กระทู้นี้แตกประเด็นมาจาก
http://ppantip.com/topic/30731623
ได้ตอบเพิ่มเติมครั้งล่าสุด วันจันทร์ที่ ๒๙ กรกฏาคม
ใครอ่านก่อนหน้านี้ มีข้อความใหม่ๆ ที่อยากให้อ่านครับ
โดยเฉพาะกล่องความคิดเห็นที่ ๖๒
ใครเข้ามาอ่านกระทู้
ช่วยกดเครื่องหมาย + ด้วยครับ
* อยากจะอธิบายเรื่องแต้มต่อ แบบเป็นรูปธรรมให้ครบถ้วน
เผื่อคนที่ไม่ได้อ่าน เพราะกระทู้ตกเร็วมาก
ก่อนอื่น ขอพูดถึงความเชื่อส่วนตัวที่ว่า
ดัชนีหุ้นได้เลยจุดสูงสุดไปแล้วก่อน
ความเชื่อนี้ จะทำให้เราทำตามที่เชื่อ แบบกระจายความเสี่ยงเหมือนเดิม
ความคิดเห็นที่ 48
ผมก็มองเป็นขาลงในแง่ของ
ปริมาณเงินหมุนเวียนในตลาดหุ้น
ปริมาณหุ้นหมุนเวียนในตลาดหุ้น
เช่น
๑ ไอพีโอ ดูดเงินในตลาด ไปจมอยู่ในบริษัทจดทะเบียน
แล้วยังต้องเพิ่มเงินใหม่อีกก้อน มาทำราคาหุ้นเพิ่ม
แล้วแต่ว่าปริมาณหุ้นหมุนเวียนที่แท้จริงในตลาดมีเท่าไร
จะทำราคาหุ้นที่เท่าไร
เร็วๆนี้ mono ดูดเงินออกไป ๑๖๐๐ ล้าน mc ดูดออกไป ๓ พันล้าน nok 2600 ล้าน
mk จะดูดเงินออกจากตลาดอีก ?
๒ หุ้นปันผล
เงินจริงไม่ได้ถูกจ่ายออกมาจากบริษัทจดทะเบียน
แต่หุ้นจริงถูกเพิ่มเข้ามาในตลาดหุ้นแทน เป็นจำนวนมาก
และพากันเข้ามาในช่วงที่ อำนาจขายของหุ้นสูง
จึงพร้อมจะสร้างแรงกดดันจากการขายทำกำไร
เอาส่วนเกินทุนที่ดีกว่า ถือกินปันผลไปอีกไม่รู้กี่สิบปี
และ
๓ ผมเชื่อเรื่องรอบวัฏจักรของตลาดหุ้น
อย่างไรก็ตาม ความเชื่อเราอาจจะผิดได้เสมอ
ถ้าปริมาณเงินหมุนเวียนที่เติมเพิ่มเข้ามาในตลาด
มีมากพอจะทำหุ้นขึ้นทัน ผลประกอบการของบริษัทต่างๆในตลาด
และทันกับ อำนาจขายของหุ้นและปริมาณหุ้นที่มีเพิ่มขึ้น
ทางออกก็คือ
เลือกแทงกั๊ก เอาเงินต้นของตัวเองขึ้นมา
เอาเงินมายาของคนอื่น ตามไปเล่นสนุกกับคนอื่นต่อ
+
๙ แล้ว ๖ ๖ แล้ว ๙ อะไรคือแต้มต่อที่แต่ละคนใช้ลงทุนในตลาดหุ้น ? + กรณีศึกษา
http://ppantip.com/topic/30731623
ได้ตอบเพิ่มเติมครั้งล่าสุด วันจันทร์ที่ ๒๙ กรกฏาคม
ใครอ่านก่อนหน้านี้ มีข้อความใหม่ๆ ที่อยากให้อ่านครับ
โดยเฉพาะกล่องความคิดเห็นที่ ๖๒
ใครเข้ามาอ่านกระทู้
ช่วยกดเครื่องหมาย + ด้วยครับ
* อยากจะอธิบายเรื่องแต้มต่อ แบบเป็นรูปธรรมให้ครบถ้วน
เผื่อคนที่ไม่ได้อ่าน เพราะกระทู้ตกเร็วมาก
ก่อนอื่น ขอพูดถึงความเชื่อส่วนตัวที่ว่า
ดัชนีหุ้นได้เลยจุดสูงสุดไปแล้วก่อน
ความเชื่อนี้ จะทำให้เราทำตามที่เชื่อ แบบกระจายความเสี่ยงเหมือนเดิม
ความคิดเห็นที่ 48
ผมก็มองเป็นขาลงในแง่ของ
ปริมาณเงินหมุนเวียนในตลาดหุ้น
ปริมาณหุ้นหมุนเวียนในตลาดหุ้น
เช่น
๑ ไอพีโอ ดูดเงินในตลาด ไปจมอยู่ในบริษัทจดทะเบียน
แล้วยังต้องเพิ่มเงินใหม่อีกก้อน มาทำราคาหุ้นเพิ่ม
แล้วแต่ว่าปริมาณหุ้นหมุนเวียนที่แท้จริงในตลาดมีเท่าไร
จะทำราคาหุ้นที่เท่าไร
เร็วๆนี้ mono ดูดเงินออกไป ๑๖๐๐ ล้าน mc ดูดออกไป ๓ พันล้าน nok 2600 ล้าน
mk จะดูดเงินออกจากตลาดอีก ?
๒ หุ้นปันผล
เงินจริงไม่ได้ถูกจ่ายออกมาจากบริษัทจดทะเบียน
แต่หุ้นจริงถูกเพิ่มเข้ามาในตลาดหุ้นแทน เป็นจำนวนมาก
และพากันเข้ามาในช่วงที่ อำนาจขายของหุ้นสูง
จึงพร้อมจะสร้างแรงกดดันจากการขายทำกำไร
เอาส่วนเกินทุนที่ดีกว่า ถือกินปันผลไปอีกไม่รู้กี่สิบปี
และ
๓ ผมเชื่อเรื่องรอบวัฏจักรของตลาดหุ้น
อย่างไรก็ตาม ความเชื่อเราอาจจะผิดได้เสมอ
ถ้าปริมาณเงินหมุนเวียนที่เติมเพิ่มเข้ามาในตลาด
มีมากพอจะทำหุ้นขึ้นทัน ผลประกอบการของบริษัทต่างๆในตลาด
และทันกับ อำนาจขายของหุ้นและปริมาณหุ้นที่มีเพิ่มขึ้น
ทางออกก็คือ
เลือกแทงกั๊ก เอาเงินต้นของตัวเองขึ้นมา
เอาเงินมายาของคนอื่น ตามไปเล่นสนุกกับคนอื่นต่อ
+