จากเหตุการณ์ของน้องปันปัน ที่มีข่าวการทดลองเสพย์ยาไอซ์ ก็มีหลายแหล่งข่าวที่สร้างความสับสนให้กับผู้เสพย์สื่อ ซึ่งผมก็จะขอเรียงลำดับข่าวดังนี้
- ปันปัน เคยลองเสพยาจริง (ไม่รู้ว่าเสพบ่อยแค่ไหนหรือแค่เคยลองเฉยๆ)
- ปันปันเลิกเสพย์ไปแล้ว... (หรือไงไม่ทราบ)
- มีแคมเปญของต้นสังกัดเกี่ยวกับการรณรงค์จริง
- มีภาพปันปันเสพยาไอซ์หลุดออกมา (ซึ่งไม่รู้ว่าเป็นภาพจริงหรือภาพจากรายการ)
- ทางสังกัดออกมาแถลงว่าเป็นภาพจากแคมเปญ เพราะประจวบเหมาะกับมีแคมเปญนี้พอดี
- พ่อปันปันออกมาแถลงข่าวยอมรับว่าลูกเคยเสพยาจริง 1 ครั้ง
มีหลายความเห็นมีออกมาปกป้องน้องปันปัน ในรูปแบบว่า "ใครๆ ก็เคยเสพย์" หรือ "คุณพ่อไม่น่าออกมายอมรับเลย"
ใช่ครับ ในความจริงแล้ว คุณพ่อของน้องปันปัน สามารถเลือกที่จะกลบเกลื่อนข่าว ทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น บอกว่าเป็นภาพจากแคมเปญ หรือในความจริงแล้วภาพที่หลุดออกมาอาจจะเป็นภาพจากแคมเปญจริงๆ ก็ได้ แต่ดันเกิดเป็นกระแส
ประเด็นแรกคุณพ่อได้บอกว่า ได้ถามกับน้องปันปันว่า "เคยเสพย์ยาจริงหรือเปล่า?"
- ในประเด็นนี้ ทำให้ได้ข้อสังเกตอย่างหนึ่งว่า ครอบครัวของน้องปันปันเป็นครอบครัวที่อบอุ่นในระดับนึง พ่อแม่ลูกสามารถพูดคุยกันได้ และทุกคนยอมรับที่จะพูดความจริง น้องปันปันเลือกที่จะไม่โกหกคุณพ่อ คุณแม่ และยอมรับว่าเคยเสพย์จริงๆ ทั้งๆ ที่เจ้าตัวสามารถโกหกได้ว่า "ภาพนั้นถ่ายกันเล่นๆ" "ภาพนั้นเป็นแคมเปญ" แต่น้องเลือกที่จะพูดความจริงว่า "เคยเสพย์จริง" ก็เป็นหนึ่งเรื่องที่น่าชื่นชมของปันปัน ที่ไม่โกหกคุณพ่อคุณแม่
ประเด็นต่อมาคุณพ่อเลือกที่จะบอกกับสื่อมวลชนตามความเป็นจริง
- ในประเด็นนี้ คุณพ่อก็สามารถโกหก บ่ายเบี่ยง เพื่อกลบเกลื่อนเรื่องราวไปได้เช่นกัน ลูกสาวจะได้รอดตัว ไม่เสียหน้า ไม่เสียชื่อ ไม่ตกเป็นขี้ปากของสังคม แต่คุณพ่อเลือกที่จะ "พูดความจริง" ว่าลูกเคยเสพย์จริง ไม่ว่าจะครั้งไหนแต่เคยเสพย์ก็ต้องยอมรับว่าเคย ในฐานะผู้ชายคนนึงก็ถือว่ามีความกล้ามาก น่าชื่นชม แต่ในฐานะของ "การเป็นพ่อคน" ก็น่าชื่นชมยิ่งกว่า ถ้ามองให้ลึกๆ การทำแบบนี้ ถือเป็น "การสั่งสอน" ลูกสาวให้ลูกสาวรู้จักและคิดได้กับผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจากการกระทำของตัวเอง เพื่อให้ลูกสาวจดจำเป็นบทเรียน และเติบโตขึ้นโดยที่จะไม่ทำผิดซ้ำสองอีก...
คิดดูสิครับ ว่าสังคมเรานั้นเป็นยังไง? ทั้งลูกนักการเมือง ลูกนักแสดงดัง ลูกของคนใหญ่คนโต หรือมีฐานะ ไม่ว่าจะมีข่าวขับรถชน เมาแล้วขับ ทำความผิดต่างๆ นาๆ จนตกเป็นข่าว คนเป็นพ่อแม่ทุกคนเลือกที่จะปกป้องลูกของตัวเอง ไม่ว่าจะด้วยความรัก ความห่วง หรือใดๆ ก็ตาม แต่สิ่งนั้นกลับเป็นดาบสองคม ที่ทำให้ลูกของเขาเหล่านั้น "เหลิง" ไม่เข้าใจกับผลลัพธ์ที่ตัวเองกระทำ ถามว่าทำความผิดแล้วปรับปรุงตัวไหม? ได้รับบทเรียนไหม? ก็ไม่รู้ รู้แค่ว่า ทำอะไรก็ตาม พ่อแม่ก็ปกป้องตูอยู่ดี แล้วคนคนนั้นจะได้รับบทเรียนและเข้าใจถึงผลลัพธ์ของการกระทำของตัวเองไหม?
เรื่องนี้ถ้าคนตามข่าวได้ดูซีรีย์ Hormones ก็คงจะทราบดีว่า ทุกตัวละครในเรื่องย่อมได้รับบทเรียนด้วยตัวเองจากการกระทำของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นสไปซ์ ดาว หรือของขวัญ และคงเลือกที่จะปรับปรุงตัว หรือไม่กล้าที่จะทำเช่นนั้นอีก คุณพ่อของน้องปันปันก็เช่นกัน ท่านเลือกที่จะให้บทเรียนราคาแพงต่อลูกสาว เพื่อให้ลูกสาวเข้าใจถึงการกระทำของตัวเอง เป็นการลงโทษลูกสาวแบบนึง ที่จะทำให้ลูกสาวเติบโตขึ้นเป็นคนดีของสังคม
ไม่รู้หรอกว่าจากข่าวนี้ จะทำให้น้องปันปันเสื่อมเสียชื่อเสียง ต้องออกจากวงการนักแสดงไหม แต่สิ่งนึงที่คุณพ่อได้ คือลูกสาวจะได้เติบโตเป็นคนดีของสังคม ที่รู้ว่า ถ้าทำความผิด ก็ต้องได้รับผิด ต้องสำนักในความผิด ผมเชื่อว่า น้องปันปันจะได้บทเรียนในครั้งนี้ ต่อให้ยังเสพย์ยาไอซ์อยู่ ก็คงจะเลิกเสพย์แล้วจริงๆ และปรับปรุงตัว กลับตัวเป็นคนดีต่อไปครับ
คนเป็นพ่อควรเป็นแบบนี้ครับ ไม่ใช่ปกป้องลูกจนเกินเหตุ... บางครั้งเราต้องให้บทเรียนราคาแพงต่อลูกบ้างครับ
การสั่งสอนลูกสาวที่ควรเป็นแบบอย่างของสังคมจากพ่อของน้องปันปัน
- ปันปัน เคยลองเสพยาจริง (ไม่รู้ว่าเสพบ่อยแค่ไหนหรือแค่เคยลองเฉยๆ)
- ปันปันเลิกเสพย์ไปแล้ว... (หรือไงไม่ทราบ)
- มีแคมเปญของต้นสังกัดเกี่ยวกับการรณรงค์จริง
- มีภาพปันปันเสพยาไอซ์หลุดออกมา (ซึ่งไม่รู้ว่าเป็นภาพจริงหรือภาพจากรายการ)
- ทางสังกัดออกมาแถลงว่าเป็นภาพจากแคมเปญ เพราะประจวบเหมาะกับมีแคมเปญนี้พอดี
- พ่อปันปันออกมาแถลงข่าวยอมรับว่าลูกเคยเสพยาจริง 1 ครั้ง
มีหลายความเห็นมีออกมาปกป้องน้องปันปัน ในรูปแบบว่า "ใครๆ ก็เคยเสพย์" หรือ "คุณพ่อไม่น่าออกมายอมรับเลย"
ใช่ครับ ในความจริงแล้ว คุณพ่อของน้องปันปัน สามารถเลือกที่จะกลบเกลื่อนข่าว ทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น บอกว่าเป็นภาพจากแคมเปญ หรือในความจริงแล้วภาพที่หลุดออกมาอาจจะเป็นภาพจากแคมเปญจริงๆ ก็ได้ แต่ดันเกิดเป็นกระแส
ประเด็นแรกคุณพ่อได้บอกว่า ได้ถามกับน้องปันปันว่า "เคยเสพย์ยาจริงหรือเปล่า?"
- ในประเด็นนี้ ทำให้ได้ข้อสังเกตอย่างหนึ่งว่า ครอบครัวของน้องปันปันเป็นครอบครัวที่อบอุ่นในระดับนึง พ่อแม่ลูกสามารถพูดคุยกันได้ และทุกคนยอมรับที่จะพูดความจริง น้องปันปันเลือกที่จะไม่โกหกคุณพ่อ คุณแม่ และยอมรับว่าเคยเสพย์จริงๆ ทั้งๆ ที่เจ้าตัวสามารถโกหกได้ว่า "ภาพนั้นถ่ายกันเล่นๆ" "ภาพนั้นเป็นแคมเปญ" แต่น้องเลือกที่จะพูดความจริงว่า "เคยเสพย์จริง" ก็เป็นหนึ่งเรื่องที่น่าชื่นชมของปันปัน ที่ไม่โกหกคุณพ่อคุณแม่
ประเด็นต่อมาคุณพ่อเลือกที่จะบอกกับสื่อมวลชนตามความเป็นจริง
- ในประเด็นนี้ คุณพ่อก็สามารถโกหก บ่ายเบี่ยง เพื่อกลบเกลื่อนเรื่องราวไปได้เช่นกัน ลูกสาวจะได้รอดตัว ไม่เสียหน้า ไม่เสียชื่อ ไม่ตกเป็นขี้ปากของสังคม แต่คุณพ่อเลือกที่จะ "พูดความจริง" ว่าลูกเคยเสพย์จริง ไม่ว่าจะครั้งไหนแต่เคยเสพย์ก็ต้องยอมรับว่าเคย ในฐานะผู้ชายคนนึงก็ถือว่ามีความกล้ามาก น่าชื่นชม แต่ในฐานะของ "การเป็นพ่อคน" ก็น่าชื่นชมยิ่งกว่า ถ้ามองให้ลึกๆ การทำแบบนี้ ถือเป็น "การสั่งสอน" ลูกสาวให้ลูกสาวรู้จักและคิดได้กับผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจากการกระทำของตัวเอง เพื่อให้ลูกสาวจดจำเป็นบทเรียน และเติบโตขึ้นโดยที่จะไม่ทำผิดซ้ำสองอีก...
คิดดูสิครับ ว่าสังคมเรานั้นเป็นยังไง? ทั้งลูกนักการเมือง ลูกนักแสดงดัง ลูกของคนใหญ่คนโต หรือมีฐานะ ไม่ว่าจะมีข่าวขับรถชน เมาแล้วขับ ทำความผิดต่างๆ นาๆ จนตกเป็นข่าว คนเป็นพ่อแม่ทุกคนเลือกที่จะปกป้องลูกของตัวเอง ไม่ว่าจะด้วยความรัก ความห่วง หรือใดๆ ก็ตาม แต่สิ่งนั้นกลับเป็นดาบสองคม ที่ทำให้ลูกของเขาเหล่านั้น "เหลิง" ไม่เข้าใจกับผลลัพธ์ที่ตัวเองกระทำ ถามว่าทำความผิดแล้วปรับปรุงตัวไหม? ได้รับบทเรียนไหม? ก็ไม่รู้ รู้แค่ว่า ทำอะไรก็ตาม พ่อแม่ก็ปกป้องตูอยู่ดี แล้วคนคนนั้นจะได้รับบทเรียนและเข้าใจถึงผลลัพธ์ของการกระทำของตัวเองไหม?
เรื่องนี้ถ้าคนตามข่าวได้ดูซีรีย์ Hormones ก็คงจะทราบดีว่า ทุกตัวละครในเรื่องย่อมได้รับบทเรียนด้วยตัวเองจากการกระทำของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นสไปซ์ ดาว หรือของขวัญ และคงเลือกที่จะปรับปรุงตัว หรือไม่กล้าที่จะทำเช่นนั้นอีก คุณพ่อของน้องปันปันก็เช่นกัน ท่านเลือกที่จะให้บทเรียนราคาแพงต่อลูกสาว เพื่อให้ลูกสาวเข้าใจถึงการกระทำของตัวเอง เป็นการลงโทษลูกสาวแบบนึง ที่จะทำให้ลูกสาวเติบโตขึ้นเป็นคนดีของสังคม
ไม่รู้หรอกว่าจากข่าวนี้ จะทำให้น้องปันปันเสื่อมเสียชื่อเสียง ต้องออกจากวงการนักแสดงไหม แต่สิ่งนึงที่คุณพ่อได้ คือลูกสาวจะได้เติบโตเป็นคนดีของสังคม ที่รู้ว่า ถ้าทำความผิด ก็ต้องได้รับผิด ต้องสำนักในความผิด ผมเชื่อว่า น้องปันปันจะได้บทเรียนในครั้งนี้ ต่อให้ยังเสพย์ยาไอซ์อยู่ ก็คงจะเลิกเสพย์แล้วจริงๆ และปรับปรุงตัว กลับตัวเป็นคนดีต่อไปครับ
คนเป็นพ่อควรเป็นแบบนี้ครับ ไม่ใช่ปกป้องลูกจนเกินเหตุ... บางครั้งเราต้องให้บทเรียนราคาแพงต่อลูกบ้างครับ