มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส ปรับเครดิตตราสารหนี้และเงินฝากไทย หลังพบ “กิตติรัตน์” ตราสารหนี้ระยะยาวสกุลเงินบาท ถูกปรับจาก Aa2 สู่ A1 ฝากระยะยาวสกุลเงินบาท ถูกปรับจาก Aa2 สู่ A1 สะท้อนไทยมีความเสี่ยงต่ำการโอนเงินและการแปลงสกุลเงิน มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือระหว่างประเทศ ประกาศปรับความเสี่ยงของเพดานอันดับความน่าเชื่อถือของเงินฝากและตราสารหนี้สกุลเงินในประเทศ (LC) และสกุลเงินต่างประเทศ (FC) ของผู้ออกตราสารหนี้ของไทย แต่ธนบัตรของรัฐบาลไทยไม่ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงเพดานดังกล่าว
ก่อนหน้านี้ตัวแทนมูดี้ส์เข้าพบนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เพื่อรับทราบข้อมูลและตัวเลขทางเศรษฐกิจของไทย
โดยการเปลี่ยนแปลงเพดานครั้งนี้บ่งชี้ว่าอันดับความน่าเชื่อถือสูงสุดที่สามารถกำหนดให้กับผู้ออกตราสารหนี้ในไทยหรือต่อหลักทรัพย์ทางการเงินที่มีการปรับโครงสร้างที่ได้รับการสนับสนุนโดยบัญชีลูกหนี้สกุลเงินบาทจะเป็นดังนี้ 1.เพดานอันดับความน่าเชื่อถือตราสารหนี้ระยะยาวสกุลเงินบาท ถูกปรับจาก Aa2 สู่ A1
2.เพดานอันดับความน่าเชื่อเงินฝากระยะยาวสกุลเงินบาทถูกปรับจาก Aa2 สู่ A1 3.เพดานอันดับความน่าเชื่อถือตราสารหนี้ระยะยาวสกุลเงินต่างประเทศ ยังคงอยู่ที่ระดับ A2 แต่เพดานอันดับความน่าเชื่อถือตราสารหนี้ระยะสั้นสกุลเงินต่างประเทศถูกปรับจาก P-2 สู่ P-1
4.เพดานอันดับความน่าเชื่อถือเงินฝากระยะยาวสกุลเงินต่างประเทศยังคงอยู่ที่ Baa1 และเพดานอันดับความน่าเชื่อถือเงินฝากระยะสั้นสกุลเงินต่างประเทศยังคงไม่เปลี่ยนแปลงที่ P-2
ทั้งนี้ การตัดสินใจของมูดี้ส์ในการปรับเพดานอันดับความน่าเชื่อถือสำหรับตราสารหนี้สกุลเงินต่างประเทศของไทยได้อิงจากการที่มูดี้ส์นำแนวทางในการกำหนดเพดานความเสี่ยงสำหรับตราสารหนี้สกุลเงินในประเทศและภาระผูกพันอื่นๆ สำหรับสกุลเงินในประเทศมาใช้หลังจากที่ได้ประกาศแนวทางดังกล่าวในช่วงต้นปีนี้
มูดี้ส์ระบุว่าเพดานอันดับความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้สกุลเงินในประเทศที่ได้รับการปรับใหม่นี้สอดคล้องกับกรอบการทำงานที่นำเพดานดังกล่าวมาเทียบกับอันดับความน่าเชื่อถือของพันธบัตรรัฐบาลไทยที่ Baa1 และเทียบกับคะแนนของปัจจัยต่างๆ ที่ใช้ในการพิจารณาพันธบัตรรัฐบาล
ปัจจัย 3 ประการในส่วนนี้เป็นสิ่งสำคัญที่ใช้ในการกำหนดเพดาน ซึ่งปัจจัยดังกล่าวประกอบด้วย การประเมินความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจในระดับ "ปานกลาง", การประเมินความแข็งแกร่งของสถาบันในระดับ "ปานกลาง" และการประเมินผลกระทบที่อาจได้รับจากเหตุการณ์ไม่คาดฝันทางการเมือง, เศรษฐกิจหรือสถาบันในระดับ "ปานกลางค่อนข้างต่ำ"
สำหรับการปรับเพดานอันดับความน่าเชื่อถือตราสารหนี้ระยะสั้นสกุลเงินต่างประเทศในครั้งนี้เป็นผลมาจากการประเมินของมูดี้ส์ที่ระบุว่าไทยมีความเสี่ยงต่ำในด้านการโอนเงินและการแปลงสกุลเงิน เนื่องจากไทยมีความสามารถและความเต็มใจในการชำระหนี้ข้ามพรมแดนทั้งในภาครัฐและเอกชน โดยมุมมองนี้ได้รับการสนับสนุนจากสถานะสภาพคล่องต่างประเทศที่แข็งแกร่งของไทย ซึ่งจะเห็นได้จากการที่ไทยมีหนี้ต่างประเทศอยู่ในระดับต่ำและมีทุนสำรองเงินตราต่างประเทศอยู่ในระดับสูง
http://itrading.bualuang.co.th/th/list-tb.php?width=821&height=500&menuid=23&content=newtoday&contentid=1807752
*****************************************************************************************************
เห็นว่าเถียงกันไปมาสนุกกันใหญ่ แต่ประเด็นที่ต้องทำความเข้าใจก่อนคือ Fact! ถ้าดูจากข่าวนั้นระบุชัดเจน
1.เพดานอันดับความน่าเชื่อถือตราสารหนี้ระยะยาวสกุลเงินบาท ถูกปรับจาก Aa2 สู่ A1 หมายความว่าเครดิตถูกลดลง 2 ขั้น (Aa2 >Aa1>A1)
2.เพดานอันดับความน่าเชื่อเงินฝากระยะยาวสกุลเงินบาทถูกปรับจาก Aa2 สู่ A1 หมายความว่าเครดิตถูกลดลง 2 ขั้น (Aa2 >Aa1>A1)
3.เพดานอันดับความน่าเชื่อถือตราสารหนี้ระยะยาวสกุลเงินต่างประเทศ ยังคงอยู่ที่ระดับ A2 หมายความว่าไม่เปลี่ยน เท่าเดิมๆๆๆๆๆๆๆ
4.เพดานอันดับความน่าเชื่อถือตราสารหนี้ระยะสั้นสกุลเงินต่างประเทศถูกปรับจาก P-2 สู่ P-1 หมายความว่าถูกเพิ่มเครดิต(NP<P3<P2<P1)
5.เพดานอันดับความน่าเชื่อถือเงินฝากระยะยาวสกุลเงินต่างประเทศยังคงอยู่ที่ Baa1 หมายความว่า เท่าเดิมๆๆๆ
6.เพดานอันดับความน่าเชื่อถือเงินฝากระยะสั้นสกุลเงินต่างประเทศยังคงไม่เปลี่ยนแปลงที่ P-2 หมายความว่า เท่าเดิมๆๆๆ
สรุปได้ว่า ลดเครดิตข้อ 1,2 และ ปรับเพิ่มเครดิต ข้อ 4 นอกนั้นเสมอตัว.. ส่วนเหตุผลในการลด และ เหตุผลในการเพิ่มของแต่ละหัวข้อเขาก็เขียนเอาไว้ชัดเจน .... เถียงกันทำไมไปมาในเมื่อข้อเท็จจริงมันก้อเห็นๆ กันอยุ่ว่ามีทั้งส่วนที่เครดิตลด และมีส่วนที่เครดิตเพิ่ม ราตรีสวัสครับพี่น้องชาวไทย..
เกรดออกแล้วมาดูกันว่า Aa2 to A1, P2 to P1 มันคือ ตกสอบ สอบตก ตกข่าว หรือคางคกกัด หรืองูรัด ไม่ก็คงพัดลมบาด .. มือ
ก่อนหน้านี้ตัวแทนมูดี้ส์เข้าพบนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เพื่อรับทราบข้อมูลและตัวเลขทางเศรษฐกิจของไทย
โดยการเปลี่ยนแปลงเพดานครั้งนี้บ่งชี้ว่าอันดับความน่าเชื่อถือสูงสุดที่สามารถกำหนดให้กับผู้ออกตราสารหนี้ในไทยหรือต่อหลักทรัพย์ทางการเงินที่มีการปรับโครงสร้างที่ได้รับการสนับสนุนโดยบัญชีลูกหนี้สกุลเงินบาทจะเป็นดังนี้ 1.เพดานอันดับความน่าเชื่อถือตราสารหนี้ระยะยาวสกุลเงินบาท ถูกปรับจาก Aa2 สู่ A1
2.เพดานอันดับความน่าเชื่อเงินฝากระยะยาวสกุลเงินบาทถูกปรับจาก Aa2 สู่ A1 3.เพดานอันดับความน่าเชื่อถือตราสารหนี้ระยะยาวสกุลเงินต่างประเทศ ยังคงอยู่ที่ระดับ A2 แต่เพดานอันดับความน่าเชื่อถือตราสารหนี้ระยะสั้นสกุลเงินต่างประเทศถูกปรับจาก P-2 สู่ P-1
4.เพดานอันดับความน่าเชื่อถือเงินฝากระยะยาวสกุลเงินต่างประเทศยังคงอยู่ที่ Baa1 และเพดานอันดับความน่าเชื่อถือเงินฝากระยะสั้นสกุลเงินต่างประเทศยังคงไม่เปลี่ยนแปลงที่ P-2
ทั้งนี้ การตัดสินใจของมูดี้ส์ในการปรับเพดานอันดับความน่าเชื่อถือสำหรับตราสารหนี้สกุลเงินต่างประเทศของไทยได้อิงจากการที่มูดี้ส์นำแนวทางในการกำหนดเพดานความเสี่ยงสำหรับตราสารหนี้สกุลเงินในประเทศและภาระผูกพันอื่นๆ สำหรับสกุลเงินในประเทศมาใช้หลังจากที่ได้ประกาศแนวทางดังกล่าวในช่วงต้นปีนี้
มูดี้ส์ระบุว่าเพดานอันดับความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้สกุลเงินในประเทศที่ได้รับการปรับใหม่นี้สอดคล้องกับกรอบการทำงานที่นำเพดานดังกล่าวมาเทียบกับอันดับความน่าเชื่อถือของพันธบัตรรัฐบาลไทยที่ Baa1 และเทียบกับคะแนนของปัจจัยต่างๆ ที่ใช้ในการพิจารณาพันธบัตรรัฐบาล
ปัจจัย 3 ประการในส่วนนี้เป็นสิ่งสำคัญที่ใช้ในการกำหนดเพดาน ซึ่งปัจจัยดังกล่าวประกอบด้วย การประเมินความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจในระดับ "ปานกลาง", การประเมินความแข็งแกร่งของสถาบันในระดับ "ปานกลาง" และการประเมินผลกระทบที่อาจได้รับจากเหตุการณ์ไม่คาดฝันทางการเมือง, เศรษฐกิจหรือสถาบันในระดับ "ปานกลางค่อนข้างต่ำ"
สำหรับการปรับเพดานอันดับความน่าเชื่อถือตราสารหนี้ระยะสั้นสกุลเงินต่างประเทศในครั้งนี้เป็นผลมาจากการประเมินของมูดี้ส์ที่ระบุว่าไทยมีความเสี่ยงต่ำในด้านการโอนเงินและการแปลงสกุลเงิน เนื่องจากไทยมีความสามารถและความเต็มใจในการชำระหนี้ข้ามพรมแดนทั้งในภาครัฐและเอกชน โดยมุมมองนี้ได้รับการสนับสนุนจากสถานะสภาพคล่องต่างประเทศที่แข็งแกร่งของไทย ซึ่งจะเห็นได้จากการที่ไทยมีหนี้ต่างประเทศอยู่ในระดับต่ำและมีทุนสำรองเงินตราต่างประเทศอยู่ในระดับสูง
http://itrading.bualuang.co.th/th/list-tb.php?width=821&height=500&menuid=23&content=newtoday&contentid=1807752
*****************************************************************************************************
เห็นว่าเถียงกันไปมาสนุกกันใหญ่ แต่ประเด็นที่ต้องทำความเข้าใจก่อนคือ Fact! ถ้าดูจากข่าวนั้นระบุชัดเจน
1.เพดานอันดับความน่าเชื่อถือตราสารหนี้ระยะยาวสกุลเงินบาท ถูกปรับจาก Aa2 สู่ A1 หมายความว่าเครดิตถูกลดลง 2 ขั้น (Aa2 >Aa1>A1)
2.เพดานอันดับความน่าเชื่อเงินฝากระยะยาวสกุลเงินบาทถูกปรับจาก Aa2 สู่ A1 หมายความว่าเครดิตถูกลดลง 2 ขั้น (Aa2 >Aa1>A1)
3.เพดานอันดับความน่าเชื่อถือตราสารหนี้ระยะยาวสกุลเงินต่างประเทศ ยังคงอยู่ที่ระดับ A2 หมายความว่าไม่เปลี่ยน เท่าเดิมๆๆๆๆๆๆๆ
4.เพดานอันดับความน่าเชื่อถือตราสารหนี้ระยะสั้นสกุลเงินต่างประเทศถูกปรับจาก P-2 สู่ P-1 หมายความว่าถูกเพิ่มเครดิต(NP<P3<P2<P1)
5.เพดานอันดับความน่าเชื่อถือเงินฝากระยะยาวสกุลเงินต่างประเทศยังคงอยู่ที่ Baa1 หมายความว่า เท่าเดิมๆๆๆ
6.เพดานอันดับความน่าเชื่อถือเงินฝากระยะสั้นสกุลเงินต่างประเทศยังคงไม่เปลี่ยนแปลงที่ P-2 หมายความว่า เท่าเดิมๆๆๆ
สรุปได้ว่า ลดเครดิตข้อ 1,2 และ ปรับเพิ่มเครดิต ข้อ 4 นอกนั้นเสมอตัว.. ส่วนเหตุผลในการลด และ เหตุผลในการเพิ่มของแต่ละหัวข้อเขาก็เขียนเอาไว้ชัดเจน .... เถียงกันทำไมไปมาในเมื่อข้อเท็จจริงมันก้อเห็นๆ กันอยุ่ว่ามีทั้งส่วนที่เครดิตลด และมีส่วนที่เครดิตเพิ่ม ราตรีสวัสครับพี่น้องชาวไทย..