ดิฉันสามารถทำอะไรได้บ้าง?

กระทู้คำถาม
เรื่องมีอยู่ว่า ลูกชายคนเล็กของดิฉัน อายุ 1 ขวบ 3เดือน เป็นไข้สูง ให้ทานยาและเช็ดตัวอยู่2-3วัน ไข้ก็ขึ้นๆลงๆ จึงนำน้องเข้าตรวจที่ รพ.ศิครินทร์ บางนา คุณหมอแนะนำให้แอดมิต และนำเลือดไปตรวจ เนื่องจากน้องไม่มีไอ ไม่มีน้ำมูก หรืออาการใดๆ พบแต่อาการคอแดงซึ่งต้องให้ยาแก้อักเสบ และตอนทราบราคาค่าห้องเดี่ยวละห้องรวมแล้ว ห้องเดี่ยวอยู่ที่5500-6000 และห้องรวมอยู่ที่2400+/คืน ดิฉันจึงตัดสินใจเลือกห้องรวม เพราะราคาถุกกว่าเยอะ และเจ้าหน้าที่ก็แจ้งว่า ห้องนึง จะมีแค่3เตียงเท่านั้น พอนำน้องไปเจาะเลือด ใส่สายน้ำเกลือเสร็จสรรพ ก็ไปถึงห้อง เจอเด็กผู้ชายนอนอยู่เตียงเดียว คือเตียงหมายเลข2 และมีม่านกั้น ดูสะอาดสะอ้าน ลูกเรานอนเตียงที่3ดิฉันก็ไม่ได้คิดอะไร นอนเฝ้าน้องไปคืนนึงคนเดียว เพราะทาง รพ. อนุญาตให้เฝ้าได้คนเดียว คืนนั้นน้องก็มีไข้ตอน4ทุ่ม และไม่มีไข้อีกเลยหลังจากนั้น เช้าวันรุ่งขึ้น หมอมาแจ้งว่าผลเลือดน้องไม่มีอะไรผิดปรกติ จะมีก็แค่อาการขาดน้ำ ทำให้ความร้อนในตัวสูง และอาการอ่อนเพลีย หมอให้รอดูอาการช่วงบ่าย ถ้าไม่มีอะไรน่าห่วง ก็สามารถอนุญาตให้กลับบ้านได้ พอหมอออกไป ดิฉันหันไปคุยกะแม่ของเด็กเตียงที่2 ว่าน้องเขาเป็นอะไร นอนมากี่วันแล้ว แม่เด็กตอบว่า น้องเขาเป็นไวรัสหวัด RSV ซึ่งป่วยมา3-4วันแล้ว ดิฉันตอนนั้นไม่ทราบเลยว่ามันคืออะไร แต่ใจนึงห่วงลูก ว่าจะติดกันได้รึปล่าว เพราะนอนห้องเดียวกัน รอจนหมอมา เลยถาม คุณหมอบอก คงไม่ติดนะครับ เพราะเตียงก็ห่างกัน3ฟุต และเรามีม่านกั้นแล้ว! ม่าน!!! ใจดิฉันหล่นวูบ รีบโทรไปบอกแฟน แล้วตัดสินใจ เชคเอาท์ออกจาก รพ เย็นวันนั้นทันที จ่ายค่ารักษาไปทั้งหมด 12950 บาท

ในระหว่างทาง แฟนดิฉันรู้สึกข้องใจในคำตอบของหมอ และข้องใจในการตัดสินใจจัดลูกเราไปอยู่ในห้องรวมกะเด็กที่มีเชื้อนั้น มันไม่เป็นไรจริงหรือ? จึงวนรถกลับมาถามทาง รพ. เขาต่อสายให้เจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบเรื่องการจัดห้อง ซึ่งเป็นพยาบาล ได้รับคำตอบว่า ไม่เคยมีเคสนี้มาก่อนที่เด็กนอนห้องรวม จะติดโรคกัน และได้พาน้องไปเนอสเซอรี่รึป่าวคะ แฟนตอบว่าเราเลี้ยงเอง และที่บ้านก็ไม่มีคนพลุกพร่าน มีแต่ดิฉันและลูก ส่วนแฟนก็ทำงาน เขาปิดท้ายคำตอบว่า ทางเราไม่มีนโยบายรักษาให้ฟรีในกรณีนี้นะคะ (ซึ่งเราไม่ได้ถามนะ และก้ไม่คิดจะต้องกลับมาใช้บริการรักษาฟรีไรนี่ด้วย)

กลับมาบ้านได้5วัน ลูกอาการปกติ ไม่มีไข้หรือไอ หรืออะไรเลย เรายังไมไ่ด้อาบน้ำให้ลูก ได้แต่เช็ดตัว และดุแลกันอย่างใกล้ชิด เพราะกลัวจะไข้อีก แล้วสิ่งที่เรากลัวก็เกิดขึ้น วันที่6 ลูกมีอาการไอ และไอมากขึ้นและมีน้ำมูก ดิฉันให้แฟนพาไปที่ศิครินทร์ ตรวจน้ำมูกดูว่าเป็นอะไร ก็ได้รับคำตอบว่า ลูกติดเชื้อหวัด RSV โรคเดียวกะเด็กเตียงข้างๆ เราไปเซิร์ชหาอาการและผลของมัน มันไม่มียารักษา และมันดุน่ากลัวมาก คุณหมออีกท่านที่ รพ. บอกว่า โรคนี้ ไม่มีวัคซีนแก้ ต้องรักษาเฉพาะจุดไปเรื่อยๆ เช่นเป็นหวัด ก็ทานยาลดน้ำมูก ไอก็กินยาแก้ไแ ไปจนกว่าอาการจะหายไปเอง แต่ในอนาคต เด็กอาจจะมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคหอบหืดได้! และโรคนี้ก็อันตรายมากสำหรับเด้กที่มีอายุต่ำกว่า2ปี!!! ดิฉันและแฟน เราพูดอะไรไม่ออก รพ ส่งเจ้าหน้าที่ พูดลักษณะเหมือนว่า พาหะอาจจะเป็นคุณพ่อหรือใครก็ได้ แต่เชื้อไม่แสดงชัดเจนกับผู้ใหญ่

ดิฉันมีลูกชาย2คน เขาอยู่ด้วยกัน เขานอนด้วยกัน ตอนน้องกลับจาก รพ. เขาก็นอนห้องเดียวกัน จนตอนนี้ยังไม่รู้เลยว่า คนโตจะติดด้วยรึปล่าว ดิฉันเลี้ยงลูกมาอย่างดี ไม่เคยพาออกไปไหนเลย แม้แต่ห้างหรือที่ที่มีคนพลุกพล่าน และเลี้ยงเอง ไม่ได้ไปเนอสเซอรี่ ตอนนี้น้องก็ยังนอนอยู่ข้างๆ โดยหมอนัดตรวจอีกครั้งวันพฤหัส แต่คิดว่าคงไม่รอแล้วล่ะค่ะ เพราะน้องมีไข้สูง และมีอาการไอมาก กลัวจะเป็นปอดติดเชื้ออีก ตอนนี้ดิฉันทุกข์ใจมาก เพราะรับรู้ได้ว่าเราโดนเอาเปรียบ โดนไม่ได้รับการใส่ใจจากความมักง่ายหรืออะไรก้แล้วแต่ของทาง รพ. รบกวนผู้มีความรู้ แนะนำดิฉันสักนิดเถอะค่ะ ว่าควรทำอย่างไรดี ดิฉันอยากร้องเรียนเรื่องนี้มากๆ แต่ไม่รู้จะเริ่มตรงไหน ยังงัย และที่ดิฉันนำน้องไปตรวจที่นั่นอีกครั้ง ก็เป็นเพราะอยากถาม อยากทราบว่าเขาจะรับผิดชอบหรือมีคำตอบอะไรให้เราได้บ้าง ก็ได้มาแต่คำว่า เดี๋ยวจะเอาไปคุยกันดู! รอบนี้คงแอดมิตที่จุฬาแล้วล่ะค่ะ และจะจำจนวันตายเลยว่าเราโดนอะไรมา บทเรียนอันแสนสาหัสของครอบครัวเรา
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่