพยาบาล ”
“ งั้นก็รีบไปเถอะ ”
“ แต่ว่าภายังทำงบปิดบัญชีไม่เสร็จเลย พรุ่งนี้ก็ต้องเอาเข้าที่ประชุมแล้ว ”
“ ไม่เป็นไรหรอกเดี๋ยวทางนี้พี่จัดการเอง ”
“ งั้นฝากด้วยนะค่ะ ”
“ รีบไปเถอะจ๊ะ ”
เพราะต้องอยู่ทำงานให้ลูกน้องทำให้ขวัญข้าวไปรับลูกสาวคนสวยช้า ป่านนี้คนเก่งของแม่ขวัญคงงอนตุ้บป่องเป็นแน่แท้ เธอได้แต่มาดมาตรอยู่ในใจ กว่าจะมาถึงโรงเรียนก็ปาเข้าไป 6 โมงครึ่ง แต่เธอก็รีบจนถึงที่สุดแล้วก็จะทำยังไงได้ก็กรุงเทพตอนเย็นรถติดใช่ย่อยเสียที่ไหน ถ้าลูกสาวคนเก่งจะงอนเธอคงต้องง้อไปตามระเบียบ ก็เธอเองที่ผิด
“ ขอโทษทีนะค่ะคุณครูลูกปัดที่มารับน้องข้าวตังช้า ”
“ ไม่เป็นไรหรอกค่ะคุณแม่ ”
“ น้องข้าวตังคุณแม่มารับแล้วค่ะ ”
“ เย้ๆแม่ขวัญจ๋ามารับน้องข้าวตังแล้ว ”
“ สวัสดีค่ะแม่ขวัญ ”
ขวัญข้าวอดจะแปลกใจอยู่ไม่ได้ที่ลูกสาวตัวน้อยไม่มีการแง่งอนเธอซักนิดเดียวทั้งที่เพิ่งอายุ 4 ขวบ แต่ก็ไม่มีอาการแง่งอนหรือว่าแสดงความไม่พอใจออกมา กลับส่งยิ้มร่าเริงมาให้ทั้งที่เธอมารับช้ากว่าเวลาปกติเป็นชั่วโมง
“ น้องข้าวตังกลับบ้านก่อนนะค่ะคุณครูลูกปัด สวัสดีค่ะ”
“ ค่ะ คนสวยแล้วพรุ่งนี้เจอกันนะค่ะ ”
หลังจากร่ำลาคุณครูเสร็จสองแม่ลูกก็เดินมาที่รถซึ่งจอดอยู่ในลานจอดรถที่ทางโรงเรียนจัดไว้ให้ผู้ปกครองที่มารับส่งบุตรหลาน
“ ทำไมวันนี้แม่ขวัญจ๋ามารับน้องข้าวตังช้าจังเลยล่ะค่ะ ”
“ แม่ขวัญขอโทษนะค่ะคนเก่งที่มาช้า ”
“ พอดีว่าน้าภาต้องรีบไปโรงพยาบาลเพราะคุณแม่ของน้าภาไม่สบาย แม่ขวัญก็เลยต้องทำงานแทน ”
“ อย่างนั้นเหรอค่ะ แล้วคุณยายเป็นอะไรมากรึเปล่าค่ะ ”
“ แม่ขวัญเองก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะ เอาไว้เดี๋ยวเราไปเยี่ยมคุณยายกันนะค่ะ ”
ขวัญข้าวรู้สึกดีใจไม่น้อยที่รู้สาวเข้าใจเหตุผลและรับฟังเธอแถมยังเป็นห่วงเป็นใยผู้อื่น
“ เพื่อเป็นไถ่โทษวันนี้หลังจากกินข้าวเย็น แม่ขวัญจะให้น้องข้าวตังทานไอศกรีมได้หนึ่งถ้วยดีไหมค่ะ”
“ ดีที่สุดเลยค่ะ ” หนูน้อยยิ้มร่าที่วันนี้คุณแม่คนสวยของเธออนุญาตให้ทานไอศกรีมซึ่งเป็นของโปรดของเธอ
ณ คฤหาสน์ตระกูล สุรสิฐ
“ ตาทัพกลับมาพอดีเลยแม่กำลังจะให้เด็กโทรถามอยู่เชียวว่าจะกลับมากินข้าวเย็นรึเปล่า ว่าแต่ได้ข่าวหลานของแม่บ้างหรือเปล่า ”
“ ยังเลยครับคุณแม่ ”
“ เพราะความผิดของแม่เอง ”
“ อย่าโทษตัวเองเลยครับคุณแม่ คุณแม่ไม่ผิดผู้หญิงตนนั้นต่างหากที่ผิด”
“ เราไปกินข้าวเถอะครับ ผมว่าอีกไม่นานเราต้องได้เจอแกแน่ คุณแม่อย่างกังวลไปเลย”
ถึงลูกชายของนางจะบอกไม่ใช่ความผิดของผู้เป็นแม่แต่คุณประไพศรีก็อดที่จะคิดไม่ได้ว่าถ้าหากเมื่อ 4 ที่แล้วนางไม่ทำแบบนั้นตอนนี้นางคงจะมีความสุขที่ได้มีหลานสาวตัวน้อยๆอยู่ใกล้ ป่านนี้จะเป็นอย่างไรก็สุดจะรู้โถยายหนูของย่า