ในฐานะที่ไม่เคยดื่มเปปทีนหรือแบนด์เลย ก็เรียนหมอได้
(ขอยืนยันว่า เพื่อนเราหลายคนกินกาแฟกดที่เซเว่นค่ะ ตาสว่างยันสอบเสร็จ เรายังไม่เคยเห็นเซเว่นออกแคมเปญกินกาแฟกดแล้วมีชีวิตรอดไปสอบหมอเลย)
และเห็นว่าการที่นิสิต หรือนศพ. ใจไม่เป็นกลาง ยอมไปเป็นพรีเซ็นเตอร์สินค้าโอ้อวด อย่างรู้เท่าไม่ถึงการณ์ และไม่คำนึงถึงผลประโยชน์แก่สังคมด้วย
เมื่อไหร่ ไอ่โฆษณาที่เห็นแก่ตัวแบบนี้จะโดนแบนไวๆ สักทีคะ
ปล่อยให้โลดแล่น อยากเป็นหมอตา หมอฟัน หมอสมอง เสียงแหลมๆ รำคาญโสตประสาทมาจนบัดนี้ได้
PS ฝากถึงเฟรชชี่แพทย์ ทันตแพทย์ ว่าเอาปีสองปีสามให้รอด ให้ค้นพบตัวเองก่อนจะไปคิดถึงเฉพาะทางเถอะค่ะ
เพราะบางทีอย่ไปอยู่มา คุณอาจจะอยากเปลี่ยนคณะก็เป็นได้... อย่าฝันหวาน
หมอดีๆ เรียนไปจะคิดเรื่องช่วยชีวิตมากกว่า เพราะตอนเรียน ขึ้นคลินิก ขึ้นวอร์ด ไม่ได้เจอแต่เรื่องดีๆ กลิ่นหอมๆ ตลอดเวลา เรียนๆ ไป เจอคนไข้ไป รู้สึกหดหู่ด้วยซ้ำ มีอะไรให้คิดกว่าคิดว่าเป็นหมอแล้วเท่ห์เยอะค่ะ
คนไข้respect ที่เราดูแลชีวิตเขาได้ และคนไข้สมัยนี้ก็ไม่ได้หลงรักหมอจนหน้ามืด หรือเชื่อหมอไปทุกคน รักหมอหรือเคารพหมอทุกคน คนไข้หลายคนมาหาหมอเพราะอยากจับผิดหมอด้วยซ้ำ อยากลองของว่าหมอนี่นิสัยเป็นไง หมอสมัยนี้มีจริยธรรมมั้ย คนไข้บางคนไม่ได้เรียนหมอแต่มีความรู้มากกว่านศพ. เสียอีกค่ะ เรื่องเยอะ ฟ้องร้องหรือประนามหมอกันก็เยอะ
หรือเอาจบไปแล้วตูจะดัง จะออกทีวี จะไฮโซ คิดผิดละน้อง คิดได้เท่านี้ย้ายไปเรียนบริหารธุรกิจจะจบเร็ว รวยเร็ว ทำงานได้เร็วกว่าเรียนหมอเสียอีก
PS ไม่ได้ว่าคนกินโง่อ่ะค่ะ
แต่หมายถึงพฤติกรรมของเด็กที่จะเรียนหมอ ไม่ควรนำตัวเองไปใช้หากินในเชิงพานิชย์ หรือเข้าข้างผลประโยชน์ของบริษัทยา อาหารเสริม ซึ่งมีผลต่อสุขภาพร่างกายคนทั่วไป
จรรยาบรรณแพทย์มีไว้เห็นแก่สุขภาพร่างกายของคนไข้นะคะ ไม่ได้มีไว้อ้างประโยชน์เพื่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง
แค่เป็นเฟรชชี่ยังมีของล่อให้ไปเข้าข้างบริษัทอื่นเลย กว่าคุณจะจบเป็นหมอ หรือทำอาชีพแพทย์โดยสุจริตจริงนี่มาตัวล่อลวงคุณอีกเยอะ
จะทำไงเนี่ย กับจรรยาบรรณ จริยธรรมของพวกหมอรุ่นใหม่ๆ
เมื่อไหร่โฆษณาเปปทีนจะโดนแบนคะ
(ขอยืนยันว่า เพื่อนเราหลายคนกินกาแฟกดที่เซเว่นค่ะ ตาสว่างยันสอบเสร็จ เรายังไม่เคยเห็นเซเว่นออกแคมเปญกินกาแฟกดแล้วมีชีวิตรอดไปสอบหมอเลย)
และเห็นว่าการที่นิสิต หรือนศพ. ใจไม่เป็นกลาง ยอมไปเป็นพรีเซ็นเตอร์สินค้าโอ้อวด อย่างรู้เท่าไม่ถึงการณ์ และไม่คำนึงถึงผลประโยชน์แก่สังคมด้วย
เมื่อไหร่ ไอ่โฆษณาที่เห็นแก่ตัวแบบนี้จะโดนแบนไวๆ สักทีคะ
ปล่อยให้โลดแล่น อยากเป็นหมอตา หมอฟัน หมอสมอง เสียงแหลมๆ รำคาญโสตประสาทมาจนบัดนี้ได้
PS ฝากถึงเฟรชชี่แพทย์ ทันตแพทย์ ว่าเอาปีสองปีสามให้รอด ให้ค้นพบตัวเองก่อนจะไปคิดถึงเฉพาะทางเถอะค่ะ
เพราะบางทีอย่ไปอยู่มา คุณอาจจะอยากเปลี่ยนคณะก็เป็นได้... อย่าฝันหวาน
หมอดีๆ เรียนไปจะคิดเรื่องช่วยชีวิตมากกว่า เพราะตอนเรียน ขึ้นคลินิก ขึ้นวอร์ด ไม่ได้เจอแต่เรื่องดีๆ กลิ่นหอมๆ ตลอดเวลา เรียนๆ ไป เจอคนไข้ไป รู้สึกหดหู่ด้วยซ้ำ มีอะไรให้คิดกว่าคิดว่าเป็นหมอแล้วเท่ห์เยอะค่ะ
คนไข้respect ที่เราดูแลชีวิตเขาได้ และคนไข้สมัยนี้ก็ไม่ได้หลงรักหมอจนหน้ามืด หรือเชื่อหมอไปทุกคน รักหมอหรือเคารพหมอทุกคน คนไข้หลายคนมาหาหมอเพราะอยากจับผิดหมอด้วยซ้ำ อยากลองของว่าหมอนี่นิสัยเป็นไง หมอสมัยนี้มีจริยธรรมมั้ย คนไข้บางคนไม่ได้เรียนหมอแต่มีความรู้มากกว่านศพ. เสียอีกค่ะ เรื่องเยอะ ฟ้องร้องหรือประนามหมอกันก็เยอะ
หรือเอาจบไปแล้วตูจะดัง จะออกทีวี จะไฮโซ คิดผิดละน้อง คิดได้เท่านี้ย้ายไปเรียนบริหารธุรกิจจะจบเร็ว รวยเร็ว ทำงานได้เร็วกว่าเรียนหมอเสียอีก
PS ไม่ได้ว่าคนกินโง่อ่ะค่ะ
แต่หมายถึงพฤติกรรมของเด็กที่จะเรียนหมอ ไม่ควรนำตัวเองไปใช้หากินในเชิงพานิชย์ หรือเข้าข้างผลประโยชน์ของบริษัทยา อาหารเสริม ซึ่งมีผลต่อสุขภาพร่างกายคนทั่วไป
จรรยาบรรณแพทย์มีไว้เห็นแก่สุขภาพร่างกายของคนไข้นะคะ ไม่ได้มีไว้อ้างประโยชน์เพื่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง
แค่เป็นเฟรชชี่ยังมีของล่อให้ไปเข้าข้างบริษัทอื่นเลย กว่าคุณจะจบเป็นหมอ หรือทำอาชีพแพทย์โดยสุจริตจริงนี่มาตัวล่อลวงคุณอีกเยอะ
จะทำไงเนี่ย กับจรรยาบรรณ จริยธรรมของพวกหมอรุ่นใหม่ๆ