เมื่อช่วงวันอาทิตย์ที่ 21 ก.ค. ที่ผ่านมาได้ออกเดินทางไปเที่ยวทุ่งดอกกระเจียว อ.เทพสถิต จ.ชัยภูมิ
ซึ่งตอนนี้ก็เป็นช่วงท่องเที่ยวทุ่งดอกกระเจียว ที่จะมีขึ้นในช่วงวันเข้าพรรษา
จริงๆการเที่ยวช่วงที่เป็นวันหยุดยาวต่อเนื่องหลายวัน ก็ทำใจไว้แล้วว่าจะต้องเจอกับเหตุการณ์แบบนี้
แต่ไม่คิดว่ามันจะไม่ประทับใจมากมายขนาดนี้
เมื่อไปถึงก็เวลาประมาณ 7 โมงเช้า ก็ไปวนหาที่จอดรถก็ได้ที่จอดรถเอกชนเสียค่าจอดรถนิดหน่อย ไม่เป็นไร
พอเดินขึ้นไปก็เห็นนักท่องเที่ยวบริเวณจุดซื้อบัตรเข้าอุทยานล้นหลาม ตอนซื้อบัตรเข้าก็ไม่มีปัญหาอะไร
มาตอนนี้ต้องต่อแถวเพื่อจะขึ้นรถรางไปชมดอกกระเจียว เราก็ไปทีหลังเห็นหางแถวเป็น 5 แถว เราก็เข้าไปต่อแถว
เพื่อรอขึ้นรถ สักพักก็มี จนท.อปพร. ประกาศว่าให้ยุบแถวเหลือ 3 แถว ทีนี้ก็งานเข้าแล้ว 2 แถวที่เกินมานี่จากไหนหว่า
แล้วใครล่ะที่จะต้องเป็นคนที่ถูกยุบแถว นักท่องเที่ยวมากมายบ่น จนท ทำไมไม่จัดแถวบ้างล่ะ ใครจะยอมยุบต่อแถวมาตั้งครึ่งชั่วโมง ฯลฯ
แต่สุดท้ายก็เบียดๆกันไปจนได้ 3 แถว
ทีนี้รถรางก็มา 1 คันขึ้นได้ 28 คน คิดค่าบริการให้วิสาหกิจชุมชน 20 บาท/คน ทั้งไปและกลับ ขึ้นลงได้ตลอดตามจุดจอด จนท.ว่าไว้อย่างนั้น
ปัญหาใหญ่อยู่ตรงนี้แหละว่า รถรางที่วิ่งไปส่งคนบริเวณผาสุดแผ่นดิน เป็นจุดจอดที่่ 1
ซึ่งนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ก็จะลงเพื่อไปถ่ายรูปกันที่จุดนี้มาก แล้วขึ้นรถรางต่อไปจุดที่ 2 ดูดอกกระเจียว
เราก็ขึ้นจากจุดผาสุดแผ่นดินมาลงจุดที่่ 2 เพื่อดูดอกกระเจียว จนดูเสร็จเราจะกลับ ก็มารอรถรางตรงจุดที่เค้าจอดส่ง
แต่ปรากฏว่าเราไม่สามารถขึ้นรถรางนั้นได้อีก เพราะมันเต็มมาจากจุดแรกแล้ว นักท่องเที่ยวมากมายที่รอขึ้นรถตรงจุดนี้
ไม่มีใครได้ขึ้นรถเลย มีทั้งเด็ก คนแก่ ผู้พิการ ต่างนั่งรอรถกันเป็นชั่วโมง ครั้นจะให้เดินลงเขาไปข้างล่างก็คงจะไม่ไหว
แล้วไกด์ที่คอยอธิบายบนรถ ก็ประกาศว่าให้รอรถคันต่อไปเรื่อยๆ บางคันก็พูดจาไม่ดี เหมือนขอขึ้นฟรี อะไรอย่างนั้น
จริงๆก็น่าจะมีรถเปล่าวิ่งมารับนักท่องเที่ยวรายทางบ้าง เพื่อเป็นการระบายคนที่ซื้อตั๋วและแวะเที่ยวรายทาง
นี่เราเห็นคนแก่บางคนต้องเดินลง หน้าซีดจะเป็นลม โบกรถรางก็ไม่จอดรับ ก็ต้องเดินกันไป
จริงๆ แล้วอยากให้ทางอุทยานฯหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดการกับปัญหาที่เกิดขึ้นนี้
ทั้งการจัดแถวรอขึ้นรถราง การขับรถวนรับส่งนักท่องเที่ยว ที่ไปเที่ยวช่วงเทศกาลแบบนี้
ให้ดีขึ้นเพื่อให้เกิดความประทับใจ แต่เข้าใจว่าเราไม่สามารถทำให้ทุกคนประทับใจได้หมด แต่ควรแสดงถึงการแก้ปัญหาจะดีกว่า
ระบบการบริหารจัดการนักท่องเที่ยว ณ ทุ่งดอกกระเจียว จ.ชัยภูมิ
ซึ่งตอนนี้ก็เป็นช่วงท่องเที่ยวทุ่งดอกกระเจียว ที่จะมีขึ้นในช่วงวันเข้าพรรษา
จริงๆการเที่ยวช่วงที่เป็นวันหยุดยาวต่อเนื่องหลายวัน ก็ทำใจไว้แล้วว่าจะต้องเจอกับเหตุการณ์แบบนี้
แต่ไม่คิดว่ามันจะไม่ประทับใจมากมายขนาดนี้
เมื่อไปถึงก็เวลาประมาณ 7 โมงเช้า ก็ไปวนหาที่จอดรถก็ได้ที่จอดรถเอกชนเสียค่าจอดรถนิดหน่อย ไม่เป็นไร
พอเดินขึ้นไปก็เห็นนักท่องเที่ยวบริเวณจุดซื้อบัตรเข้าอุทยานล้นหลาม ตอนซื้อบัตรเข้าก็ไม่มีปัญหาอะไร
มาตอนนี้ต้องต่อแถวเพื่อจะขึ้นรถรางไปชมดอกกระเจียว เราก็ไปทีหลังเห็นหางแถวเป็น 5 แถว เราก็เข้าไปต่อแถว
เพื่อรอขึ้นรถ สักพักก็มี จนท.อปพร. ประกาศว่าให้ยุบแถวเหลือ 3 แถว ทีนี้ก็งานเข้าแล้ว 2 แถวที่เกินมานี่จากไหนหว่า
แล้วใครล่ะที่จะต้องเป็นคนที่ถูกยุบแถว นักท่องเที่ยวมากมายบ่น จนท ทำไมไม่จัดแถวบ้างล่ะ ใครจะยอมยุบต่อแถวมาตั้งครึ่งชั่วโมง ฯลฯ
แต่สุดท้ายก็เบียดๆกันไปจนได้ 3 แถว
ทีนี้รถรางก็มา 1 คันขึ้นได้ 28 คน คิดค่าบริการให้วิสาหกิจชุมชน 20 บาท/คน ทั้งไปและกลับ ขึ้นลงได้ตลอดตามจุดจอด จนท.ว่าไว้อย่างนั้น
ปัญหาใหญ่อยู่ตรงนี้แหละว่า รถรางที่วิ่งไปส่งคนบริเวณผาสุดแผ่นดิน เป็นจุดจอดที่่ 1
ซึ่งนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ก็จะลงเพื่อไปถ่ายรูปกันที่จุดนี้มาก แล้วขึ้นรถรางต่อไปจุดที่ 2 ดูดอกกระเจียว
เราก็ขึ้นจากจุดผาสุดแผ่นดินมาลงจุดที่่ 2 เพื่อดูดอกกระเจียว จนดูเสร็จเราจะกลับ ก็มารอรถรางตรงจุดที่เค้าจอดส่ง
แต่ปรากฏว่าเราไม่สามารถขึ้นรถรางนั้นได้อีก เพราะมันเต็มมาจากจุดแรกแล้ว นักท่องเที่ยวมากมายที่รอขึ้นรถตรงจุดนี้
ไม่มีใครได้ขึ้นรถเลย มีทั้งเด็ก คนแก่ ผู้พิการ ต่างนั่งรอรถกันเป็นชั่วโมง ครั้นจะให้เดินลงเขาไปข้างล่างก็คงจะไม่ไหว
แล้วไกด์ที่คอยอธิบายบนรถ ก็ประกาศว่าให้รอรถคันต่อไปเรื่อยๆ บางคันก็พูดจาไม่ดี เหมือนขอขึ้นฟรี อะไรอย่างนั้น
จริงๆก็น่าจะมีรถเปล่าวิ่งมารับนักท่องเที่ยวรายทางบ้าง เพื่อเป็นการระบายคนที่ซื้อตั๋วและแวะเที่ยวรายทาง
นี่เราเห็นคนแก่บางคนต้องเดินลง หน้าซีดจะเป็นลม โบกรถรางก็ไม่จอดรับ ก็ต้องเดินกันไป
จริงๆ แล้วอยากให้ทางอุทยานฯหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดการกับปัญหาที่เกิดขึ้นนี้
ทั้งการจัดแถวรอขึ้นรถราง การขับรถวนรับส่งนักท่องเที่ยว ที่ไปเที่ยวช่วงเทศกาลแบบนี้
ให้ดีขึ้นเพื่อให้เกิดความประทับใจ แต่เข้าใจว่าเราไม่สามารถทำให้ทุกคนประทับใจได้หมด แต่ควรแสดงถึงการแก้ปัญหาจะดีกว่า