[CR] มาทำ KOROKKE โคะโระเกะสอดไส้ชีส ทำและทอดยังไงให้เป็นก้อนสวยๆ แบบฉบับคนญี่ปุ่นมาดูกัน สูตรของแม่สามีเราเอง

การทำโคะโระเกะเนี๊ยะทำง่ายมั่กมากกกก  ถ้ารู้วิธีเคยหัดทำเองทอดแล้วนิ่มเละจนไม่ออกมาเป็นทรงเลยสามีคีบกับตะเกียบนี่ต้องหอบกันเลยทีเดียวค่ะ  แต่ตอนนี้ไม่แล้วแม่สามีซึ่งเป็นคนญี่ปุ่นแบบสมัยเก่าสอนให้แล้วมาดูกันค่ะ

1. เลือกมันฝรั่งหัวกลางๆ  สามหัวอย่าเอาหัวเล็กมากหั่นเป็นสี่ชิ้นอย่าหั่นชิ้นเล็กเวลาต้มรสชาติจะไปกับน้ำต้มซะหมดค่ะ  พอน้ำเดือดใส่น้ำตาลลงไปหนึ่งช้อนชา  พอสุกตามด้วยเกลือนิดหน่อยต้มอีกนิดแล้วยกลงกรองให้สะเด็ดน้ำเทใส่กะลังมังปิดฝาไว้ค่ะ  

การทำแบบนี้เพราะอะไรน่ะหรือ  เพราะเวลาไอระอุอยู่ในกะลังมังจะทำให้เนื้อมันฝรั่งเหนียวขึ้นไม่ร่วนซุยนั่นเองค่ะ มันจะทำให้เราปั้นเป็นก้อนจับตัวกันดีขึ้นซึ่งแตกต่างจากการทำสลัดมันฝรั่งแบบญี่ปุ่นที่จะให้ไอระเหยออกด้านนอก พักจนเย็นเนื้อจะซุยเบานุ่มเวลาบดทำเป็นสลัดมันฝรั่งแบบญี่ปุ่นจะต่างกันตรงนี้  ก็แล้วแต่ละบ้านว่าจะชอบสลัดแบบเหนียวๆ  หรือแบบซุยๆ ไม่ได้ตายตัว





2.   ระหว่างรอให้มันฝรั่งเย็นตัวสักครู่เราก็มาทำไส้หมูสับกันค่ะ  

      

หมูบดสับ    1/2   ถ้วย
        หอมใหญ่สับ  1   หัวไม่ใหญ่
        น้ำตาล   1  หนึ่งช้อนชา
        Netmeg  หรือ ผงลูกจันทน์เทศปุ่น  โรยๆ  พอทั่วประมาณหนึ่งหยิบมือค่ะ
        เกลือ   สองหยิบมือ
        พริกไทย     นิดหน่อย


วิธีทำ
        นำหมูสับผัดกับน้ำมันนิดหน่อยนิดจริงๆ  นะแค่ทาๆ  ก้นกะทะก็พออย่าให้ไส้เยิ้มจะปั้นยาก  พอสุกก็ผักกับหอมใหญ่ปรุงรสตามที่บอกผัดแค่พอลวกๆ  ก็พอค่ะอย่าให้สุกเพราะเราต้องการกลิ่นมันด้วยเวลาปั้นใส่โคะโระเกะแล้วทอดออกมากลิ่นจะได้หอมถ้าทำให้เด็กๆ  ทานผัดให้สุกไปเลยเพราะเด็กๆ  ไม่ชอบกลิ่นมันอยู่แล้วค่ะ ผัดแล้วก็พักใส่ชามให้เย็น

       นำมันฝรั่งมาบดพอหยาบๆ   ใส่ไส้ที่เราผัดไว้ลงไปนิดนึงจะเยอะจะน้อยแล้วแต่คนชอบถ้ากินเล่นๆ อย่าใส่เยอะมันจะไปกลบรสมันฝรั่งซะหมดค่ะแต่บ้านเราสามีกินกะข้าวอ่ะเลยใส่เยอะ    บางทีไม่ใส่ก็ได้ผัดแค่หอมใหญ่อย่างเดียวใส่ไปเลยก็ได้ถ้าไม่ชอบหมูแล้วเอาไส้ใส่ตรงกลางเอา   แต่เราใส่มันทั้งสองอย่างเลยฮ่าๆๆ   จะได้อ้วนๆ  คลุกๆ  คนๆ  พักไว้ก่อน




3.   เตรียมโรยแป้งสาลีบนถาดรองก้นไว้ก่อนเลยจ๊ะแล้วไปล้างมือซะ  ไส้ชีสปกติเค้าใช้มอสซาเรลล่าชีสนะคะ   หรือไม่ก็เชดด้าสีส้มๆ  ( หรือเปล่าหว่าาา  )  ของเราวันนี้เราใช้ชีสที่ใส่ขนมปังในเซเว่นอ่ะค่ะเพราะราคาถูกลูกชายชอบมากกว่ามอสซาเรลล่า  แต่แต่งกลิ่นด้วยพามาซานชีสให้สามีหน่อยพอหอมๆ พอดีมีติดบ้านเอาไว้โรยสปาเก็ตตี้อยู่แล้ว     ไส้หมูสับก็เอาไอ้ที่เราผัดทีแรกอ่ะแหละอันเดียวกัน  ยิ่งไว้ใหญ่ก้อนโคะโระเกะเราจะยิ่งใหญ่นะ  (  ของเราเอาใหญ่ๆ  เพราะทำกินเองขี้เกียจปั้นหลายลูกเหอๆ  ปั้นลูกเล็กๆ  จะดูน่ากินน่าหม่ำกว่าเน้อ )




4.   วิธีห่อ   มีเทคนิคนิดนึงค่ะ   เราต้องเอามือแตะน้ำเปล่าตลอดนะเพื่อไม่ให้เนื้อมันฝรั่งติดมือแล้วมันยิ่งทำให้ก้อนมันฝรั่งที่เราปั้นมันเนียนขึ้นอีกด้วยค่ะ  ปกติเวลาเราปั้นขนมเราจะแตะน้ำมันใช่หรือไม่แต่อย่าเอามาแตะเจ้าโคะโระเกะเชียวค่ะเนื้อมันฝรั่งของเราจะไม่ติดกันเลยล่ะ  อย่าให้มือเปื้อนแป้งสาลีด้วยนะ    

ทำแบนๆ  บนฝ่ามือโรยด้วยพามาซานชีส ( ถ้าเป็นเชดด้าและมอสซาเรลล่าชีสไม่ต้องโรยนะ )  เอาชีสมาวางด้านบนประกบเข้าทีละด้านเป็นสี่เหลี่ยมก่อน  แล้วเอามือแตะน้ำปั้นไปเรื่อยๆ  แตะนิดปั้นหน่อยจนเนียนและปกปิดรอบด้านก็วางบนถาดจนหมดโรยแป้งสาลีด้านบนให้ทั่วแล้วเอามาปั้นๆ  คลุกๆ  ให้ทั่ววางไว้ที่เดิมจนหมดปิดด้วยแลปใสเอาไปใส่ช่อฟรีสให้มันแข็งตัวสักสองชั่วโมงค่ะ

  

(  ทำไมต้องแช่แข็งก่อนยังไม่เสร็จเลยน้าาา   นั่นก็เพราะว่าหากมันเป็นก้อนแข็งแล้วเวลาเราเอามาชุบไข่ชุเกล็ดขนมปังมันจะทำง่ายไม่เละเลอะเทอะแถมเป็นก้อนสวยอีกต่างหากซึ่งวิธีนี้แหละที่ทำให้โคะโระเกะของเราทอดออกมาแล้วเป็นก้อนไม่เละไม่นิ่มเวลาตากลมนั่นเองจ้าาา  )




5.   การชุปไข่กับเกล็ดขนมปัง เราจะชุบอย่างละสองรอบจ๊ะ    

เตรียมตีไข่ใส่ชามสี่ฟองเอาให้ไข่แตกตัวเป็นน้ำเลยอย่าตีให้เป็นก้อนวุ้นๆ  เวลาชุบจะได้ทั่วๆ ไม่เป็นวุ้นก้อนๆ   เอาเกล็ดขนมปังใส่กะละมังอย่าเทเยอะเอาแค่เทที่ละหน่อยหากเทเยอะเวลาโดนไข่มันจะเป็นก้อนๆ เวลาโปะไม่หมดไม่เป็นเกล็ด เมื่อก้อนโคะโระเกะเราแข็งได้ที่แล้วก็เอาออกมาจ๊ะ   เตรียมถาดโรยด้วยเกล็ดขนมปังรองก้นไว้ด้วย

ชุบไข่ให้ทั่วหนึ่งครั้ง  แล้ว  โปะด้วยเกล็ดขนมปัง  จากนั้น
ชุบไข่ให้ทั่วอีกรอบ  แล้ว  โปะด้วยเกล็ดขนมปังให้ทั่วเลย โปะๆ  กดๆ เข้าไปเลยจ๊ะ สีจะออกเหลือนวลเชียวแหละ

เอาไปวางบนถาดที่เราดรงเกล็ดขนมปังไว้  ทำแบบนี้ทุกก้อนแล้วเอาไปแช่จนแข็งอีกที  




ทำเช้ากินเย็นอ่ะเพราะใช้เวลานานในการแช่แข็งหลายรอบแต่ทำแล้วแนะให้ทำทีละเยอะหน่อยพราะสามารถเก็บแช่แข็งไว้กินนานๆ  ได้ไม่ต้องเหนื่อยทำหลายรอบ   เมื่อมันแข็งแล้วก็เก็บใส่ถุงซิปแช่แข็งไว้ทานเลยจะทานเมื่อไหร่ค่อยเอามาทอด





6.  การทอดนั้นสำคัญไฉน สำคัญมากทีเดียวค่ะ  มันต้องมีเทคนิคหากเราไม่มีหม้อทอดที่น้ำมันท่วมโลก  แบบว่าหม้อแบบนั้นมันเเปลืองน้ำมันจริงๆ  น้ำมันยิ่งแพงๆ  อยู่ด้วยทอดทีเดียวก็ต้องทิ้งแล้ว    เอาหม้อในครัวเรานี่แหละ

ก่อนตั้งน้ำมันเราต้องเอาก้อนโคะโระเกะของเรานั้นออกมาวางด้านน้องให้มันอ่อนตัวสักครั้งนึงก่อน  อย่าโยนลงไปทั้งก้อนแข็งๆ  แบบนั้นเดี๋ยวข้างนอกจะไหม้ข้างในยังแข็งอยู่  เอาออกมาให้มันอ่อนตัวสักเล็กน้อยก่อน    

มาเรื่อหม้อเราเอาหม้อเทปล่อนใบเล็กกะทัดรัดมาเลยไม่จำเป็นต้องกะทะหรอกค่ะ   เทน้ำมันลงไปกะให้พอท่วมก้อนโคะโระเกะของเราเปิดไฟอ่อนๆ  อย่าแรงนะการทอดโคะโระเกะนั้นต้องไฟอ่อนๆ  ใจเย็นๆ  ถึงจะได้สวยเหมือนที่ร้าน    

พอน้ำมันเริ่มร้อนทั่วกันก็เอาก้อนโคะโระเกะหย่อนลงไปหนึ่งก้อน  เพราะอะไรทำไมหย่อยไปก้อนเดียวก็เพราะน้ำมันจะได้ระอุทั่วๆ  อ่ะนะ น้ำมันก็ร้อนสม่ำเสมอด้วยค่ะ

  

พอเริ่มเปลี่ยนสีออกเหลืองนิดๆ  ก็กลับด้าน   พอดีด้านเหลืองอีกก็กลับด้าน  ทำแบบนี้ด้านละสองครั้งค่ะโคะโระเกะจะเหลือทั่วกันไม่ไหม้ดำ   เราก็คีบพักในตะแกรงได้  ก่อนทอดก้อนต่อไปเอากระชอนตักเศษขนมปังออกก่อนไอ้เศษนี้แหละที่ทำให้ก้อนโคะโระเกะเรามันมีเศษดำๆ ติดมาด้วย  




ทอดออกมาแล้วจะได้แบบนี้ค่ะ  




มาผ่าดูกันจ๊ะ  ไอ้ที่เห็นขาวๆ  นั้นลูกชายเอามีดที่เปื้อนชีสตัดนะคะไส้มันไม่ได้ทะลักแต่อย่างใดจ๊ะ   โคะโระเกะที่ดีตัดออกมาแล้วต้องเป็นก้อนตามเดิมและเป็นแนวไม่เบี้ยว




มาดูขอบกันค่ะ  ขอบก้อนโคะโระเกะจะเป็นทรงแม้เราใช้มือกดหรือบีบก็ไม่แตกเละ  เป็นอันใช้ได้ค่ะ




อันนี้ไส้ชีสกะไส้หมูบดค่ะ





ภาพสุดท้ายแล้วก็หวังว่าสูตรและเทคนิคที่แม่สามีสอนและเราเอามาเผยแพร่ต่อจะเป็นประโยนช์กับแม่บ้านเก่าแม่บ้านใหม่นะค้าาาา  ขอบคุณที่เข้ามาติชมค้าาา  พิมพ์ผิดพิมพ์ถูกหรือเปล่าไม่แน่ใจ





กด Like มาแลกเปลี่ยนสูตรและวิธีทำกันค่ะ อาหารบางสูตรจะลงที่ facebook เป็นหลักตามลิ้งค์ค่ะ

https://www.facebook.com/pages/%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%A7%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%94%E0%B8%B4%E0%B8%9A/348332005298208
ชื่อสินค้า:   อาหารญี่ปุ่น
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่